“ยงยุทธ” ยันให้ “ยิ่งลักษณ์” เซ็นขอ “วิเชียร” ช่วยราชการสำนักนายกฯ ดึง “พระนาย” นั่งรักษาการปลัดแทนพลางๆ รอทูลเกล้าฯ ตุลา ชูปลัดใหม่อาวุโสสุด ยันทำตามหลักคุณธรรม อ้างต้องรีบตั้ง เหตุบิ๊กข้าราชการจะเกษียณ เล็งตั้งนั่งเลขาฯ กก.บูรณาการน้ำ แนะเร่งสร้างผลงาน ด้าน นายกฯ ตีมึนเด้งไม่ผ่าน ครม.อ้างออกคำสั่งไปแล้ว พร้อมสั่งผู้ว่าฯ สิงห์บุรี เคลียร์ชาวบ้านเอง
วันนี้ (20 ก.ย.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย แถลงข่าวถึงการขอตัว นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเตรียมแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการการบูรณาการแผนงานบริหารจัดการน้ำ และแต่งตั้ง นายพระนาย สุวรรณรัฐ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรักษาการปลัดกระทรวง ว่า การแต่งตั้งในครั้งนี้ ยังไม่มีเป็นวาระเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของตนกับนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งให้ นายวิเชียร ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.และตนลงนามแต่งตั้ง นายพระนาย เป็นรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่ง นายพระนาย มีคุณสมบัติ คือ อาวุโสสูงสุด มีความเหมาะสม มีประสบการณ์ในกระทรวงมหาดไทย ทำงานมานาน และการแต่งตั้งเป็นไปตามระบบคุณธรรม ซึ่งที่ต้องรีบแต่งตั้ง เพราะถ้าส่วนหัวไม่ขยับ ทำให้กระบวนการล่าช้าไปหมด และในวันที่ 30 ก.ย.นี้ จะมีข้าราชการระดับสูงเกษียณหลายคน ถ้าส่วนที่เป็นปลัดกระทรวงยังไม่ชัดเจน ก็จะพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายไม่ได้
“ความจริงแล้วก็ไม่อยากปรับอะไร เพราะปัญหาน้ำท่วมยังวิกฤต จะเอาเรื่องแต่งตั้งมาสำคัญกว่า ก็ดูจะไม่สนใจประชาชน ถ้าไม่ติดว่า ผู้บริหารระดับสูงเกษียณหลายคน ต้องสรรหาใหม่ ก็ต้องให้เรื่องน้ำท่วมมาก่อน ซึ่งขณะนี้ นายพระนาย เป็นรักษาการปลัดกระทรวง แต่ต่อไป เมื่อถึงเวลา ก็จะเสนอแต่งตั้ง นายวิเชียร จากกระทรวงมหาดไทย มาที่สำนักนายกรัฐมนตรี และเสนอแต่งตั้ง นายพระนาย เป็นปลัดกระทรวง นำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป ซึ่งก็คงชัดเจนแล้วว่า นายพระนาย จะมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย” นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ กล่าวว่า คณะกรรมการการบูรณาการแผนงานบริหารจัดการน้ำ เป็นคณะกรรมการที่มีโครงสร้างใหญ่โต ซึ่งตนเป็นประธาน โดยจะขอให้ นายวิเชียร เป็นทั้งหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการ และเลขาธิการ โดยทำหน้าที่ประสานงานทุกกระทรวงในการบริหารจัดการลุ่มน้ำ ดำเนินการด้านโครงการพระราชดำริ บูรณาการด้านน้ำทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ระบบเตือนภัย ทำงานเกี่ยวกับทั้ง 25 ลุ่มน้ำ โดยข้อยุติเกี่ยวกับลุ่มน้ำทั้งหมดจะอยู่ที่คณะกรรมการนี้ เป็นหน่วยงานที่ตั้งใหม่ซึ่งคงไม่มีภาระค่าใช้จ่ายมาก คณะกรรมการนี้ถือเป็นงานสำคัญ นายวิเชียร ก็จะได้ไปทำงานเร็วที่สุด และจะได้มีอำนาจเต็ม ซึ่งการแต่งตั้งโยกย้ายต่อไป ก็จะพิจารณารองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าฯ ที่เป็นระดับ 10 ส่วนรองผู้ว่าฯ ที่เป็นระดับ 9 จะขึ้นระดับ 10 คงต้องรอการสอบ ซึ่งอาจใช้เวลา 3 สัปดาห์หรือจะทำพร้อมกันเป็นพวงใหญ่ก็ได้ ต้องรอดูว่าจะทำอย่างไร เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายประจำ ต้องปรึกษา นายพระนาย ก่อน ไม่แน่ใจว่า จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าได้หรือไม่
ส่วนที่ว่า นายพระนาย เหมาะกว่า นายวิเชียร ในการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่นั้น มันเป็นเรื่องความเหมาะสมของคนแต่ละยุค เหมือนแต่ละฤดูคนก็แต่งตัวต่างกัน มันไม่ใช่เสื้อผ้าไม่ดี แต่ไม่เหมาะกับฤดู และการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งอื่นๆ ที่มีการมองว่า จะมีการล้างบางข้าราชการนั้น ถ้าสื่อเห็นว่า การสับเปลี่ยนนายพระนาย กับ นายวิเชียร ดูดี ใช้ได้ ตำแหน่งอื่นๆ ก็ต้องใช้ได้เช่นกัน ถ้าใช้ไม่ได้ สื่อก็มีความเห็น
เมื่อถามว่า นายวิเชียร ยังเหลืออายุราชการ 4 ปี แต่ นายพระนาย เหลือ 1 ปี มีโอกาสที่นายวิเชียร จะได้กลับมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนก็คุยกับนายวิเชียร ว่า นายพระนาย เหลืออายุราชการปีเดียว นายวิเชียร ก็มีเวลาสร้างชื่อ สร้างผลงานอีกมาก เหมือนกับ นายวิเชียร ได้ออกข้าง ไม่ใช่ถอยหลัง ไปตั้งหลักทำงานที่สำคัญมากขึ้น ได้ทำผลงาน นายกรัฐมนตรี ก็บอกว่า จะส่งเสริม ให้กำลังใจคนทำงาน จะได้กลับมาที่เดิมหรือไม่ก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถามเพิ่มเติมว่า นายพระนาย เหมาะสม เพราะเหลืออายุราชการ 1 ปี หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า “ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น ท่านเป็นอาวุโสลำดับ 1 ก็มีความเหมาะสม ถ้าจะว่า ก็ว่าคนเคยเป็นอดีตปลัด เพราะผมก็เคยเหลืออายุราชการ 7 เดือน ก่อนเป็นปลัด”
ขณะที่ พรรคเพื่อไทย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประจำสัปดาห์ โดยไม่ให้เหตุผลในการมีคำสั่งให้ นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปช่วยราชการ และไม่มีการออกเป็นมติคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีระบุเพียงสั้นๆ ว่า ทางรัฐบาลได้ออกเป็นคำสั่งไปแล้ว เพื่อให้นายวิเชียร มาช่วยงาน
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านในจังหวัดสิงห์บุรี เกิดการทะเลาะวิวาทเรื่องการปล่อยน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วม และจะเดินทางเข้าร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ไม่สามารถดำเนินการแก้ไขข้อขัดแย้งได้นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแก้ไข เพราะเป็นหน้าที่โดยตรง
