ผู้นำฝ่ายค้านจับตา รบ.ตั้งทีมทนาย นช.แม้ว ร่วม คอป. ห่วงแปลงสารบิดเจตนารมณ์ ไม่ติดใจได้เบี้ยประชุมครั้งละหมื่น มอบฝ่ายกฎหมายไล่บี้ก่อนยื่นถอดถอน รมต.สำนักนายกฯ-คลัง หลังพบทำผิดกฎหมายแทรกแซงบอร์ด อสมท พร้อมเตือน พล.ต.อ.วิเชียร เสี่ยงหลุดตำแหน่งเลขาฯ สมช. เหตุยังมีเรื่องร้องใน ก.พ.ค.
วันนี้ (5 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ครม.เงาจะต้องจับตาดูว่าคณะกรรมการชุดนี้จะมีการแปลงเจตนารมณ์ของ คอป. เพราะมีอำนาจพอสมควรในการชี้นำหน่วยงานด้านการปฏิบัติ ฝ่ายค้านจะตรวจสอบการทำงาน แต่ก็ให้ความเป็นธรรมว่าการมีคณะกรรมการประสานคณะกรรมการที่มีความเป็นอิสระไม่แปลก อำนาจหน้าที่อยู่ในเกณฑ์ไม่ก้าวก่าย แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีการตีความเจตนารมณ์ในข้อเสนอของ คอป.ตรงตามที่ คอป.เสนอหรือไม่ พร้อมตั้งข้อสังเกตการตั้งนายวีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ ประธานและกรรมการผู้จัดการสำนักงานกฎหมายวีระวงค์, ชินวัฒน์ และเพียงพะนอ ซึ่งเคยเป็นทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านจะต้องติดตามบทบาทการทำงานว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ อยากให้คณะกรรมการชุดนี้ยึดเจตนารมณ์ของ คอป.อย่างเคร่งครัด ไม่แปลงสารหรือบิดเบือนเจตนารมย์ ซึ่งยังมั่นใจใน คอป.ว่าจะมีความหนักแน่นในการทำหน้าที่ แต่สังคมก็ต้องจับตาดูด้วย ส่วนการให้ค่าตอบแทนโดยกำหนดเบี้ยประชุมให้ประธานครั้งละ 1 หมื่นบาทนั้น ผู้นำฝ่ายค้าน ไม่คิดว่ามีอะไรเป็นกรณีพิเศษแต่จับตาการทำงานมากกว่า
ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็นเลขาฯ สมช.แทนนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีว่า พล.ต.อ.วิเชียรต้องแบกรับความเสี่ยง เพราะหาก ก.พ.ค.มีมติให้คืนตำแหน่งเลขาฯ สมช.กับนายถวิล จะแก้ปัญหาอย่างไร เนื่องจาก พล.ต.อ.วิเชียรเป็นตำรวจไม่ใช่ข้าราชการพลเรือนจะมีปัญหาตามมามาก ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งการพูดถึงเรื่องบ่อน และการปลดนายถวิลก็เพื่อเปิดทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นเป็น ผบ.ตร.เท่านั้น
ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่เกิดขึ้นบางส่วนเป็นการโยกย้ายประจำปี แต่บางกระทรวงไม่ใช่ เช่น กรณีกระทรวงศึกษาธิการที่มีการแก้ไขให้แสดงเจตนาไม่รับตำแหน่ง ดังนั้น หากใครเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ใช้สิทธิร้องเรียนได้ และ ก.พ.ค.ต้องรักษาความเป็นธรรม ทังนี้กังวลการแทรกแซงที่ขัดกฎหมาย โดยพบว่านางกฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลังมีการแทรกแซงการทำงานของบอร์ด อสมท ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายที่จะนำไปสู่การถอดถอนเพราะการสั่งการของ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเกินขอบเขต 2 เดือนถอด 4 คน ไม่ใช่เรื่องเวลาสั้นหรือยาว แต่รัฐมนตรีต้องทำตามกฎหมายหากไม่ทำผิดคงไม่มีการถอดถอน
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เงาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะใช้เวลา 1 สัปดาห์เพื่อสรุปพฤติกรรมของรัฐมนตรีทั้งสองคนเสนอให้ ครม.เงาพิจารณาในสัปดาห์หน้าว่าจะยื่นถอดถอนจากตำแหน่งหรือไม่ เบื้องต้นพบหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรถึงการสั่งการของนางกฤษณาที่ทำถึง รมว.คลัง มีเนื้อหาแทรกแซงการทำงานของบอร์ด อสมท ทั้งการจัดโครงสร้างองค์กรและการโยกย้ายแต่งตั้งผู้บริหาร ซึ่งเป็นการกระทำเกินอำนาจของรัฐมนตรี เพราะ อสมท เป็นบริษัทมหาชนและยังได้รับความคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญไม่ให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชนด้วย โดยหากเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะยื่นถอดถอนทันที ซึ่งจะทำให้รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ถูกยื่นถอดถอนแล้ว 4 คนภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน สะท้อนการบริหารประเทศที่ลุแก่อำนาจ ไม่ยึดหลักกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องมากกว่าแก้ปัญหาให้ประชาชน
สำหรับรัฐมนตรีสองรายแรกที่ถูกยื่นถอดถอนคือ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กรณีขอให้รัฐบาญี่ปุ่นอนุมัติวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีออกนโยบายบ้านหลังแรกเอื้อประโยชน์บริษัทเอสซีแอสเสท
