ตำรวจเชื่อเลือกตั้งเชียงรายไม่แรง รับหวั่นผสมโรงฉวยโอกาสก่อเหตุ

เชียงราย - ผู้การฯ ตำรวจเชียงราย เชื่อเลือกตั้ง 54 เมืองพ่อขุนฯ ไม่รุนแรง ล่าสุดมี 7 จาก 49 ผู้สมัคร ขอกำลังคุ้มกัน แต่ยอมรับหวั่นเหตุผสมโรง ใช้ช่วงเลือกตั้งสางแค้น-ปมขัดแย้งเก่า

โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สนามเชียงรายพบว่าหลายพื้นที่ยังคงมีการหาเสียงของบรรดาผู้สมัคร ส.ส.อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ต้องมีการแข่งขันหนักระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทั่วไปยังเป็นปกติ โดยมีเพียงการทำลายป้ายหาเสียงของฝ่ายตรงกันข้ามเท่านั้น

โดยตำรวจ สภ.พาน ได้จับกุมตัวชายวัยรุ่น 2 คน ขณะเผาป้ายพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง พร้อมของกลางไฟแช็คและน้ำมัน จากการสอบสวนเบื้องต้นวัยรุ่นที่ก่อเหตุรับสารภาพว่า ทำไปด้วยความเมาและคึกคะนองเท่านั้น ขณะที่มีการแจ้งความร้องทุกข์เรื่องป้ายหาเสียงถูกทำลายแล้วใน 2 ท้องที่คือ อ.พาน ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 และ อ.แม่สาย เขตเลือกตั้งที่ 6 แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ

ด้าน พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย กล่าวว่า ปัจจุบันผู้สมัคร ส.ส.ได้รับการดูแลจากตำรวจตามหน้าที่อยู่แล้ว แต่ก็มีผู้สมัครที่ร้องขอตำรวจให้ไปดูแลความปลอดภัยอีกจำนวน 7 ราย จากผู้สมัครในจังหวัดทั้งหมด 49 ราย ขณะที่กระแสข่าวพบเพียงรายงานว่ามีกลุ่มมือปืนจากต่างพื้นที่เข้ามาเคลื่อนไหวแต่เป็นลักษณะเป็นทางผ่านไปสู่พื้นที่อื่นๆ ของภาคเหนือตอนบน

พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตนเองเชื่อว่าการแข่งขันรับเลือกตั้ง ส.ส.ใน จ.เชียงราย จะไม่มีความรุนแรง แต่ก็อาจจะมีความพยายามนำความขัดแย้งเก่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ส.ส.มาฉวยโอกาสทำร้ายคู่อริในช่วงการเลือกตั้ง เพื่อหวังอำพรางก็เป็นไปได้

ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่โดยเฉพาะที่ประจำอยู่ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยช่วงเลือกตั้ง ภ.เชียงราย ให้ประสานการข่าวอย่างรวดเร็วและแจ้งตำรวจท้องที่ให้จับตาดูคนแปลกหน้าหรือผู้ที่มีหมายจับในคดีต่างๆ เอาไว้แล้ว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการหาเสียงของบรรดาพรรคการเมืองสำคัญ มีการเน้นใช้ทั้งระบบปกติและใต้ดิน โดยภายนอกเป็นการหาเสียงด้วยรถยนต์แห่หาเสียงและเดินพบปะประชาชนรวมทั้งชูป้ายหรือติดตั้งป้ายหาเสียงตามปกติ แต่ก็กลุ่มคนออกไปพบปะผู้นำชุมชนหรือหัวคะแนนที่มีบทบาทในแต่ละหมู่บ้านและตำบล เพื่อใช้เป็นช่องทางในการระบายเงินซื้อเสียงลงไปสู่ประชาชน โดยบางพื้นที่ เช่น บางหมู่บ้านของ อ.เวียงแก่น ฯลฯ มีการจ่ายเงินผ่านระบบดังกล่าวแล้วหัวละกว่า 500 บาท

ขณะที่การหาเสียงแม้จะเป็นไปตามปกติแต่ก็มีการกระทบกระทั่งกันบ้างเล็กน้อย ระหว่างผู้ไปปราศรัยหาเสียงกับกลุ่มคนที่สนับสนุนอีกฝ่ายหนึ่ง โดยบางพรรคออกแจกจ่ายเอกสารแต่ผู้ที่รับเอกสารก็ทิ้ง หรือแสดงอาการไม่สุภาพต่อหน้า บางครั้งมีเสียงโห่ฮาหรือตะโกนต่อว่าหรือไม่เห็นด้วย แต่การหาเสียงก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี