รมช.คลัง แจงนโยบายคืนภาษีรถคันแรก 1 แสนบาท อาจทำไม่ได้ 100% อย่างที่หาเสียงเอาไว้ ระบุ รบ.ตั้งเงื่อนไขให้เฉพาะผู้เสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาตัวจริง และจำกัดไว้เฉพาะกระบะ กับอีโคคาร์ เท่านั้น ขณะที่สรรพากรยังไม่รู้ว่าจะคืนให้แบบไหน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงมาตรการคืนภาษีรถคันแรก 1 แสนบาท ตามนโยบายของรัฐบาลว่า อาจจะทำไม่ได้ 100% อย่างที่ได้เคยหาเสียงเอาไว้ เหตุเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรมจัดเก็บภาษี 2 แห่ง คือ กรมสรรพสามิต และกรมสรรพากร
ล่าสุด กรมสรรพสามิตได้รายงานในเบื้องต้นว่า เงื่อนไขการคืนภาษีรถยนต์คันแรกนั้นจะเป็นการคืนภาษีสรรพสามิตในจำนวนไม่เกิน 1 แสนบาท สำหรับรถยนต์ที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท และต้องเป็นรถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) หรือรถกระบะเท่านั้น ส่วนรถยนต์นั่งทั่วไป ยืนยันว่าจะไม่ได้รับสิทธิคืนภาษีดังกล่าว
ทั้งนี้ การคืนภาษีจะเป็นการคืนผ่านกรมสรรพากร เป็นเวลา 5 ปี และบุคคลที่จะได้คืนภาษีจะต้องเป็นผู้ที่อยู่ในระบบภาษีของกรมสรรพากร และต้องมีการจ่ายภาษีจริงเท่านั้น ซึ่งทางกรมสรรพากรเองก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะให้คืนภาษีรถยนต์คันแรกอย่างไร เช่น จะให้นำภาษีสรรพสามิตที่ได้รับคืน มาเป็นรายจ่ายและหักลดหย่อนเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นเวลา 5 ปีได้หรือไม่นั้น จะต้องหารือในรายละเอียดอีกครั้ง
“ยอมรับว่าผู้ซื้อรถจะได้รับการคืนภาษีจริงไม่ครบตามที่รัฐบาลหาเสียงไว้ และคนที่อยู่ในระบบภาษี แต่รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีก็จะไม่ได้รับสิทธิจากการคืนภาษีรถยนต์คันแรก ซึ่งกรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต จะต้องหารือกันว่าจะคืนภาษีรถยนต์อย่างไร ซึ่งยอมรับว่าเงื่อนไขปฏิบัติไม่ตรงกับที่หาเสียงไว้ แต่ไม่ได้เป็นการหลอกประชาชน เพราะการคืนภาษีผ่านกรมสรรพากร เพราะต้องการให้คนเข้ามาอยู่ในระบบภาษีมากขึ้น”
โดยปัจจุบันมีประชาชนยื่นแบบแสดงรายการ เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 10 ล้านราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียภาษีจริงเพียง 2 ล้านรายเท่านั้น เนื่องจากผู้มีรายได้ไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อเดือนไม่มีภาระต้องเสียภาษี
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่หาเสียงกำหนดไว้ว่าให้คืนภาษีสรรพสามิตทั้งหมดสำหรับรถยนต์ที่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ทำให้คนซื้อรถจะได้คืนภาษีสูงสุดคันละ 2 แสนบาท ไม่ใช่แค่ 1 แสนบาท
