xs
xsm
sm
md
lg

สภาการฯนัดลงมติอีเมลซื้อสื่อ 20 ก.ย.ติง “มติชน-ข่าวสด” ขัดจรรยาบรรณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คณะอนุกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ นัดลงมติ 20 ก.ย.เพื่อสรุปผลสอบอีเมลเพื่อไทย กรณีซื้อสื่อ ทั้ง 5 ฉบับ หลังให้เวลายื่นอุทธรณ์ 20 วัน ก่อนส่งผลสรุปคณะกรรมการชุดใหญ่วินิจฉัยในขั้นสุดท้าย ลั่น มติชน-ข่าวสด ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยเบื้องต้น เท่ากับปิดโอกาสตัวเอง และขัดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อ

วันนี้ (23 ส.ค.) นายสุนทร จันทร์รังสี รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคณะอนุกรรมการเฉพาะเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการส่งอีเมลของนักการเมือง ระบุการให้เงินและผลประโยชน์แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนบางสำนัก ที่มี นพ.วิชัย โชควิวัฒน เป็นประธานคณะอนุกรรมการ หลังจากได้สรุปผลการสอบสวน ว่า หลังจากที่สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ได้เปิดเผยผลสรุปการสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการแล้ว ก็ได้แจ้งให้ต้นสังกัดของหนังสือพิมพ์ทั้ง 5 ฉบับ และผู้ถูกพาดพิงทั้ง 7 ราย ได้รับทราบผลการสอบสวน ซึ่งผู้ถูกพาดพิงสามารถยื่นอุทธรณ์คัดค้าน หากไม่พอใจในผลการสอบสวน หรือเห็นว่า ยังมีพยานหลักฐานและเหตุผลอื่นที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาภายในระยะเวลา 20 วัน โดยจะครบกำหนดในวันที่ 16 กันยายนนี้

ทางสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ จึงมีมติให้เลื่อนการประชุมของคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ จากกำหนดเดิมวันที่ 13 ก.ย.54 ไปเป็นวันที่ 20 ก.ย.54 เพราะเห็นว่าหากมีการจัดประชุมตามกำหนดการเดิม ทางต้นสังกัดหนังสือพิมพ์ หรือผู้ที่ถูกพาดพิงอาจจะยังไม่ได้ยื่นคำคัดค้าน ทางสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติจึงมีมติให้เลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 20 ก.ย.54 เพื่อจะได้รอคำคัดค้านทั้งหมดนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาพร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งหากมีการยื่นเรื่องอุทธรณ์คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ก็จะตั้งคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งรับอุทธรณ์ขึ้นมาพิจารณา และคณะกรรมการก็จะรายงานผลการพิจารณาให้สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติพิจารณาขั้นสุดท้ายต่อไป

ส่วนกรณีที่ นสพ.ข่าวสด มติชน แถลงการณ์ไม่ยอมรับผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการนั้น นายสุนทร กล่าวว่า สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ให้สิทธิ์ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง และอุทธรณ์ผลการสอบสวน แต่ในเมื่อ นสพ.ข่าวสด และ มติชน ไม่ยอมรับผล และไม่ยอมอุทธรณ์ก็ถือเป็นการปิดโอกาสของตัวเอง เพราะสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ถูกตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบและควบคุมการทำงาน รวมถึงจรรยาบรรณวิชาชีพของสื่อมวลชนเอง แต่เมื่อมีการตรวจสอบกันเองขึ้นมาแล้ว กลับไม่ยอมรับผลการตรวจสอบ มันจึงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ส่วนรายชื่อสื่อมวลชน 7 ราย ที่ถูกกล่าวหาพาดพิงที่ปรากฏออกมานั้น ก็เป็นรายชื่อที่ปรากฏอยู่ในอีเมลของนักการเมือง ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้เชิญสื่อมวลชนที่มีรายชื่อมาชี้แจงเพื่อประกอบข้อมูลในการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย

สำหรับเรื่องที่มีการกล่าวหาว่า คณะอนุกรรมการ ที่มี นพ.วิชัย โชควิวัฒน เป็นประธาน ได้สอบสวนข้อเท็จจริงโดยพิจารณาจากการเปรียบเทียบจำนวนการลงข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์นั้น มีความน่าเชื่อถือในหลักฐานมากน้อยเพียงใดนั้น นายสุนทร ตอบว่า การเปรียบเทียบจำนวนการลงข่าวเป็นการนำข้อมูลมาจากมูลนิธิสื่อมวลชนศึกษา หรือ Media Monitor ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับในวงการสื่อสารมวลชน โดยข้อมูลที่ได้มาจะบอกรายละเอียดทั้งหมดของการลงข่าวในหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับว่าลงข่าวหน้าไหน อย่างไร มีการพาดหัวข่าวอย่างไร มีการวางรูปใครไว้ตรงไหน มีการเขียนอธิบายภาพข่าวในลักษณะใด ซึ่งข้อมูลที่ได้มาถือว่ามีความละเอียดและเป็นข้อเท็จจริงที่สามารถตรวจสอบได้

ทั้งนี้ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ยืนยันว่า คณะอนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมาได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย และทำหน้าที่ในการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปโดยอิสระ ปราศจากอคติ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ และไม่มีการตั้งธง หรือเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองใด
กำลังโหลดความคิดเห็น