xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ยินดี “ปู” ช่วย 2 คนไทย เตือน ปชช.อย่ายอมหากเสียทรัพยากรแลกฟื้นสัมพันธ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (แฟ้มภาพ)
โฆษกพันธมิตรฯ ยินดีนายกฯ ช่วย “วีระ-ราตรี” แต่ชี้อย่าลืมมองข้ามผลประโยชน์เขตแดนไทย-เขมร จี้ ชาวบ้านอย่ายอม หากสัมพันธ์ที่ดีแลกด้วยการสูญเสียทรัพยากร รับเชื่อเพื่อนบ้านปูด “สุเทพ” เจรจาลับ ชี้ ข่าวปล่อยหวังทำลายฝ่ายค้านตรวจสอบ งง ประชาธิปัตย์ ไม่เลิกเอ็มโอยู 44 ให้จบ ขู่ถ้าใครทำไทยเสียประโยชน์ก็ไปสู้กันในศาล



วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ศาลฎีกา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการเยือนประเทศกัมพูชา ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันนี้ (15 ก.ย.) และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย ก็มีกำหนดการเยือนกัมพูชาเช่นเดียวกันในพรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพี่น้องกัน และกรณีการเข้าพบ นายฮุน เซน นายกฯกัมพูชา ก็เพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีและมีผลประโยชน์จากการลงทุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าจะช่วย นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ยังอยู่ในเรือนจำเปรยซอร์ ประเทศกัมพูชา ก็ถือเป็นข่าวดี และเราก็ยินดี เพียงแต่ว่า กรณีการช่วยเหลือทั้ง 2 คนนั้น ไม่สามารถทำให้เรามองข้ามเรื่องอื่นที่มีความสำคัญได้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีเขตแดนไทย-กัมพูชา และการอ้างสิทธิ์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล

“แม้ว่าเราจะยินดี ถ้า คุณวีระ และ คุณราตรี ถูกปล่อยตัวมา แต่ก็ไม่ได้แปลว่า เราจะรู้สึกถ้าเราจะสูญเสียดินแดน หรือสูญเสียอธิปไตยในพื้นที่ทางทะเลมากขึ้นอย่างที่ไม่ควรจะเป็น การที่รัฐบาลมีความสัมพันธ์ที่ดีถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ยิ่งต้องระวังด้วยว่าความสัมพันธ์ที่ดีนั้น แลกมาด้วยอะไร หากแลกมาด้วยความเสียเปรียบของเขตแดนทางบก หรือการสูญเสียสิทธิ์ทางพลังงาน ผมคิดว่าประชาชนไม่ควรจะยอม” นายปานเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากช่วยเหลือ นายวีระ และ น.ส.ราตรี ได้จริง จะสามารถยกเครดิตผลงานนี้ให้รัฐบาลได้หรือไม่ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า คงกล่าวเช่นนั้นไม่ได้เต็มที่ เพราะต้องถือว่าเป็นกระบวนการที่มีความสัมพันธ์เชิงบวก และมีลักษณะของการเอื้อประโยชน์ระหว่างรัฐบาลเพื่อไทย กับนายฮุนเซน การที่ นายวีระ และ น.ส.ราตรี จะได้รับการปล่อยตัวเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้ก่อนล่วงหน้า ว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะ จะมีผลที่ตามมาแบบนี้ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าชื่นชม ว่า เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของรัฐบาล เพียงแต่ภาคประชาชนรู้สึกยินดีด้วย

เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าว ที่ระบุว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองนายกฯ มีการเจรจาลับกับนายฮุนเซน ในเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล นายปานเทพ กล่าวว่า ตนเชื่อในระดับหนึ่ง แต่จะมีการเจรจาในเรื่องพลังงานกัน หรือมีแผนที่บล็อกน้ำมันตามข่าว ตรงนี้ไม่ทราบยากแก่การพิสูจน์ เพราะเป็นการเจรจาลับที่ใครพูดอะไรก็พูดได้ แต่ส่วนตัวจำได้ชัดว่านายสุเทพ กลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.54 แล้วให้สัมภาษณ์ว่า จะถกเถียงในเรื่องปราสาทพระวิหารกันเพื่ออะไร ในเมื่อเขาพระวิหารทั้งเขาตกอยู่ภายใต้อาณัติของกัมพูชาอยู่แล้วตามคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อปี 2505 สู้มาเจรจาในเรื่องผลประโยชน์อื่นๆในการพัฒนาร่วมกันดีกว่า จากคำสัมภาษณ์เช่นนี้ทำให้เราเชื่อได้ว่า มีการเจรจาทางพลังงานจริง เพราะมีการพูดที่เอื้อประโยชน์ทางบกให้กับทางกัมพูชา แล้วให้ไปเจรจาเรื่องทางทะเล เพราะฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่จะไปเชื่อว่าใครพูดอะไรในตอนนี้ แต่สิ่งที่ปรากฎชัดอยู่ว่านายสุเทพ มีการเจรจาเรื่องผลประโยชน์ทางพลังงานเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.54 จึงออกมาให้สัมภาษณ์แบบนั้น

นายปานเทพ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าการที่มีข่าวดังกล่าวออกมาในช่วงนี้ก็หวังที่จะทำลายกระบวนการตรวจสอบของฝ่ายค้าน เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีพฤติกรรมสวมตอต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ไม่สามารถพูดอะไรได้ไม่เต็มปาก เพราะทำมาไม่ต่างจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เจตนาก็เพื่อลดทอนกระบวนการตรวจสอบทางรัฐสภา ซึ่งเรื่องนี้ก็มีมูลมาตั้งแต่ข้อสงสัยว่าเหตุใดรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ให้จบ ซึ่งก็เป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้นที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น กลายเป็นว่า วันนี้ทั้งฝ่ายค้าน หรือรัฐบาลไม่เป็นที่พึ่งหวังในกระบวนการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ได้เลย ประชาชนเท่านั้นที่ต้องติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด โดยใช้บทบัญญัติกฎหมายเป็นตัวนำ

“หากมีกระบวนการที่ทำให้ไทยเสียประโยชน์ทั้งทางบกหรือทางทะเล ต่อให้ใช้มือทางรัฐสภา เราก็ต้องดำเนินคดีทางความอาญาอยู่ดี แล้วไปสู้กันในกระบวนการนั้น” นายปานเทพ ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น