“มาร์ค” ท้าพิสูจน์ 169 ศพที่ระยอง แต่ต้องตรงไปตรงมา ระบุอำนาจเปลี่ยนมือได้แต่ความจริงต้องไม่เปลี่ยน เตือน “เพรียวพันธ์” ตุกติกระวังเข้าตัวเอง ขณะที่ “เทพเทือก” ยันศพนิรนามไม่เกี่ยวรัฐบาลกระชับพื้นที่แก๊งแดง ข้องใจ “ชัจจ์-จตุพร” ประสานเสียงตีปี๊บ รับหวั่นถูกสร้างหลักฐานเท็จโยนผิดฆ่าประชาชน ไม่ให้ราคา “เป็ดเหลิม” เลี้ยงแกะ ท้าแน่จริงให้คำตอบญี่ปุ่น ใครฆ่าช่างภาพรอยเตอร์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงศพนิรนาม 169 ศพที่ฝั่งในวัด 3 แห่ง จ.ระยอง ว่ายังไม่ทราบรายละเอียด เท่าที่ทราบผู้ที่เกี่ยวข้องก็ได้ชี้แจงไปแล้ว แต่ถ้าสงสัยก็ตรวจสอบได้ จากที่อ่านข่าวพบว่าเบื้องต้นเป็นศพที่ถูกฝังในกรณีที่เกิดพายุเกย์ในปี2532 ที่ จ.ชุมพร ซึ่งทางวัดและสมาคมพุทธศาสนาสงเคราะห์อำเภอแถลง จ.ระยองก็ชี้แจงมาตรงกัน ไม่คิดว่าจะมีอะไร และตนไม่คิดว่ามีอะไรด้วย หากสงสัยก็ตรวจสอบได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าการมาออกช่าวช่วงนี้เป็นการหวังผลทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบเจตนา แต่ก็เป็นเรื่องที่มีความพยายาม ในการที่จะพูดถึงเหตุการณ์แล้วเชื่อมโยงมายังรัฐบาลเก่า ซึ่งเขาพยายามทำมาตลอด แต่ความจริงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์พยายามที่จะดูแล โดยมีคระกรรมการอิสระฯ มีกรมคุ้มครองสิทธิที่พยายามติดตามให้อยู่แล้ว
ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่ากรณีนี้อาจเป็นขบวนการหนึ่งที่ต้องการหาเรื่องรัฐบาลชุดเก่า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอให้ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา แม้อำนาจเปลี่ยนแต่ความจริงจะต้องไม่เปลี่ยน ดังนั้นยขอให้ทุกอย่างตรงไปตรงมา เมื่อถามอีกว่าในกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมดจะมีความมั่นใจอย่างไรว่า ไม่ได้ทำตามธงที่วางไว้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันตรวจสอบ เราเองก็ติดตามตรวจสอบด้วย เมื่อถามอีกว่ากังวลหรือไม่ว่ากรณีนี้จะทำให้เกิดความยุ่งยากทางคดี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หากทำตรงไปตรงมาไม่กังวล
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเรียกร้องไม่ให้พูดถึงพยานหลักฐานข้อเท็จจริง มันก็จะกลายเป็นเรื่องของการกดดันและกลายเป็นเรื่องของการเมือง แต่เราได้เปิดโอกาสให้คนที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพยายามทำมาโดยตลอดในช่วงที่เราเป็นรัฐบาล อยากให้ทุกฝ่ายเคารพตรงนี้ บ้านเมืองถึงจะเดินไปข้างหน้าได้ ทุกคนมีกจะพูดถึงเรื่องความปรองดอง ความยุติธรรม ทั้งหมดต้องเชื่อมโยงจากความจริงก่อน แต่การเอาธงมาตั้งว่า ความจริงจะต้องเป็นอย่างนี้ มันก็ไม่นำไปสู่ความยุติธรรมและการปรองดอง
ต่อข้อถามว่าเจ้าของคดีในเรื่องนี้คือ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. มีอะไรที่น่าวิตกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอให้ทำอย่างตรงไปตรงมา ถ้าไม่เช่นนั้นวันหนึ่งก็จะมีปัญหาถึงตัวท่านเอง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวเรื่องเดียวกันว่า ตนได้ทราบข่าวผ่านสื่อมวลชนเรื่องที่ไปตรวจสอบศพที่ไม่ทราบชื่อที่จ.ระยอง และเห็นมีข่าวทำนองว่ากลัวว่าจะเป็นศพของกลุ่ม นปช.ที่หายไป ทั้งนี้ตนขอเรียนก่อนในเบื้องต้นว่า 1.ในช่วงระยะเวลาที่ดูแลรับผิดชอบความมั่นคงอยู่และร่วมแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย ก่อจลาจลนั้น ตนไม่ทราบมาก่อนว่ามี นปช.หายไป 50-60 คนอย่างที่ออกมาเป็นข่าว และไม่เคยมีใครรายงานให้ทราบไม่ว่าจะจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือฝ่ายข่าวดังนั้นจึงไม่ทราบจริงๆ
2.เมื่อเขาพูดอย่างนี้ ตนกังวลใจเหมือนกันว่าจะมีการพยายามหาเรื่องตนหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้ติดตามว่าศพมาจากไหน อย่างไร ซึ่งได้ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่าเป็นเรื่องของมูลนิธิที่จ.ชุมพร ซึ่งมีศพที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ญาติอยู่ที่ไหน ที่เสียชีวิตตอนพายุเกย์ และมีการเก็บศพไว้นานแล้ว เขาจึงประสานกับทางสมาคมพุทธศาสนาสงเคราะห์อำเภอแถลง จ.ระยอง ซึ่งจะมีการทำพิธีทำบุญล้างป่าช้าให้กับศพไม่มีญาติที่นั่น ทางสมาคมพุทธประทีป จ.ชุมพร จึงเอาศพไปสมทบด้วย นี่คือข้อมูลเบื้องต้นที่ทราบ และ 3.ตนเห็นว่าถ้าเจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบก็สมควรที่จะทำและแถลงให้ประชาชนทราบให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีข้อสงสัย แล้วไปกล่าวหากันสะเปะสะปะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ระบุว่าอาจจะมีการนำเรื่องดังกล่าวมาใช้หาเรื่อง แสดงว่าเกรงจะมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อปิดบังข้อเท็จจริงหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายดูข่าว มันก็ทะแม่ง ทะแม่งนะ ผมก็อพยายามติดตามดูข้อเท็จจริง แต่ยังตอบไม่ได้ว่า เหตุใดเขาถึงให้ข่าวเช่นนั้นแต่ผมก็ต้องติดตามข่าวก่อน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตรวจสอบที่เกิดขึ้นในวันนี้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ที่ระบุมาตลอดว่าอยากให้ไปตรวจสอบวัดที่จ.ระยอง เพราะอาจจะมีการฝังศพกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ทราบจริงๆ ว่า ทำไมเขาถึงพูดคล้องจองกันอย่างนั้น เพราะตนเพิ่งทราบจากข่าวสื่อมวลชนเมื่อเช้านี้เอง ดังนั้นคงต้องติดตามต่อไป คงยังไม่มีความเห็นว่าเหตุใด นายจตุพร หรือ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม พูดอย่างนั้น
ส่วนจะผิดสังเกตหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นคำสั่งของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้สั่งการเอง นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ขอพูดอะไรที่ไม่ชัดเจน แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของตน ไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องของการนำศพไปฝังไว้ที่ไหนแต่ประการใดทั้งสิ้น ตลอดช่วงระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองตั้งแต่ปี 52-53
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นความยุ่งยากให้กับนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ค่อยกังวลใจ เพราะเชื่อในความบริสุทธิ์ของเจ้าหน้าที่ และตัวเอง รวมถึงนายอภิสิทธิ์ด้วย
“เราไม่มีเจตนาร้ายต่อใครทั้งสิ้น เราทำหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยให้แก่บ้านเมือง และทำหน้าที่รักษากฎหมาย ก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ผมทำได้แต่ทบทวนให้ประชาชนได้เข้าใจ ทุกคนยังจำภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏในโทรทัศน์ในกรณีที่มีการบาดเจ็บเสียชีวิต ซึ่งเกิดจากการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายคนที่ถืออาวุธแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมได้ดี จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่เคยเข้าไปถึงศพผู้เสียชีวิต หรือแม้แต่ตัวผู้บาดเจ็บเพราะคนที่เข้าไปถึงตัวศพและผู้บาดเจ็บได้จะเป็นมูลนิธิ หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล พาไปส่งโรงพยาบาลต่างๆ เพราะว่าผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตจะปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึง ฉะนั้น ตรงนี้ผมคิดว่าไม่มีเหตุที่จะต้องชวนสงสัยได้ว่าเป็นเรื่องการกระทำของเจ้าหน้าที่”
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ไม่ดี ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เพราะมีส่วนทำให้ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น เสียชีวิตที่ประเทศไทยและรัฐบาลไทยไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ นายสุเทพกล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมพูดอะไร มันไม่มีน้ำหนักสำหรับตนอยู่แล้ว ตนไม่อยากตอแยอะไรมาก ร.ต.อ.เฉลิม พูดอะไรไม่จริงไว้มาก เพราะฉะนั้นก็อย่าไปให้น้ำหนักมาก ตอนนี้ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นรัฐบาลแล้ว ก็ลองตอบญี่ปุ่นดูแล้วกันว่าใครทำ
นายสุเทพยังกล่าวถึงการภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ต่อรัฐสภาในวันที่23-24 ส.ค.นี้ว่า ตนยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย ตนดูเพียงผ่านๆ ยังไม่ได้ดูรายละเอียด พอดีมีเรื่องอื่นที่ทำอยู่เลยไม่ได้ดูเรื่องนี้เป็นพิเศษแต่คิดว่าสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์คงใจจดใจจ่อกับเรื่องนี้อยู่แล้ว