“สมศักดิ์” สั่งจัดงานเทิดพระเกียรติในหลวงพระชนมายุ 84 พรรษาอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกำชับ รปภ.คุมพื้นที่ให้เข้มงวด หลังพบปล่อยคนแปลกหน้าเข้าถึงบัลลังก์ประธานสภา ชี้สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ หวั่นเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ให้เพิ่มเครือข่ายวิทยุ โทรทัศน์รัฐสภาครอบคลุมทุกจังหวัด อ้างเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย ส่วนรัฐสภาจังหวัดต้องมีมให้ครบ
ที่รัฐสภา วันนี้ (9 ก.ย.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทยราษฎรคนที่ 1 และ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ได้ร่วมประชุมและมอบนโยบายการบริหารราชการให้กับข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระชนมายุ 84 พรรษา ขอให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รว่มกันจัดงานเฉลิมฉลองให้ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติโดยสภาจะเป็นแม่งานในการจัดงานเทิดพระเกียรติซึ่งจะใช้งบเหลือจ่าย และของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 อีกจำนวน 150 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนไม่ค่อยสบายใจกรณีมีคนนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นใคร เข้ามาอยู่ในพื้นที่เฉพาะของสมาชิกในชั้นสองของอาคารรัฐสภา โดยเฉพาะบริเวณหลังบัลลังก์ของประธาน เนื่องจากการเมืองทุกวันนี้ไว้ใจไม่ได้ ตนไม่อยากให้ชะล่าใจ หรือประมาท ไม่อยากให้เกิดกรณีวัวหายแล้วล้อมคอก เพราะหากเกิดอะไรขึ้นจะเกิดความเสียหายมากมายมหาศาล จึงอยากให้เน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ. ) อย่างเคร่งครัด โดยสิ่งใดที่สามารถปฏิบัติให้เคร่งครัดและมีประสิทธิภาพประสิทธิผลขอให้ทำอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เช่น การแบ่งพื้นที่ ในพื้นที่สำคัญห้ามเข้าก็ต้องห้ามจริง
ส่วนจะใช้งบประมาณอย่างไรเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ให้ดำเนินการเลย โดยเฉพาะใช้เงินเหลือจ่ายที่มีอยู่มาเร่งทำ ตนไม่อยากให้งบเหลือจ่ายต้องส่งคืนคลังแม้แต่บาทเดียว เพราะงบประมาณของสภาแต่ละปีได้น้อยอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับอำนาจ 3 ฝ่าย ดังนั้น งบที่เหลือควรเอามาบริหารให้เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยในภาวะการเมืองไม่ปกติ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การส่งเสริมประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนถือเป็นพันธกรณีสำคัญที่เป็นหน้าที่โดยเฉพาะ โดยขอให้ความสำคัญเป็นพิเศษ สำหรับหลักการส่งเสริมประชาธิปไตยให้ลงไปในรากหญ้าและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ทั้งนี้อุปกรณ์ที่สำคัญในการสร้างความมีส่วนร่วมไม่พ้นสื่อของสภา คือ โทรทัศน์และวิทยุ ขอให้ขยายให้ไปถึงทั้ง 77 จังหวัด เพราะหากบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยและขาดจิตสำนักที่เป็นประชาธิปไตยปัญหาต่างๆ ทั้งความขัดแย้งหรือการสร้างความปรองดองจะไม่สามารถแก้ไขได้ ตนเห็นว่าสื่อมวลชนสามารถใช้เสริมสร้างบรรยากาศให้การเมืองไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงและสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง
“ถ้ามีแล้วต้องไม่ทำให้เสียของ หมายถึงสาระที่เราจะใส่เข้าไปทำอย่างไรจะมีสถานีวิทยุครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศไทยและหลังจากมีแล้วทำอย่างไรจึงจะไม่เสียของ คนที่มาทำต้องมีความเป็นมือาชีพ และต้องลงทุน แต่หากทำได้แล้วทำให้เกิดการมีส่วนร่วมทางการเมืองตั้งแต่ระดับรากหญ้าถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า” นายสมศักดิ์ กล่าว
ประธานสภา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การมีรัฐสภาจังหวัดหรือสาขาของรัฐสภาควรจะต้องมีทุกจังหวัด เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐสภาเป็นหนึ่งในอำนาจสูงสุด ฝากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏรและเจ้าหน้าที่พิจารณา ทั้งนี้ ทุกนโยบายที่ตนให้ในวันนี้ (9 ก.ย.) ขอให้มีคณะกรรมการคอยดูแลเพื่อขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม
