“อภิสิทธิ์” ค้านตั้งบ่อนกาสิโน ระบุขัดนโยบายปราบบ่อนของรัฐบาล จี้ คลังแสดงจุดยืน โยน “เกียรติ” ศึุกษาผลกระทบ ซัดนโยบายประชานิยมรัฐบาลทำเพื่อคนรวย ห่วงขาดความขัดเจนในการรับมือภาวะเศรษฐกิจ รองโฆษก ปชป.แฉรัฐจ่อขึ้น VAT ซ้ำเติมประชาชน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีแนวคิดจะเป็นเจ้าภาพจัดทำโครงการสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งรวมถึงการเปิดบ่อนบ่อนกาสิโนในอาคารนี้ด้วย ว่า รัฐบาลควรจะต้องชี้แจงในรายละเอียด โดยเฉพาะในส่วนนโยบายซึ่งกระทรวงการคลัง ยังไม่มีการแสดงท่าทีอะไร แต่จุดยืนของตนนั้นเหมือนเดิม คือ ไม่เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม ทราบว่า กรณีดังกล่าวพยายามผลักดันมาหลายรอบในรัฐบาลหลายสมัย ซึ่งจะทำหรือไม่ในรัฐบาลปัจจุบันคงต้องพูดให้ชัด เพราะหากมีการดำเนินการจริงจะขัดกับแนวทางการปราบบ่อนการพนันที่เคยระบุก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ตนยังไม่อยากลงรายละเอียดไปก่อนเพราะคงต้องพิจารณาจากนโยบาย หากมีนโยบายก็ต้องแก้กฎหมาย ด้วยกรณีดังกล่าวไม่สามารถทำได้ในกฎหมายปัจจุบัน
ส่วนการอ้างว่าจะนำรายได้เพื่อไปทำประโยชน์กับสังคมในด้านอื่นๆ นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันมีรายละเอียดเยอะ โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้ให้ นายเกียรติ สิทธีอมร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เงา ได้รวบรวมข้อมูลเพราะการศึกษาผลกระทบเรื่องนี้ในประเทศต่างๆ มีชัดเจนที่จะเปรียบเทียบได้
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวกรณีท่าทีของรัฐบาลที่ยืนยันจะทำนโยบายประชานิยม ว่า สิ่งที่เป็นปัญหา คือ การกระตุ้นที่เกิดความยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งต้องดูแต่ละมาตรการว่าเป็นอย่างไร อาทิ การจะกระตุ้นให้คนซื้อรถ ซื้อบ้านหลังแรกกับคนที่ไม่ใช่ผู้มีรายได้น้อยนั้นคงไม่เห็นด้วย เพราะไม่ใช่การกระตุ้นที่เป็นธรรม หรือคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ตนมองว่าขณะนี้รัฐบาลยังขาดภาพความชัดเจนที่จะรับมือเศรษฐกิจภาพรวม มีแต่เพียงการแก้ปัญหาแต่ละโครงการซึ่งยังไม่ใช่จำนวนส่วนใหญ่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ใช้นโยบายประชานิยมกับโครงการไทยเข้มแข็งในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละสถานการณ์กัน ขณะที่ทำโครงการไทยเข้มแข็งนั้น มีการว่างงานสูง และรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะหยุดยั้งตรงนั้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์ตรงนั้น อย่างไรก็ตามจากการหารือกับประธานสภาอุตสาหกรรมเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ก็เห็นว่ามีสัญญาณอยู่บ้างถึงวิกฤตในภูมิภาคยุโรปที่เริ่มส่งสัญญาณถึงผู้ส่งออก ทำให้การส่งออกชะลอตัว
ด้าน นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุจะยึดนโยบายประชานิยมสู้เศรษฐกิจโลกว่า ตนเป็นห่วงว่าแนวคิดดังกล่าวจะทำให้ประชาชนอาจต้องได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนปี 2551 เพราะจะมีการใช้เงินหลวงไปกับโครงการประชานิยมหลากหลายของรัฐบาล
นอกจากนั้น ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลเตรียมที่จะปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 10% ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการผลักภาระไปให้กับผู้บริโภคอย่างไม่มีความรับผิดชอบเพราะสินค้าอุปโภคบริโภคย่อมต้องปรับราคาขึ้น ทำให้พี่น้องประชาชนตัองได้รับผลกระทบซ้ำเติมและมีผลกับค่าครองชีพของประชาชนที่เพิ่มขึ้นสูงอยู่แล้ว