ครม.ตีกลับบ้านหลังแรก โยนคลังไปทำมาตรการช่วยเหลือเป็นแพกเกจ

ครม.ตีกลับอีกนโยบายประชานิยม โครงการบ้านหลังแรก ให้คลังไปทำมาตรการช่วยเหลือมาเป็นแพกเกจ ทั้งการลดหย่อนภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ยกเว้นค่าธรรมเนียมจำนอง สินเชื่อดอกเบี้ย 8% นาน 3 ปี และให้ครอบคลุมบ้านมือ 2 ส่วนบ้านสร้างเองไม่เข้าเกณฑ์

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์  

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม.ถึงโครงการบ้านหลังแรกว่า กรอบโครงการบ้านหลังแรกผ่าน ครม.แล้ว แต่คณะรัฐมนตรี ให้ศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อรายละเอียดในการหักภาษี ซึ่งเป็นการปรับดีเทลในทางการปฏิบัติ เนื่องจากของเดิมเป็นวิธีการลดหย่อนภาษี จากการมีรายได้ก็จะหักในเรื่องของภาษีไป แต่ของใหม่คือถ้าเรามีรายได้และหักทุกอย่าง คือ หักหลังจากเหลือภาษีบรรทัดสุดท้ายก็จะสามารถหักคืนได้ โดยมีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์เพียง 5 ปี หาร 5 และขอเรียนว่า มาตรการนี้จะช่วยเหลือทุกกลุ่ม เป็นมาตรการที่จะช่วยให้กับผู้ที่ต้องการมีบ้านเป็นหลังแรก

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการทบทวนมาตรการนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ทบทวน ยืนหลักการเหมือนเดิม แต่ในทางปฏิบัติต้องให้ระเอียดรอบคอบขึ้น และมีรายละเอียดที่จะชี้แจงพี่น้องประชาชนให้ชัดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดต่างๆ ตนขอให้ นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เป็นผู้ชี้แจงจะดีกว่า เพราะตนอยากให้เจ้าหน้าที่ที่คำนวณภาษีเป็นผู้ชี้แจง

ส่วนที่ฝ่ายค้านจะยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี ในกรณีการเอื้อประโยชน์โครงการบ้านหลังแรกให้กับบริษัท เอสซี แอสเสท นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า นโยบายบ้านหลังแรก ต้องการให้ประโยชน์กับประชาชนผู้ที่ซื้อบ้านจริงๆ ไม่ได้ให้ประโยชน์กับผู้ประกอบการ และตนเองก็ไม่เคยมองว่าจะให้ใครคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าไปดูในรายละเอียดก็จะเห็นในแง่ของความเสมอภาคเท่าเทียมอยู่แล้ว ไม่ได้มีเอื้อให้กับรายใดรายหนึ่ง และมาตรการนี้เป็นมาตรการที่ให้ประโยชน์โดยตรง เพราะผู้ซื้อได้รับภาษีไม่ใช่ผู้ขาย

ด้าน นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มอบหมายให้กระทรวงการคลังกลับไปทบทวนมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านหลังแรกเสนอให้เข้าที่ประชุม ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า โดยกระทรวงการคลังจัดทำเป็นแพกเกจมาตรการด้านต่างๆ ประกอบกัน ได้แก่ การลดหย่อนภาษีที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมทั้งการให้สินเชื่อดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 3 ปี ดำเนินการโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำหรับบ้านที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เป็นต้น

นายวิรุฬ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะเป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย.54 ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านหลังแรก โดยกำหนดราคาบ้านไว้หลังละไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งประชาชนสามารถนำมาทยอยขอคืนเงินในการคำนวณภาษี 10% ภายใน 5 ปี เริ่มมาตรการตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.54-31 ธ.ค.55

ทั้งนี้ จะมีการปรับหลักเกณฑ์ให้ครอบคลุมไปถึงบ้านมือสองด้วย จากเดิมที่เป็นเฉพาะบ้านสร้างใหม่เท่านั้น แต่ไม่รวมไปถึงบ้านที่ปลูกสร้างเอง ขณะที่รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายเงินชดเชยให้กับ ธอส.จำนวน 3 ใน 4 ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หรือราวปีละ 300 ล้านบาท

ด้าน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาออกประกาศมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านหลังแรก ได้แก่ การนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีเงินได้ การยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดจำนอง การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ เพื่อเน้นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

“ผมเข้าใจดีว่า ประชาชนอาจจะสับสน แต่เราจะมีการวางแผนใหม่ โดยนำเสนอนโยบายเป็นแพ็คเกจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้พิจารณา เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง”