“ยิ่งลักษณ์” ประชุม ครม.วันนี้ถกหลักเกณฑ์การคืนภาษีสรรพสามิตสำหรับผู้ที่ซื้อรถคันแรก ขณะที่กรมสรรพากรเสนอ พ.ร.ฎ.ลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% พร้อมพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วม แถมด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายล้างบางขั้วเก่า
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (13 ก.ย.) ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร จะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อลดอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นการทั่วไป จาก 30% เป็น 23% มีผลวันที่ 1 ม.ค. 2555 และลดภาษี 20% ในปี 2556
ขณะที่ กรมสรรพสามิต นำเสนอแนวทางการคืนเงินภาษีสำหรับรถคันแรก โดยจะให้สิทธิแก่ผู้ที่ซื้อรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1500 ซีซี และมีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนรถปิกอัพนั้นได้ทุกรุ่นที่เป็น 2 ประตู และดับเบิลแค็บที่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์การคืนเงินภาษีให้กับผู้ซื้อรถนั้น ต้องรอความชัดเจนภายหลังการประชุม ครม. เพราะมีรายละเอียดที่น่าติดตามอีกมาก
นอกจากนี้ ครม.จะหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ยังน่าเป็นห่วงจากน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ใน 16 จังหวัด 69 อำเภอ ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 2 แสนครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 80 คน ครดว่าเบื้องต้นที่ประชุม ครม.จะเร่งรัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและท้องถิ่นเร่งสร้างถนนและสะพานเพื่อเปิดทางการให้ความช่วยเหลือเข้าไปถึง และในวันที่ 14 ก.ย.นี้ รัฐบาลเตรียมจัดงาน “รวมพลังไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ระดมทุนช่วยเหลือน้ำท่วม เวลา 20.30-21.30 น.ทางช่อง 9 และช่อง 11
สำหรับการโยกย้ายแต่งตั้งนั้น ในการประชุม ครม.วันนี้ มีหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะมีการย้ายล้างบาง โดยดึงขั้วเก่าเข้ากรุแล้วโยกคนในระบอบทักษิณเข้ามาคุมอำนาจดังเดิม
สำหรับวาระอื่นๆ นายกรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเสนอขอความเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย-อินโดนีเซีย ครั้งที่ 5 และเสนอรายงานการโอนงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญ
นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เสนอขออนุมัติก่อหนี้ผูกพัน สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 (การเช่าอาคารที่ทำการสำนักงานและสัญญาเช่ารถยนต์เพื่อใช้ประจำสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสาขาในประเทศและต่างประเทศ)
กระทรวงพาณิชย์ เสนอกำหนดให้อาวุธยุทโธปกรณ์เป็นสินค้าต้องห้ามส่งไปยังประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาชนอาหรับลิเบีย ตามความเห็นของคณะกรรมการสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้ขอความร่วมมือมา