“เฉลิม” ชมสื่อแฉแหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่ประเทศเพื่อนบ้านจนสามารถทยายได้ โวเห็นผลทันควันมาตรการเชิงรุก เตรียมลุยแก๊งค้ายาภาคเหนือ ฟุ้งศรีปทุมโพลยกให้เป็น รมต.อันดับ 1 ปัดล้ำหน้า “ยิ่งลักษณ์”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ว่า จากการประชุมเชิงปฏิบัติการเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ จ.เชียงราย ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และสถานีโทรทัศนิ์ TNN 24 ที่ได้นำเสนอข่าวแผนที่แหล่งค้ายาเสพติดประเทศเพื่อนบ้านเรา ผลปรากฏว่าเมื่อค่ำวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ป.ป.ส.ของลาว และตำรวจจีนได้เข้าตรวจค้นที่โครงการคิงโรมัน และตนได้ไปชี้จุด สื่อมวลชนก็เอาภาพไปออก ยึดยาเสพติดได้ทั้งหมด 20 กระสอบ เงินไทย 50 ล้านบาท และฐานการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีคนไทยเกี่ยวข้อง 6 คน ได้รายชื่อหมดแล้ว ไม่มีนักการเมือง ถ้ามีก็ระดับท้องถิ่นพวก อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นพวกค้ายาโดยตรง ซึ่งตนจะเชิญ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.มาพบ เพราะกรณีนี้ถือเป็นบุญของคนไทย ถ้าทะลักเข้ามายุ่งเลย ถ้าสื่อไม่นำเสนอ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ก็ไม่เกิดขึ้น
“จากนี้ผมจะปฏิบัติการเชิงรุกให้มากที่สุด การสกัดกั้นต้องแก้ที่ต้นเหตุ ถ้ามาแก้ที่ปลายเหตุมันบำบัดไม่ไหว ขณะนี้มีผู้เสพประมาณ 1.2 ล้านคน ผมจะลงไป จ.เชียงรายให้มากที่สุด เป้าอยู่ตรงนั้น หาเป้าเจอแล้ว สำหรับปัญหายาเสพติดในภาคใต้มันก็รับมาจากตอนบนเหมือนกัน การไปแก้ที่ กทม.ไปแก้ที่ภาคใต้ มันไม่ถูกจุด มันต้องข้างบนนั่นแหละ สรรพกำลังทุ่มไปเถอะ ต้องขอขอบคุณกองทัพให้ความร่วมมือดีมาก เต็มที่จริงๆ ซึ่งเขาขอเครื่องมือเครื่องไม้ในการตรวจจับ ก็ไม่มีปัญหาผมติดต่อนายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกฯ เรียบร้อย”
ส่วนการขอความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เบื้องต้นจะใช้วิธีการเผยแพร่ข่าว พอเขารู้ก็ดำเนินการ ไม่ได้ขอความร่วมมืออะไรไปเลย สำหรับเรื่องเรือติดธงที่เป็นเรือของชาติอื่น เราต้องให้เกียรติ แต่ถ้ามียาเสพติดเข้ามาเขตบ้านเราก็ดำเนินการเลย จับได้ไม่ต้องไปรอว่ามีธงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นน่านน้ำของเขา ก็ต้องติดต่อไปที่ประเทศต้นสังกัด เรื่องนี้ตนจะให้ รมว.ต่างประเทศจัดการ
สำหรับการแก้ปัญหาก็จะต้องมีการประสานกับประเทศต่างๆ ต่อไป บ้านเราถ้าแก้โดยทางราชการอย่างเดียวแก้ไม่ได้ มันต้องใช้ส่วนตัวด้วย ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดี นอกจากนี้ กรณีที่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดนั้นตนได้จัดการแล้ว เอาตำรวจไปสาบถสาบานตามที่ต่างๆ หมดแล้ว พวกนี้ดุไม่เชื่อ ต้องพึ่งพระพึ่งเจ้า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าตนขึ้นมาท่ามกลางความเกลียดชัง แต่ดีใจที่โพลของมหาวิทยาลัยศรีปทุมให้เป็นรัฐมนตรีอันดับ 1 ที่ทำงานดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์มากว่าท่านแสดงบทบาทเกินหน้านายกฯ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ใช่ ตนปราบปรามยาเสพติด กับดูตำรวจ จะไปนำหน้านายกฯ ได้อย่างไร ภาษาอังกฤษก็พูดไม่เป็น เศรษฐกิจก็ไม่รู้เรื่อง วิจารณ์กันไปให้ตนทะเลาะกับนายกฯ จะไปทะเลาะได้อย่างไร ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาท่าน และนายกฯ เขาเอาจริงเอาจัง ที่บอกไม่มีความเป็นผู้นำนั้นไม่จริง แต่นายกฯ ตั้งใจจะแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ เรื่องปราบปรามยาเสพติดก็มอบตน สภาก็มอบตนบางภารกิจ ไม่ได้ไปตอบทุกเรื่อง