“กรพจน์“” เปิดตัวคาราวานส่งความสุข กลยุทธ์หาเสียงโค้งสุดท้าย ชูนโยบายหยุดขั้ว สลายสี เชื่อคว้า ส.ส.กว่า 20-25 คน แนะพรรคอันดับ 1 คัดพวกร่วมรัฐเน้นนโยบาย ด้านเด็กชาติพัฒนาฯ นครปฐม รวมหัวเด็กประชาธิปัตย์ ยื่น กกต.จับตาเลือกตั้ง หลังถูกมาเฟียพรรคหนึ่งข่มขู่ แฉ ผอ.ศูนย์เลือกตั้ง ปชป.ในพื้นที่หายตัวลึกลับ
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค เปิดตัวคาราวานรถส่งความสุขเพื่อเป็นกลยุทธ์ในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของพรรค โดยนายกรพจน์กล่าวว่า คาราวานรถส่งความสุขนี้ ต้องการที่จะสื่อสารนโยบายไปให้ประชาชน อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าช่วงที่ผ่านมาสังคมไทยมีแต่ความขัดแย้ง พรรคอยากให้บรรยากาศอยู่ในภาวะปกติ แม้หลายฝ่ายจะมองว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออก แต่หากทุกพรรคการเมืองจับมือร่วมกันก็จะสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างอนาคตแห่งความสุข และเชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่ดี ซึ่งพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินก็ได้ชูนโยบายหยุดขั้ว สลายสี เพื่อต้องการลดความขัดแย้ง ให้เกิดความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐสภา กระบวนการยุติธรรม และระบบในสังคม ถ้าเกิดว่าทุกฝ่ายร่วมมือกันแล้ว ก็จะร่วมกันพัฒนาให้ประเทศเจริญได้อีกครั้ง
“วันที่ 3 ก.ค.นี้ถือเป็นว่าที่คนไทยต้องตัดสินอนาคตของเขาเอง ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ประชาชนมีโอกาสในการตัดสินใจอย่างอิสระ” นายกรพจน์ระบุ
จากนั้น นายกรพจน์ยังให้สัมภาษณ์อีกด้วยว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงที่ผ่านมา เชื่อว่าพรรคจะได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 20-25 ที่นั่ง จากเดิมที่ตั้งเป้า 15-18 ที่นั่ง ทั้งนี้เชื่อว่าในพื้นที่นครราชสีมา อุบลราชธานี สกลนคร จันทบุรี และศรีสะเกษ พรรคจะได้ ส.ส.เข้ามาทำหน้าที่ในสภาอย่างแน่นอน ส่วนในจังหวัดอื่นๆถึงแม้ยังไม่ชัดเจนในเรื่องตัว ส.ส. แต่เชื่อว่าคนพื้นที่สนับสนุนผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรค ส่วนเรื่องผลการสำรวจของโพลต่างๆ ที่ให้พรรคเพื่อไทยชนะอย่างถล่มทลายนั้น ไม่มีความกังวล
นายกรพจน์ยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งด้วยว่า ตนขอเรียกร้องไปยังพรรคที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 ให้พิจารณาพรรคการเมืองที่จะเข้าร่วมรัฐบาล โดยคัดเลือกจากนโยบายเป็นหลัก และหากนโยบายของพรรคอื่นมีประโยชน์ ก็ควรนำมากำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาลด้วย
ด้าน นายเฉลิม ตันติวิทยาพิทักษ์ รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน ในฐานะผู้ดูแลการสมัครรับเลือกตั้งนครปฐม พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคและ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ใน จ.นครปฐม ได้แก่ นายสุเทพ เข้มแข็งปรีชานนท์ ผู้สมัคร ชพน.เขต 4 พ.ต.อ.วีรยศ ชื่นกลิ่นธูปศิริ ผู้สมัคร ส.ส.ปชป. เขต 2 และนายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว ผู้สมัคร ส.ส.ปชป.เขต 4 ร่วมส่งหนังสือร้องเรียนไปยังนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาจับตาการเลือกตั้งในพื้นที่ จ.นครปฐม เป็นพิเศษ หลังจากที่ผู้สมัครได้ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคการเมืองหนึ่งคุกคาม และข่มขู่ หัวคะแนนของผู้สมัคร จนถึงขั้นสั่งห้ามคณะหาเสียงนำรถแห่ประชาสัมพันธ์ไปในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครปฐม
“การคุกคามและข่มขู่เกิดขึ้นหลายครั้ง จนผู้สมัครของทั้ง 2 พรรคหารือกันว่าจะนำเรื่องไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยว แต่ผู้ที่ถูกคุกคาม และถูกข่มขู่ไม่ขอให้การใดๆ เพราะเกรงกลัวกลุ่มผู้มีอิทธิพลจะทำร้าย ทั้งนี้ ล่าสุดผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งของนายสุเทพนั้นถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลเรียกไปพบในบ้านพักและสั่งห้ามไม่ให้มาช่วยงานด้านการเลือกตั้งและได้หายตัวไป แต่คาดว่าคงไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต” นายเฉลิมชัยกล่าว
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค เปิดตัวคาราวานรถส่งความสุขเพื่อเป็นกลยุทธ์ในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของพรรค โดยนายกรพจน์กล่าวว่า คาราวานรถส่งความสุขนี้ ต้องการที่จะสื่อสารนโยบายไปให้ประชาชน อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าช่วงที่ผ่านมาสังคมไทยมีแต่ความขัดแย้ง พรรคอยากให้บรรยากาศอยู่ในภาวะปกติ แม้หลายฝ่ายจะมองว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออก แต่หากทุกพรรคการเมืองจับมือร่วมกันก็จะสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างอนาคตแห่งความสุข และเชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่ดี ซึ่งพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินก็ได้ชูนโยบายหยุดขั้ว สลายสี เพื่อต้องการลดความขัดแย้ง ให้เกิดความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐสภา กระบวนการยุติธรรม และระบบในสังคม ถ้าเกิดว่าทุกฝ่ายร่วมมือกันแล้ว ก็จะร่วมกันพัฒนาให้ประเทศเจริญได้อีกครั้ง
“วันที่ 3 ก.ค.นี้ถือเป็นว่าที่คนไทยต้องตัดสินอนาคตของเขาเอง ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ประชาชนมีโอกาสในการตัดสินใจอย่างอิสระ” นายกรพจน์ระบุ
จากนั้น นายกรพจน์ยังให้สัมภาษณ์อีกด้วยว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงที่ผ่านมา เชื่อว่าพรรคจะได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 20-25 ที่นั่ง จากเดิมที่ตั้งเป้า 15-18 ที่นั่ง ทั้งนี้เชื่อว่าในพื้นที่นครราชสีมา อุบลราชธานี สกลนคร จันทบุรี และศรีสะเกษ พรรคจะได้ ส.ส.เข้ามาทำหน้าที่ในสภาอย่างแน่นอน ส่วนในจังหวัดอื่นๆถึงแม้ยังไม่ชัดเจนในเรื่องตัว ส.ส. แต่เชื่อว่าคนพื้นที่สนับสนุนผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรค ส่วนเรื่องผลการสำรวจของโพลต่างๆ ที่ให้พรรคเพื่อไทยชนะอย่างถล่มทลายนั้น ไม่มีความกังวล
นายกรพจน์ยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งด้วยว่า ตนขอเรียกร้องไปยังพรรคที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 ให้พิจารณาพรรคการเมืองที่จะเข้าร่วมรัฐบาล โดยคัดเลือกจากนโยบายเป็นหลัก และหากนโยบายของพรรคอื่นมีประโยชน์ ก็ควรนำมากำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาลด้วย
ด้าน นายเฉลิม ตันติวิทยาพิทักษ์ รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน ในฐานะผู้ดูแลการสมัครรับเลือกตั้งนครปฐม พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคและ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ใน จ.นครปฐม ได้แก่ นายสุเทพ เข้มแข็งปรีชานนท์ ผู้สมัคร ชพน.เขต 4 พ.ต.อ.วีรยศ ชื่นกลิ่นธูปศิริ ผู้สมัคร ส.ส.ปชป. เขต 2 และนายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว ผู้สมัคร ส.ส.ปชป.เขต 4 ร่วมส่งหนังสือร้องเรียนไปยังนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาจับตาการเลือกตั้งในพื้นที่ จ.นครปฐม เป็นพิเศษ หลังจากที่ผู้สมัครได้ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคการเมืองหนึ่งคุกคาม และข่มขู่ หัวคะแนนของผู้สมัคร จนถึงขั้นสั่งห้ามคณะหาเสียงนำรถแห่ประชาสัมพันธ์ไปในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครปฐม
“การคุกคามและข่มขู่เกิดขึ้นหลายครั้ง จนผู้สมัครของทั้ง 2 พรรคหารือกันว่าจะนำเรื่องไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยว แต่ผู้ที่ถูกคุกคาม และถูกข่มขู่ไม่ขอให้การใดๆ เพราะเกรงกลัวกลุ่มผู้มีอิทธิพลจะทำร้าย ทั้งนี้ ล่าสุดผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งของนายสุเทพนั้นถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลเรียกไปพบในบ้านพักและสั่งห้ามไม่ให้มาช่วยงานด้านการเลือกตั้งและได้หายตัวไป แต่คาดว่าคงไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต” นายเฉลิมชัยกล่าว
