เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ในที่สุดรัฐบาลของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้ฤกษ์ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาน้ำท่วมที่กำลังวิกฤติ แม้ว่าจะ“สาย”ไปแล้ว แต่ก็ยังดีที่ยังมีความคิด มีหน่วยที่รับผิดชอบดูแลโดยตรง เพียงแต่ว่าอาจจะมีข้อสงสัยไม่ไว้ใจอยู่บ้างเป็น “รายบุคคล”ว่าจะมี “วุฒิภาวะ” และความพร้อมจะแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้เหมาะสมดีพอหรือไม่ เกรงว่าจะยิ่งสร้างความสับสนวุ่นวายมากขึ้นไปอีกหรือเปล่า
00 แม้ว่าตัวประธาน ศปภ. คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม จะพอไว้ใจได้ แต่หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ อย่าง ปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นี่สิชักไม่แน่ใจ เพราะด้วยบุคลิกที่ดูแล้ว คลับคล้ายคลับคลาออกไปในทาง “เพี้ยน” จะทำให้การแก้ปัญหายุ่งเหยิงมากขึ้นหรือไม่ ล่าสุดก็เกิดขึ้นจนได้ในเรื่องเร่งรีบแถลงข่าวเรื่อง“ปริมาณน้ำ” ที่ผิดพลาด ทำให้ต้องรีบออกมาแถลงปฏิเสธทันควัน ก็หวังว่าระหว่างปฏิบัติการอย่า “ทำฮีโร่” บุกเดี่ยวไปนั่งหัวเรือ “ยิงจระเข้” เหมือนเมื่อครั้งที่เป็นอธิบดีกรมประมง เมื่อหลายปีก่อนก็แล้วกัน
00 แม้ว่านายกฯปู ยอมรับว่าปัญหามันหนาสาหัสเกินคาด ถ้าจะพูดว่า “เกินคาด” ก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก เพราะปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ถ้าบอกว่ามันฉับพลันทันด่วนหรือไม่ ก็ไม่ใช่ เพราะกว่าที่น้ำเหนือ และหลังจากพายุลูกแรกพัดถล่มก็มีเวลาตั้งตัวนานหลายสัปดาห์ ทำไมไม่ตั้งศูนย์ดังกล่าวแบบ “รวมศูนย์” ช่วยเหลือตั้งแต่ต้นมือ แต่นี่กลับไปตั้งหน่วยงานอะไรก็ไม่รู้ “สะเปะสะปะ” แถมยังมัวแต่ “เล่นการเมือง” ทำลายฝ่ายตรงข้าม หรือมัวแต่เฉิดฉายไปเยือนต่างประเทศแบบไร้สาระ ทำให้ถูกตำหนิว่า “ช่วยเหลือ” เอื้อประโยชน์ให้กับ “พี่แม้ว” เสียเวลาอยู่นาน
00 สังเกตหรือไม่ว่ากรรมการใน ศปภ. กลับไม่ปรากฏชื่อของ รมว.เกษตรฯ ธีระ วงศ์สมุทร จากพรรคชาติไทยฯ เข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง ทั้งที่เป็นหน่วยงานหลัก บรรยากาศเหมือน “ถูกกันออกนอกวง” มีเพียง “อธิบดีกรมชลประทาน” ที่ถูกดึงเข้ามาให้มารายงานถึงปริมาณน้ำเท่านั้น ไม่รู้ว่านี่คือแผนรุกคืบเข้ามา “ฮุบ” กรมชลฯ ตามที่ สุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.สอบตก ลพบุรี และ พายัพ ปั้นเกตุ จากสิงห์บุรี นำร่องขึ้นมาก่อนหน้านี้ ในช่วงถล่มบ้านบรรหาร ศิลปอาชา ด้วยข้อหากักน้ำไม่ให้ท่วมสุพรรณฯ หรือเปล่า แต่งานนี้มันผิดสังเกตพิกล
00 ถ้าเป็นจริงรับรองว่าสนุกแน่ เพราะหาก “มองข้ามช็อต” ต้องไม่ลืมว่าหลังน้ำลดจะต้องมีงบฟื้นฟูขนานใหญ่ งบประมาณมหาศาล ทั้งในเรื่องแผนบริหารจัดการ 25 ลุ่มน้ำ การซ่อมแซมขุดลอกคลองใหม่แทบทั้งหมด เรียกได้ว่า กรมชลประทานจะเป็น “หน่วยงานหลัก” หลังจากนี้ “เสี่ยเติ้ง” จะคิดอย่างไร เมื่อถูก “ทุบหม้อข้าว” จนยับเยิน
00 ผ่านไปแล้วสามสี่วันกับโครงการ “รับจำนำข้าว” แต่บรรยากาศก็ยังเงียบเหงา เพราะสาเหตุจากปัญหาสารพัด ทั้งน้ำท่วมเดินทางเข้ามาไม่สะดวก ข้าวก็ไม่อยู่ในมือชาวนา รวมทั้งไม่เข้าเงื่อนไข ไม่ได้ลงทะเบียน ไม่มีใบรับรองจากหน่วยงานราชการ ปัญหาส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่ได้มีการทำความเข้าใจ ขาดการประชาสัมพันธ์กันอย่างกว้างขวาง อีกทั้งข้าวที่นำมาจำนำส่วนใหญ่ “ความชื้นสูง” ทั้งสิ้น ไม่ใช่ แค่ 15 เปอร์เซ็นต์ตามเงื่อนไข นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มจะเกิดการทุจริตซ้ำรอยค่อนข้างแน่ โดยเฉพาะการ “สวมสิทธิ์” จากพ่อค้าโรงสี ที่สต็อกข้าวกันล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว หวังว่ารองนายกฯกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ประกาศเอาอนาคตเป็นเดิมพันจะโชคดี !!