xs
xsm
sm
md
lg

“กิตติรัตน์” เมิน “มาร์ค” จี้ประกันรายได้ช่วยน้ำท่วม โต้ “อุ๋ย” จำนำข้าวไม่มีเจ๊ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง  (แฟ้มข่าว)
“กิตติรัตน์” เมินข้อเรียกร้อง “มาร์ค” ใช้นโยบายประกันรายได้ช่วยเกษตรกรน้ำท่วม อ้างชาวนาได้เงินน้อย ยันเยียวยาแน่คนที่ขายข้าวก่อน ต.ค. พร้อมตอกกลับ “หม่อมอุ๋ย” ยันจำนำข้าวทำได้จริงไม่มีขาดทุน เชื่อ WTO หนุนแนวทางรับจำนำมากกว่าประกันรายได้


วันนี้ (26 ก.ย.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ออกมาระบุว่ารัฐบาลจะขาดทุนจากการรับจำนำข้าวประมาณ 250,000 ล้านบาทว่า ตนเข้าใจว่าหลายท่านมีข้อเป็นห่วง และไม่เชื่อถือระบบที่เป็นการรับจำนำข้าวเปลือก เพราะในอดีตได้มีการปฏิบัติที่ไม่เรียบร้อยในหลายขั้นตอน แต่ขอย้ำว่าโครงการรับจำนำที่รัฐบาลชุดปัจจุบันดำเนินการ เราได้ปรับปรุงขั้นตอน และได้ดึงเอาฝ่ายงานที่จะช่วยกันดูแลเพื่อให้มีความซื่อตรงโปร่งใสเข้ามาร่วมกัน เพราะนโยบายดังกล่าวจัดเป็นนโยบายที่สำคัญที่สุดนโยบายหนึ่งของรัฐบาล ดังนั้น ข้อกังวลของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ตนจะรับมาดำเนินการในส่วนที่ท่านห่วงว่าจะมีการปฏิบัติที่ไม่สุจริต

“ขณะเดียวกัน ท่านอาจจะกังวลว่าข้าวที่มีการรับจำนำอาจจะมีราคาสูงกว่าที่เคยเป็นอยู่ ผมต้องขออธิบายว่าข้าวในฤดูกาลก่อนๆ ราคาต่ำเกินสมควร และมีเหตุผลอธิบายได้หลายเรื่อง แต่ผมไม่ขอวิจารณ์เรื่องในอดีต แต่มั่นใจว่าราคาข้าวที่รับจำนำในครั้งนี้เป็นราคาที่ถูกต้องเหมาะสมตามต้นทุนของเกษตรกรที่ปลูกข้าว และได้ดำเนินการหารือกับตลาดต่างประเทศแล้ว ทั้งนี้ ผมมั่นใจในรัฐบาล และผมสามารถทำได้ เชื่อว่าทั้งนักวิชาการและ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรมีความเป็นห่วงและต้องการให้รัฐบาลทำสำเร็จ” นายกิตติรัตน์กล่าว

ส่วนการป้องกันการคอร์รัปชันในรัฐบาลชุดนี้เกี่ยวกับการรับจำนำข้าวนั้น นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ขั้นตอนแรก เกษตรกรที่เป็นเข้าสู่โครงการรับจำจะต้องเป็นเกษตรกรไทย ดังนั้น การขึ้นทะเบียน เราจะทำให้รอบคอบและเข้มข้นมากขึ้น ผู้ที่จะมาลงนามเพาะปลูกของเกษตร ก็มีหน่วยงานเพิ่มเติมเข้ามาคือข้าราชการในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากเดิมที่เรายังมีกระทรวงพาณิชย์ ธ.ก.ส. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ครั้งนี้เราจะมีกระทรวงมหาดไทยโดยผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดจะเป็นประธานอนุกรรมการในโครงการรับจำนำข้าวของจังหวัด อีกทั้งยังมีหน่วยงานที่จะมาป้องปรามการปฏิบัติที่ไม่ชอบ รวมทั้งเรายังมีชุดที่จะออกตรวจมากถึง15 คณะ

นายกิตติรัตน์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กังวลว่าชาวนาจะไม่มีข้าวเข้าโครงการรับจำนำเนื่องจากประสบปัญหาอุทกภัยว่า โครงการประกันรายได้จบลงในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อก่อนจะเข้ารับจำนำ ซึ่งการจะดูแลกลุ่มที่ไร่นาเสียหายอย่างสิ้นเชิงจะมีการพิจารณาว่าจะเยียวยากันอย่างไร ซึ่งมติ ครม.ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบในการเยียวยาไปแล้ว 1 รอบ แต่จะมีการพิจารณากันอีกครั้งหรือไม่คงต้องรอดูต่อไป

ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าสิ่งที่นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงนั้นเป็นกลุ่มที่ต้องรีบเกี่ยวเร็วกว่ากำหนด เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะทะลักเข้ามา จึงต้องรีบนำไปขายก่อนจนไม่สามารถเข้าโครงการรับจำนำในเดือนต.ค.นี้ได้

“ผมอยากให้เกษตรกรมั่นใจว่า เกษตรเป็นผู้มีคุณูปการของประเทศนี้ เรายืนยันว่าจะทำการดูแลท่านนี้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังทำงานใกล้กับทางจังหวัด ไม่ต้องห่วงว่าเราจะไม่ดูแลท่าน แต่เราจะไม่ดูแลในโครงการประกันรายได้ เพราะถ้าดูแลในระบบประกันรายได้ ซึ่งรายได้ที่ประกันก่อนนั้น เมื่อเทียบกับราคาตลาด ปรากฏว่าราคาแทบไม่มีส่วนต่างกัน ฉะนั้นถ้าจะให้ช่วยเกษตรกรแค่ในส่วนต่างในตลาดกับการประกัน ผมคิดว่าเกษตรกรจะได้รับความช่วยเหลือน้อยมาก”

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า โครงการรับจำนำ แค่ยังไม่เริ่มโครงการก็เห็นประโยชน์แล้ว ราคาตลาดที่คนจะซื้อกันมันขยับขึ้นไปแล้ว ดังนั้น เราจะไม่ใช้วิธีที่ดูแลเกษตรกรโดยการนำงบประมาณไปจ่ายใส่มือเกษตรกรเลย ขอยืนยันกับเกษตรกรที่ขายข้าวไปก่อนว่า แม้ว่าเราจะดึงโครงการให้เริ่มในวันที่ 7 ต.ค.เพื่อให้เร็วที่สุด แต่เราก็ทราบดีว่ามีเกษตรกรจำนวนหนึ่งที่ขายข้าวไปก่อนหน้านั้น รัฐบาลดูแลแน่นอน ไม่ต้องกังวล ทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลนั้น ถ้าคิดง่าย ตนก็ตอบได้ง่ายว่าเอาส่วนต่างไปแล้วกัน ซึ่งส่วนต่างแทบไม่มีเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลกันว่าหากมีการรับจำนำข้าวในราคาที่สูงจะทำให้ประเทศเพื่อนบ้าน จะตีตลาดเข้ามาในประเทศไทย รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องห่วง แต่ขอให้เราดีใจกับประเทศเพื่อนบ้านเราไปด้วย เพราะเขาจะขายข้าวที่ดีขึ้นด้วย เพราะในอดีตเวลาขายในราคาต่ำ เขาก็เดือดร้อน ฉะนั้นเรามามีคุณค่าร่วมกัน

เมื่อถามว่า มีข้อกังวลว่าไทยจะถูกองค์การการค้าโลก (WTO) มองว่าโครงการรับจำนำข้าวนี้จะซัพพอตนายทุนที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยในการได้รับประโยชน์ รองนายกฯ กล่าวว่า ถ้าองค์การการค้าโลกจะไม่ชอบ เขาจะไม่ชอบที่รัฐบาลเอางบประมาณไปอุดหนุนผู้ผลิต เพื่อให้สามารถนำสินค้าไปขายในตลาดโลกได้ในราคาถูก เพราะฉะนั้นถ้าองค์การการค้าโลกไม่อยากเห็นก็คือแนวทางประกันรายได้ เพราะโครงการประกันรายได้เป็นการนำเงินไปช่วยผู้ผลิต ซึ่งก็คือเกษตรผู้ปลูกข้าว ส่งผลให้ราคาข้าวที่หมุนเวียนในระบบตลาดมีราคาต่ำกว่าราคาที่เกษตรกรได้รับ ดังนั้น เกษตรกรที่ปลูกข้าวก็จะเป็นทุกข์

ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวนี้จะไม่ขาดทุน รองนายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีทาง ผมไม่แน่ใจว่าท่านที่วิจารณ์อย่างชนิดที่ท่านก็รู้หรือเปล่าว่าไม่ใช่ จะใช้งบประมาณ 4 แสนล้านบาทคงไม่ใช่ เพราะ 4 แสนล้านบาทเป็นกรณีที่ผู้ที่อยู่ในระบบตลาดทั้งหลายไม่เชื่อมั่น ซึ่งไม่สบายใจไม่เป็นไร แต่รัฐบาลจะดูแล รัฐบาลสามารถขายข้าวในราคารับจำนำก็แล้วกัน”

ต่อข้อถามว่าเรื่องข้าวจะไม่ทำเสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอนใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ ตนยืนยันว่าเรื่องข้าวจะเป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความภูมิใจร่วมกัน ถ้านักวิชาการคิดถูกเหลือเกิน จะให้รัฐบาลปล่อยกลไก ถ้าเป็นอย่างนั้นตนจะเป็นรัฐบาลทำไม

ส่วนกระแสข่าวว่าองค์กรการคลังสินค้า (คอส.) จะขายข้าวในราคาถูกให้กับอินโดนีเซียนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้แอบอะไร เพราะอดีต ผอ.อคส.ก็ได้ไปลงนามบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู) ในการจำหน่ายข้าวให้อินโดนีเซียประมาณกลางเดือน ส.ค. ซึ่งในสัญญาหากจะมีผลนั้น ก็ต่อเมื่อรัฐมนตรีได้ลงนามรับรอง ซึ่งตนไม่ได้รับรองเพราะราคาที่เราพูดกันไม่ได้สอดคล้องกับราคาข้าวเปลือกที่เราจะรับจำนำ ดังนั้นการขายข้าวล็อตนั้นคงไม่เกิดขึ้น และอินโดนีเซียก็คงเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พบกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ในงานรวมพลังไทยต่อต้านคอร์รัปชันเมื่อวันที่ 25 ก.ย.หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “รู้สึกจะไม่เห็นท่านนะ แสดงว่าท่านคงไม่เชื่อมั่น”
กำลังโหลดความคิดเห็น