xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.อีกแล้ว! ยื้อ MOU44 ทำ “แม้ว” จ่อฮุบผลประโยชน์อ่าวไทยมหาศาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุวันชัย” ชำแหละ MOU44 เป็นการยอมรับพื้นที่ทับซ้อนใต้ทะเล ซึ่งกัมพูชาขีดแบ่งมั่วจนรุกล้ำแหล่งพลังงานของไทยจำนวนมาก หวั่นถ้าสานต่อจะสำเร็จภายใน 1 ปี ด้าน “ปานเทพ” บอกเสียดายรัฐบาลประชาธิปัตย์ยื้อ MOU44 จนกระทั่งไม่ได้ยกเลิก ชี้เหมือนเป็นการส่งของต่อ เปิดทาง “แม้ว” โกยผลประโยชน์มหาศาล


เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม อดีตสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV โดย ดร.สุวันชัยกล่าวว่า ขอเน้นพูดถึงไหล่ทวีป สำคัญเพราะเป็นบริเวณที่เราไปขุดเจาะก๊าซ-น้ำมัน อนุสัญญาสหประชาชาติกำหนดไว้ชัดเจน ไหล่ทวีปก็คือพื้นที่ใต้ทะเล โดยนิยามว่าพื้นดินท้องทะเล และดินใต้ผิวดิน มันจะไปตามแนวธรรมชาติที่อยู่ใต้ทะเลไปจนถึงริมขอบสุดของไหล่ทวีป ตรงนี้เรามีสิทธิอธิปไตย แต่ไม่สามารถอ้างว่าเป็นดินแดนของเราได้ เป็นสิทธิอธิปไตยที่จะสำรวจและแสวงหาประโยชน์ในทรัพยากรได้ แล้วถ้าใครจะมาสำรวจหรือแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเราไม่ได้

พอมาปี 2515 กัมพูชาได้มีกฤษฎีกาประกาศอ้างสิทธิไหล่ทวีปของเขา โดยรุกล้ำเข้ามายังทะเลภายใน และทะเลอาณาเขตซึ่งเป็นอธิปไตยของไทย ซึ่งกัมพูชาลากเส้นมั่วตามอำเภอใจ ไม่เป็นไปตามหลักสากลแม้แต่น้อย ประเทศไทยจึงลากเส้นไหล่ทวีปของตัวเองบ้างในปี 2516 โดยเราลากตามหลักพื้นฐานทางกฎหมาย ตามหลักสากล และได้เส้นมัธยะ คือเส้นที่แบ่งระยะเท่าๆ กันระหว่างไทย-กัมพูชา ฉะนั้นจึงเกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิอธิปไตยประมาณ 2.6 หมื่น ตร.กม.

ดร.สุวันชัยกล่าวอีกว่า ไทย-กัมพูชา มีการเจรจากันหลายครั้ง โดยกัมพูชาได้เร่งรัดให้ทำพื้นที่ทับซ้อนเป็นพื้นที่พัฒนาร่วม ซึ่งไทยไม่เคยยอมเนื่องจากต้องการให้ขีดเส้นจนถูกต้องก่อน แต่พอมาถึงปี 2544 รัฐบาลทักษิณ โดยนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ก็ได้มีการทำ MOU44 สาระสำคัญคือ พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนจะใช้เส้น 11 องศาเหนือ แบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนบนและส่วนล่าง ส่วนบนมีพื้นที่ 1 หมื่น ตร.กม. ส่วนนี้ให้มาแบ่งเขตแดนกันว่าเป็นของฝ่ายใด ส่วนล่างคือ ตั้งแต่เส้น 11 องศาเหนือลงมา ให้ใช้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วม ซึ่งส่วนนี้มีพื้นที่ 1.6 หมื่น ตร.กม. และได้มีการตั้งคณะกรรมการเทคนิคร่วมไทย-กัมพูชา (JTC) เพื่อมาดูว่าบนเส้น 11 องศาเหนือ จะลากเส้นแบ่งอย่างไร ใต้เส้น 11 องศาเหนือ จะแบ่งผลประโยชน์อย่างไร ถ้าทำสำเร็จจะมีสนธิสัญญาออกมา 2 ฉบับ

ถ้าตามพื้นฐานทางกฎหมาย พื้นที่บนเส้น 11 องศา กัมพูชาแทบไม่มีพื้นที่เลย ฉะนั้น ถ้าแบ่งเขตกันกัมพูชาจะได้เปรียบ MOU44 ทำให้กัมพูชาจะได้พื้นที่ที่ไม่มีสิทธิ์ตั้งแต่ต้น และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะเหมือนเป็นการสละสิทธิ์สิ่งที่เราประกาศไว้แล้ว เหมือนว่าเราสูญเสียอธิปไตย ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศมองว่า MOU44 เป็นแค่ข้อตกลงชั่วคราว ยังไงก็ต้องเข้ารัฐสภาก่อน แต่ตนมองว่าแค่การแสดงว่าจะใช้สิทธิร่วมกัน ก็เป็นการไปแสดงเจตนารมณ์แล้วว่าพื้นที่ตรงนั้นไม่ใช่สิทธิ์ของเรา 100% เป็นการสละอธิปไตย

นายปานเทพกล่าวว่า เสียดายมากสมัยประชาธิปัตย์ได้ใช้มติ ครม.ในการยกเลิก MOU44 แต่ก็ทิ้งปัญหาคาราคาซังเอาไว้ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ไม่มีวาระเข้าสภาเพื่อยกเลิกเลย เหมือนเราส่งของต่อให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ รัฐบาลนี้มีโอกาสสานต่อเลย

ดร.สุวันชัยกล่าวเสริมว่า ท่าทีรัฐบาลใหม่ก็เห็นชัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) ก็ให้สัมภาษณ์ว่าพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนต้องรีบตกลงกัน เพื่อใช้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วม เพราะมีแหล่งก๊าซ น้ำมัน มูลค่าเยอะ และให้เป็นวาระแห่งชาติด้วย จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งพอหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ หมดอำนาจลง คณะกรรมการเทคนิคร่วมไทย-กัมพูชาก็ยุติ รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ให้กระทรวงต่างประเทศดำเนินการยกเลิก MOU44 แต่ก็ช้ามาก จนสุดท้ายก็ไม่ได้ยกเลิก แต่ก็น่าแปลก รัฐบาลชุดก่อนได้ตั้งนายสุเทพให้เป็นประธานคณะกรรมการ JTC ด้วย ทั้งๆ ที่มีมติให้ยกเลิก ทำไมต้องมาสนใจอีก

ทั้งนี้ พื้นที่พัฒนาร่วมนั้น กัมพูชาปรารถนาอย่างมาก ถ้าสามารถสรุปได้เขาจะได้ผลประโยชน์มหาศาล เศรษฐกิจกัมพูชาก้าวกระโดดเลย ไทยก็ได้เศรษฐกิจ แต่ความจำเป็นเราน้อยกว่า เราไม่จำเป็นต้องเร่งด่วน ซึ่งเอาตรงนี้เป็นข้อได้เปรียบในการเจรจาได้ ซึ่งถ้ากัมพูชามีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อรัฐบาลไทย และสานต่อจะจบภายใน 1 ปีแน่นอน แม้เข้าสภาเพื่อไทยมีเสียงข้างมาก เขาก็มีโอกาสสูง

นายปานเทพกล่าวว่า ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีประโยชน์ในฝั่งกัมพูชา และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลไทย ซึ่งมันน่าเป็นห่วงว่าท้ายที่สุดจะเลือกผลประโยชน์ฝ่ายไทยหรือกัมพูชา คือถ้าไทยได้เปรียบในกรณีนี้ คนที่ได้ก็คือ ปตท. ซึ่งก็มีนักธุรกิจ ญาติโกโหติกาไปถือหุ้นอยู่ 49 เปอร์เซ็นต์ พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้อยู่ดีแต่อาจไม่มากพอเพราะมันกระจาย แต่ผลประโยชน์ที่จะได้จากทางฝั่งกัมพูชา ไม่แน่ใจว่าได้ส่วนตัวเท่าไหร่ มันยากที่จะเห็น วันนี้ก็เห็นการเดินสายคึกคัก เห็นด้วยว่าจะทำให้กัมพูชารวยขึ้น ไทยก็รวยขึ้นแต่รวยขึ้นบนความเสียเปรียบอย่างไม่ควรจะเป็น





กำลังโหลดความคิดเห็น