ส.ส.พิษณุโลก ปชป.อ้างมึนหนทางรัฐป้องกันโกงจำนำข้าว ชี้ ส่อพบช่องว่างโกง หลังเกษตร-ธ.ก.ส.พูดเลขไม่ตรงกัน จี้เปิดเผยจำนวนข้าวทั้งหมด ยันเกษตรกรได้ประโยชน์น้อย สวน “กิตติรัตน์” สับจ่ายหมื่นห้าต่อตันยิ่งทำคนหันปลูกข้าวเพิ่ม ส่อได้คุณภาพต่ำ แนะชาวนาจำไว้ “ทักษิณ” ตัวทำลายระบบ พร้อมเปิดฮอตไลน์ร้องเรียนจันทร์นี้
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดิชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รมช.พาณิชย์เงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่เริ่มดำเนินโครงการวันนี้เป็นวันแรกว่า ยังไม่เห็นความชัดเจนของรัฐบาลในการที่จะวางมาตรการป้องกันการทุจริตจากโครงการนี้ ทั้งที่หลายฝ่ายได้ท้วงติงว่าจะเกิดความเสียหายในหลายด้าน โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีการระบุถึงตัวเลขผลผลิตที่จะออกมาในปีนี้ ที่ไม่ตรงกัน ซึ่งจะกลายเป็นช่วงว่างทำให้เกิดการสวมสิทธิ์ทุจริตได้ โดยกระทรวงเกษตรกร ระบุว่า จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 22 ล้านตัน ในขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรกรและสหกรณ์ กลับระบุว่าจะมีผลผลิตในปีนี้เพียง 20 ล้านตันเท่านั้น เมื่อตัวเลขยังมีความคลาดเคลื่อนเช่นนี้จะทำให้เกิดความโปร่งใสได้อย่างไรว่าจะไม่มีการสวมสิทธิ์ในโครงการนี้ ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้เกิดความโปร่งใส คือ การเปิดเผยตัวเลขข้าวที่จะเข้าโครงการทั้งในส่วนของโรงสี และผลผลิตจากเกตรกร ซึ่งในครั้งนี้รัฐบาลได้ใช้การทำประชาคมเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการตามแนวที่โครงการประกันรายได้ของรัฐบาลชุดที่แล้วได้ดำเนินการไว้
“แต่ขอเตือนว่า การทำประชาคมดังกล่าวจะทำให้เกษตกรกลายเป็นเหยื่อการทุจริตของฝ่ายบริหารหรือไม่ เนื่องจากปัญหาการทุจริตในโครงการจำนำข้าวไม่ได้เกิดจากชาวบ้าน แต่เกิดจากกระบวนการของรัฐ ในการดำเนินนโยบายนี้ คือ ฝ่ายการเมืองร่วมกับข้าราชการและโรงสีปั่นตัวเลขปลอมใบประทวน และปล่อยให้มีการสวมสิทธิ์ ซึ่งที่ผ่านมาทำให้รัฐสูญเสียนับแสนล้านบาท โดยจากการตระเวณตรวจสอบวันแรกที่เปิดรับจำนำพบว่ายังไม่มีเกษตรกรไปใช้ประโยชน์จากโครงการนี้มากนัก เนื่องจากเกษรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ไม่มีข้าวเป็นผลผลิตไปจำนำ”
นพ.วรงค์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ มีนโยบายที่จะลดพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ว่า เป็นนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเพราะเมื่อรัฐบาลมีการรับจำนำข้าวในราคาสูงถึง 15,000 บาทต่อตัน จะไม่มีเกษตรกรรายได้จะยอมลดพื้นที่การเพาะปลูก มีแต่จะปลูกข้าวเพิ่มขึ้นและจะทำให้วงจรข้าวคุณภาพต่ำกลับมาระบาดอีกครั้ง รวมทั้งจะเกิดปัญหาศัตรูพืชกลับมาระบาดด้วย เนื่องจากที่ผ่านมามีการปลูกข้าวตลอดทั้งปีทำให้เพลี้ยระบาดหนักจนรัฐบาลต้องขอความร่วมมือเกษตรกรพักการเพาะปลูก โดยให้ชาวนาปลูกข้าวเพียง 2 ครั้งต่อปี จนกระทั้งปัญหาเพลี้ยกระโดดลดลง แต่เมื่อรัฐบาลมาดำเนินโครงการจำนำข้าวก็จะทำให้เกษตรกรเร่งที่จะปลูกข้าว เพื่อนำผลผลิตมาจำนำตามที่รัฐบาลประกาศว่ารับทุกเม็ด ปัญหาเก่าที่เคยแก้ไขได้แล้วก็จะกลับมาอีก ทั้งข้าวคุณภาพต่ำและศัตรูพืชในขณะที่รัฐบาลก็ยังไม่มีแนวทางในการแก้ปัญหาทุจริตเลย
รมช.พาณิชย์เงา ยังตั้งข้อสังเกตที่ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ฉายสไลด์ลายเซ็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ ว่า เป็นผู้ริเริ่มโครงการจำนำข้าว ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดโครงการดังกล่าวว่า ความจริงโครงการนี้มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2524 จึงไม่ใช่โครงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณคิด แต่ขอให้คนไทยทั้งประเทศจำลายเซ็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฉายบนจอสไลด์ครั้งนี้ ว่า คือ บุคคลที่ทำลายระบบข้าวของประเทศไทยให้ล่มสลายเพราะมีการทำโครงการจำนำข้าวแบบบิดเบือนกลไกตลาดด้านราคาในยุคแรกๆ ไม่ได้ทำโครงการตามหลักวิชาการ
“เมื่อทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์นำมาปฏิบัติ ก็ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศนี้ด้วย”
นพ.วรงค์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศตัวเลขข้าวที่เข้าโครงการให้ชัดเจนว่ามีจำนวนเท่าใด โดยแยกทั้งในส่วนของโรงสี และเกษตรกร เพื่อให้มีการตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการทุจริตได้ อย่างไรก็ตามเห็นว่าเป็นเรื่องยากที่รัฐบาลจะป้องกันการทุจริตได้เหมือนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายกิตติรัตน์ ออกมาให้ความมั่นใจกับสังคม แต่เมื่อรัฐบาลยังดึงดันที่จะทำโครงการนี้ทั้งที่หลายฝ่ายท้วงติงว่าจะเกิดความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย โดยพรรคได้เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียน 20 คู่สาย หมายเลข 02-2700-036 เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยจะเริ่มรับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรในวันจันทร์ ที่ 10 ต.ค.นี้ และเตรียมทีมงานลงพื้นที่ทันทีเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย