ส.ส.ชุมพร ปชป.นำเอกสารของสมาคมพุทธประทีปหลังสวน ตบหน้า “จตุพร” ยันเคลื่อนย้าย 169 ศพไร้ญาติที่เสียชีวิตจากพายุเกย์ไปทำบุญล้างป่าช้าที่ จ.ระยอง ไม่เกี่ยวแก๊งเสื้อแดงสูญหาย ฟันธงหวังปั่นกระแสการเมืองรับเงินหัวละ 10 ล้าน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายชุมพล จุลใส ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (19 ส.ค.) นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำเอกสารของสมาคมพุทธประทีปหลังสวน ที่ทำเรื่องถึงผู้กำกับ สภ.อ.หลังสวน เพื่อขอดำเนินการเคลื่อนย้ายศพไร้ญาติ พร้อมกับหนังสือบันทึกข้อตกลงระหว่างสมาคมพุทธประทีบหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร กับสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ ที่จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.53 เรื่องการรับมอบศพไร้ญาติ มาแจกจ่ายต่อสื่อมวลชน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการพบศพ 169 ศพที่เคลื่อนย้ายจาก จ.ชุมพร ไปที่ จ.ระยอง ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการสูญหายของคนเสื้อแดง
โดยนายชุมพลกล่าวว่า ตนในฐานะ ส.ส.เจ้าของพื้นที่ ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวไปยังสมาคมพุทธประทีปหลังสวน จ.ชุมพร โดยนายสงวน นิลรัตโนทัย นายกสมาคมพุทธประทีปหลังสวน ได้ยืนยันว่า ทางสมาคมฯ มีความจำเป็นต้องใช้สถานที่สุสานที่ใช้เก็บศพไร้ญาติ จึงจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายศพไร้ญาติจำนวนหนึ่งออกจากสมาคมฯ โดยได้ประสานกับสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ อ.แกลง จ.ระยอง ที่เป็นองค์กรการกุศล และมีหน่วยกู้ภัย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเช่นเดียวกัน จึงได้ทำการขนเคลื่อนย้ายศพไร้ญาติเพื่อไปบำเพ็ญกุศล ณ.สุสานเขาดินของสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง รวมทั้งสิ้น 165 ศพ แยกเป็นเพศชาย 158 ศพ เพศหญิง 7 ศพ โดยได้เคลื่อนย้ายตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. 2553 และได้ทำบันทึกข้อตกลงระหว่าง 2 สมาคม เรืองการมอบศพไร้ญาติ โดยตัวแทน 2 สมาคมและมีพยานบุคคลรับทราบถูกต้องตามกฎระเบียบ รวมถึงได้ทำหนังสือแจ้งต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผกก.สภ.หลังสวน และทางจังหวัด
นายชุมพลกล่าวต่อว่า ศพดังกล่าวเป็นโครงกระดูก ไม่ใช่ศพที่เพิ่งเสียชีวิต ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากพายุเกย์ เมื่อปี 2532 ตนจึงไม่เข้าใจว่า การที่มีการหยิบเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเป็นข่าวเพื่อต้องการสร้างกระแสกลบข่าว พ.ต.ท.ทักษิณกรณีวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นหรือไม่อย่างไร และเชื่อด้วยว่าเป็นประเด็นทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ ได้รับรองในเอกสารการรับมอบศพไร้ญาติ ว่าจะนำศพทั้งหมดไปประกอบพิธีทางศาสนาด้วยการทำบุญตามประเพณีต่อไป จึงให้ขอให้สื่อเผยแพร่ข่างดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนว่าเป็นเรื่องปกติของการทำบุญล้างป่าช้า
