ปชป.อัดนโยบายรัฐทำคนฝันสลาย บิดจากค่าแรงเป็นรายได้ 300 บาท เคยบอกยกเลิกกองทุนน้ำมัน มาวันนี้บิดเป็นมาตรการชั่วคราว แก๊ซโซฮอล์จะเจ๊งคนแห่ใช้เบนซิน กระทบราคาอ้อย มันสำปะหลังตกต่ำ ส่วนนโยบายลอยตัวก๊าซแอลพีจีทำให้แก๊ซภาคครัวเรือนราคาเพิ่มขึ้นเท่าตัว
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายนโยบายรัฐบาล ระบุว่าวันนี้นโยบายของรัฐบาลทำให้ประชาชนฝันสลาย เรื่องแรกคือเรื่องที่เคยหาเสียงว่าจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท วันนี้ระบุในนโยบาย จากค่าแรงขั้นต่ำกลายเป็นรายได้ วันละ 300 บาท ซึ่งรายได้หมายความรวมถึงการอุดหนุนอื่นๆ เช่น ลูกจ้างที่ได้ที่อยู่อาศัย ได้รับอุดหนุนอาหาร ก็จะไม่ได้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
ฝันสลายประการที่สอง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยปราศรัยหาเสียงบอกว่าจะยกเลิกกองทุนน้ำมัน ให้ราคาน้ำมันลดลง เพื่อกระชากค่าครองชีพลงมา คือ มาตรการถาวร ที่จะให้ราคาน้ำมันลดลงมาทันที วันนี้รัฐบาลมาพูดเสียงเดียวกันว่าเป็นมาตรการชั่วคราว ซึ่งมาตรการนี้มีผลกระทบ ทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน 91 ลดลงมาใกล้กับราคาแก๊สโซฮอล์ ห่างกันเพียง 0.70 บาทต่อลิตร ทำให้คนหันไปใช้เบนซินกันหมด โรงงานผู้ผลิตเอทานอลจะเจ๊งกันเป็นแถว พืชพลังงานอย่าง ไร่อ้อย มันสำปะหลังจะเดือดร้อน ราคาพืชผลพลังงานกำลังจะพังอีกแล้ว ราคาอ้อยที่จะเปิดหีบหน้าหนาวนี้ จะตกต่ำอีกครั้ง
อีกประการหนึ่งคือ นโยบายราคาก๊าซแอลพีจี ในอดีตรัฐบาลได้อุดหนุนราคาแอลพีจี ถ้าวันนี้ปล่อยให้ราคาแก๊ซแอลพีจีลอยตัว จะทำให้แก๊สขนาดถัง 15 กก. ภาคครัวเรือน เดิมราคาถังละ 280 บาท ถ้าปล่อยราคาลอยตัวจริงจะเพิ่มขึ้นเป็นถังละ 570 บาท ส่วนนโยบายจะให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรเครดิตพลังงาน สำหรับคนขับรถรับจ้าง แต่ไม่ช่วยคนใช้รถยนต์ใช้ก๊าซแอลพีจีที่มีรายได้เดือนละหมื่นกว่าบาท อยากให้อุ้มให้ทั่วถึงกันหมด อย่าแบ่งแยกคน นโยบายหลายเรื่องของรัฐบาลเป็นการแบ่งแยกคน เลือกดูแลคนขับแท๊กซี่ แต่ไม่ดูแลคนเงินเดือนหมื่นกว่าบาท
รวมถึงกรณีช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตรายละ 10 ล้านบาท ก็อยากให้ช่วยเหลือคนที่เสียชีวิตกรณีอื่นๆ เช่น ที่ภาคใต้ หรือชาวบ้านในกรณีที่ตากใบ กรือเซะ อย่าแบ่งแยกคน และอย่าทำเพื่อตอบสนองคนใดคนหนึ่ง