xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ติง “จตุพร” โหมแก้ พ.ร.บ.กลาโหม แทรกแซงงานมั่นคง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้นำฝ่ายค้านแนะ รบ.แก้ปัญหาในเชิงรุก อย่ามัวไล่ตามปัญหา สะกิด “ปู” บัญชาการแก้ปัญหาด้วยตนเองเพื่อให้การบริหารจัดการทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้องใจ พท. ดื้อรั้น คิดแก้ พ.ร.บ.กลาโหม ชี้พฤติกรรมเข้าข่ายขยายฐานอำนาจ-หวังแทรกแซงงานความมั่นคง แนะย้อนดูเจตนาแนวทางปฏิรูปการเมืองหวังลดบทบาทฝ่ายบริหาร

วันนี้ (9 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ถึงกรณีหลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะลุกลามเข้าเขตกรุงเทพมหานครว่า เรื่องนี้ทาง กทม.กับรัฐบาลต้องประสานงานกันในเรื่องของการระบายน้ำ ส่วนแนวป้องกันต่างๆ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปดูที่ จ.ปทุมธานี ยอมรับว่าคงต้องทำงานกันหนัก ซึ่งที่ จ.ปทุมธานีก็มีหลายฝ่ายเข้ามาช่วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนคิดว่ารัฐบาลน่าจะเร่งทำความชัดเจนในหลายพื้นที่ทั้งปริมณฑล ทั้งภาคกลางตอนล่างว่าจะมีการจัดระบบ และสื่อสารในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการอพยพคนอย่างไร เพราะเราจะเห็นว่าหลายหน่วยงานอาจจะมีการนำเสนอ เช่น มหาวิทยาลัยในเรื่องนี้ แต่จริงๆ แล้วอยากให้รัฐบาลมีศูนย์ในส่วนหน้าที่ประกาศได้เลยว่าภัยได้เกิดขึ้นที่จุดไหนอย่างไร แล้วต้องอพยพไปอยู่ที่ไหน เพื่อให้การบริหารจัดการสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จากการให้สัมภาษณ์ของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ที่ระบุว่าประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พลาดไป คิดว่าอาจจะมีส่วนหนึ่งที่ส่งผลกระทบ ตนคิดว่าขณะนี้ต้องตั้งหลักว่าพยายามทำงานล้ำหน้าปัญหา แทนที่จะไล่ดูตามพื้นที่ที่เกิดปัญหาขึ้น ในพื้นที่ซึ่งปัญหายังไม่เกิดหรือกำลังต่อสู้ป้องกันกันอยู่มันก็มีแผนว่าถ้าเอาไม่อยู่จะต้องอพยพกันอย่างไร เมื่อถามว่าเวลานี้ถือว่าเราอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน ถ้ารัฐบาลมีความจำเป็นที่จะประกาศบางพื้นที่ว่าเป็นพื้นที่ที่มีภาวะฉุกเฉินก็สามารถทำได้ ถ้าเห็นว่ามันจะมีประโยชน์ในการระดมหน่วยงานภาครัฐ และการสั่งการง่ายขึ้นก็น่าจะทำได้

“เรื่องนี้อาจจะต้องมีคนดูแลเต็มเวลา แต่สุดท้ายแล้วนายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้บัญชาการและตัดสินใจได้ ถ้านายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะบัญชาการเองคงจะคล่องตัวขึ้น ส่วนรัฐบาลยังบริหารจัดการน้อยเกินไปหรือไม่นั้น ตนคิดว่าระบบของการตัดสินใจดูแล วางแผนในภาพรวม และการทำระบบในส่วนหน้าที่จะดูแลพื้นที่ในเชิงการตัดสินใจเกี่ยวกับการอพยพประชาชนหรือให้คำแนะนำประชาชนว่าวิธีไหนจะดีที่สุดในการช่วยเหลือประชาชนให้ทั่วถึงอยากให้เร่งทำให้มากขึ้น”

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ระบุจะเคลื่อนไหวแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม ทันทีหลังเสร็จสิ้นสถานการณ์น้ำท่วมว่า อย่างที่เคยให้ความเห็นว่าหากจะมีการแก้ไขก็ต้องบอกให้ได้ว่ากฎหมายที่ใช้อยู่ปัญหาในเชิงนโยบายอย่างไร ถ้าไม่มีคำตอบก็ไม่มีเหตุผลจะแก้ไข พฤติกรรมดังกล่าวเชื่อว่าเป็นความพยายามขยายฐานอำนาจของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยพยายามทำและนำเสนอมาตลอด ไม่เฉพาะกรณีกองทัพเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงองค์กรอิสระต่างๆ ด้วย ทั้งที่เจตนารมณ์การปฏิรูปการเมืองที่มีรัฐธรรมนูญปี 40 ส่วนหนึ่งคือการไม่ให้มีการขยายอำนาจฝ่ายการเมืองมากเกินไป คือต้องการให้ฝ่ายการเมืองทำในเชิงนโยบาย แต่มิติในการบริหารบางเรื่องเช่นนโยบายการเมือง ความมั่นคง ไม่ควรมีฝ่ายการเมืองมากเกินไป

ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เหมือนกำลังมีปัญหากับ รมว.คลังนั้นน่ายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากให้ฝ่ายการเมืองเข้าใจเจตนารมณ์ของระบบที่วางกันมา เพราะมันมีบทเรียนในอดีตว่าเมื่อฝ่ายการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวมากจะเกิดวิกฤต เช่นในวิกฤตปี 40

เมื่อถามว่ากรณีที่ รมว.คลังให้สัมภาษณ์ถึงธปท.ว่าควรจะใช้สมองในการทำงาน ถือเป็นคำพูดที่รุนแรงและเกินกว่าเหตุไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่สามารถที่จะจัดการและสื่อสารกันได้ ถือเป็นการพยายามโยนแรงกดดันไปที่ ธปท. เพิ่มเติมซึ่งไม่ควรจะทำอีก อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ ธปท.ก็ต้องกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น