“นิพิฏฐ์” เปิดประเด็นขบวนการหมิ่นสถาบันฯ ทั้งการแจกหนังสือเรดพาวเอร์ในที่ประชุม ส.ส.เพื่อไทย การจัดงาน “ทักษิณมหาราษฎร์” ที่พ้องเสียง ส่งผล ส.ส.เพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงตอบโต้พัลวัน ต้องพักการประชุมชั่วคราว “ขุนค้อน” สั่งนับองค์ประชุมไม่ครบ ปิดประชุม 23.30 น.
เมื่อเวลา 20.50 น. การอภิปรายนโยบายรัฐบาลในการประชุมสภาฯ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายว่า การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ตนจำเป็นต้องพูดถึงบุคคล และกลุ่มการเมืองภายนอกไม่ว่าจะเป็นสีอะไรก็ตาม ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะสำเร็จ หรือเป็นอุปสรรคในการสร้างความปรองดองในประเทศ เพราะในระบอบประชาธิปไตยไม่มีทางหาความเห็นร่วมกันได้เลย ดังนั้น หลักคือต้องสนับสนุนความเห็นต่าง แต่อย่าทำร้ายกัน
วันนี้เราขัดแย้งเรื่องประชาธิปไตย มีการนำผู้คนออกมา ทำร้ายกันฆ่ากัน เพื่อกำหนดนิยามประชาธิปไตย ตอนยุบสภา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วีดีโอลิ้งค์บอกว่าจะทำยุทธศาสตร์การเดินสองขา ซึ่งนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำ นปช.ก็รับนโยบายนี้มา ขาหนึ่งคือ พรรคเพื่อไทย ขาที่สองคือ คนเสื้อแดง ตอนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ไปที่ จ.นครปฐม และหลายจังหวัดในประเทศนี้ ปรากฎว่าพบปะประชาชน ปราศรัยไม่ได้ เคยมีผู้สื่อข่าวไปสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าจะห้ามคนเสื้อแดงไม่ให้ขัดขวางนายอภิสิทธิ์ได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์บอกห้ามไม่ได้ เพราะมันเป็นสิทธิของประชาชน ตนอยากถามนายกฯ ว่ามีมนุษย์ไหนห้ามขาตัวเองไม่ได้ มีประเภทเดียวคือคนพิการท่อนล่าง นี่คือยุทธศาสตร์การเดินสองขา ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างความปรองดองคนในชาติ
“สิ่งที่คนเสื้อแดง เสื้อเหลือง หรือเสื้อสีอะไรก็ตามทำในประเทศยอมรับว่า ใจเขาถึงกว่าผม เพราะเป็นการทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย และวันนี้เขาชนะมาเป็นรัฐบาล ทุกคนที่ทำความผิดต้องขึ้นศาล เมื่อวาน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ บอกว่าการแทรกแซงทำอย่างไร รัฐบาลทำไม่เป็น แล้วการทำถุงขนมหล่น 2 ล้านที่ศาล เป็นการแทรกแซงหรือไม่ เราไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้น แต่ใครทำผมไม่รู้” นายนิพิฏฐ์กล่าว
เมื่อนายนิพิฏฐ์พูดถึงประเด็นเรื่องยุทธศาสตร์ 2 ขา และถุงขนม 2 ล้านบาท นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยได้ลุกขึ้นประท้วง ขอให้นายนิพิฏฐ์ถอนคำพูด นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า นโยบายของรัฐบาลไม่มีการพูดถึงเรื่องการเดินด้วย 2 ขา ขอให้ประธานสภาห้ามผู้อภิปรายไม่ให้อภิปรายเกี่ยวกับเรื่อง 2 ขา ถ้าพูดเช่นนี้ต่อคงไม่จบ ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ลุกขึ้นประท้วง ขอให้ถอนคำพูด อย่าให้พูดพาดพิงนายพิชิต โดยอ้างว่าคำวินิจฉัยในเรื่องถุงขนมนั้นอยู่ในชั้นศาล ซึ่งนายนิพิฏฐ์ ยอมถอนคำพูด
หลังจากนั้นนายนิพิฏฐ์ได้อภิปรายว่า การฟื้นฟูประชาธิปไตยทั้งหมดที่เกิดขึ้นเรามองประชาธิปไตยต่างกัน ดังนั้น เราต้องหาจุดร่วมว่าประชาธิปไตยคืออะไร วาทะบางเรื่องขอให้หยุดได้หรือไม่ อาทิ คำว่ามือที่มองไม่เห็น ถึงช่วงนี้ทำให้ประธานปิดไมโครโฟน และพูดว่า เรื่องอดีตลืมได้ก็ดีอย่าไปนึกถึง หากลืมอดีตมันเดินหน้าได้เลย มามองว่านโยบายปรองดองฝ่ายค้านมอง จะเดินหน้าอย่างไร อย่ารื้อฟื้นความหลัง
นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า การปรองดองวิวาทะบางเรื่องต้องยุติ ถ้าไม่ยุติ ฝ่ายหนึ่งออกมาโต้ก็ไม่สิ้นสุด คำบางคำที่บอกต่อไปนี้จะไม่มีแล้ว ส่วนเรื่องการยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต้องยอมรับความจริงบ้าง และอาจจะเจ็บปวด ตนชื่นชมนายกฯ เขียนไว้หลายเรื่อง ตนกังวลว่าอย่าเขียนแต่ในนโยบายต้องปฏิบัติด้วย
นายนิพิฏฐ์ได้อ้างถึงหนังสือเรดพาวเวอร์ที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันฯ ที่มีการแจกในที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงการจัดงานทักษิณมหาราษฎร์ของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเร็วๆ นี้
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ พยายามตัดบทว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้พูดออกนอกประเด็น ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่พยายามตอบโต้ว่าถูกนายนิพิฏฐ์พูดจาใส่ร้าย และขอใช้สิทธิพาดพิง จนทำให้นายสมศักดิ์ต้องตัดบทว่าให้ทั้ง 2 ฝ่ายใช้เวลาอภิปรายได้อย่างเต็มที่ โดยมีกติกาว่าต้องไม่ประท้วงกันจนนายนิพิฏฐ์พูดจบ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า พรรคเพื่อไทยมีความจงรักภักดี ไม่มีใครสักคนเดียวที่ไม่จงรักภักดี ไม่อยากให้พรรคการเมืองมีการแอบอ้างสถาบัน พรรคเพื่อไทยมีบุคลากรที่เป็นนายตำรวจ และทหารเป็นจำนวนมาก ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์อย่าใส่ร้ายกันเหมือนที่เคยใส่ร้ายนายปรีดี พนมยงค์ ดังนั้นควรเลิกพูดถึงสถาบันฯ สักที
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายโต้ตอบในประเด็นการจัดงานทักษิณมหาราษฎร์ว่า ขอให้นายนิพิฏฐ์เอาหลักฐานมาแสดง โดยกล่าวว่าหลังจากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง มีพวกมือดีพยายามทำลายคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย โดยทำป้ายที่มีข้อความที่มีคำพ้องเสียงดังกล่าว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ได้มีการกระทำของกลุ่มบุคคล กระทำการจาบจ้วงเบื้องสูง สมัยที่ตนเป็นรองนายกฯ เมื่อเห็นว่าคนเหล่านี้มีการลบหลู่สถาบันฯ ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้ใส่ร้าย และกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้ตั้งข้อกล่าวหากลุ่มคนเหล่านี้ 19 คน โดยมีนายจตุพรและพรรคพวกซึ่งเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทยรวมอยู่ด้วย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การกล่าวหาเช่นนี้ไม่มีหนทางจะปรองดองได้ การนำเอาสถาบันฯ มาโจมตี ไม่มีสิ่งใดดีเลย วันนี้เราอภิปรายนโยบาย การกล่าวหาเรื่องนี้มันทำลายทุกฝ่าย หลังจากนั้น มี ส.ส.ลุกขึ้นประท้วงหลายคน จนถึงเวลา 22.20 น. ประธานเห็นว่าสภามีการพูดถึงเรื่องสถาบันฯกันมากขึ้น จึงสั่งพักการประชุม 10 นาที หลังจากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. ได้เปิดประชุมต่อ โดย ส.ส.เพื่อไทยเสนอให้ปิดประชุม ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เสนอให้อภิปรายต่อ ประธานสภาฯใช้อำนาจในการนับองค์ประชุม ปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ 314 คน องค์ประชุมไม่ครบ จึงปิดการประชุมสภาเวลา 23.30 น.