"รมช.คมนาคม" ควง "สัญฐาน" ลงพื้นที่ดูสภาพป่าสวนยางฝังศพไร้ญาติ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบการฟังศพไร้ญาติในพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง พร้อมผู้บัญชาการสำนักกฏหมาย และคดี รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง อ้างหากตายโดยไม่ผิดปกติต้องมีใบมรณะบัตร พร้อมเร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง แม้เจ้าอาวาสวัดเจ้าของพื้นที่ยืนยันเป็นศพไร้ญาติที่มาจากอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เพื่อเตรียมทำพิธีล้างป่าช้าของสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ ในปี 2555

ผู้สื่อข่าว รายงานความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบศพไร้ญาติจำนวน 169 ศพที่สมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ที่นำมาฝังไว้ที่วัดคลองตากวา วัดสมอโพรงและวัดห้วยยาง อำเภอแกลงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังมีผู้ร้องเรียนว่าอาจมีการนำศพคนเสื้อแดงที่ถูกสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 มาฝังไว้ ซึ่งในวันนี้ (19 สิงหาคม) พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และพล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการสำนักกฎหมายและคดี ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบบริเวณที่ฝังศพซึ่งเป็นป่าสวนยาง ภายวัดคลองตากวา ท่ามกลางกลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งชาวบ้านที่ทราบข่าว

โดยนางรำพึง เฉิดฉันท์ อายุ 58 ปี ชาวอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี และนางนิสารัตน์ มะลิลา อายุ 47 ซึ่งเป็นชาวอำเภอแกลง จังหวัดระยอง กลุ่มเสื้อแดงได้ยกมือไหว้หลุมฝังศพอธิษฐานว่าหากเป็นศพคนเสื้อแดงที่ถูกสลายการชุมนุม ให้แสดงอภินิหารเพื่อให้คนเสื้อแดงได้รู้ว่าเป็นศพคนเสื้อแดง

ขณะที่นาย ช.ราชสาส์น ชมรมรักประชาธิปไตยแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี กล่าวว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่ปี 2552 มีทั้งพระภิกษุและประชาชน ที่ถูกยิงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง กรุงเทพฯ และถูกทหารนำขึ้นรถก่อนใช้น้ำฉีดล้างเลือดพื้นที่สลายการชุมนุม และในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 มีคนเสื้อแดงที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกสลายการชุมนุมตั้งสวนลุมพินี ไปจนถึงสี่แยกราชประสงค์ และตนเห็นรถอาสาสมัครวิ่งรับคนเจ็บที่ถูกยิงไปส่งโรงพยาบาลตำรวจจำนวนมาก ส่วนการที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่นำผู้ถูกยิงไปจำนวนเท่าไหร่ไม่ชัดเจน

“อยากจะมาดูศพที่นำมาฝังซึ่งต้องมีที่มาที่ไป คนตายต้องมีใบมรณะบัตรออกให้หากมีหลักฐานก็ไม่ติดใจ แต่ถ้าตายโดยไม่มีหลักฐานถือว่าร่วมกันกระทำความผิดครั้งใหญ่ คนตายจำนวนมากขนาดนี้เรียกว่าตายหมู่ ถ้าไม่มีหลักฐานถือว่าเจ้าหน้าที่ร่วมกับทางวัดช่วยกันปกปิดซ่อนเร้น ต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการ เราถือว่าเป็นคนไทยจะตายอย่างไรจะเป็นลูกคนดีมีจน ต้องมีศักดิ์ศรี เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องรับรู้ ต้องมีการพิสูจน์ให้แน่ชัด”

และหลังจากที่พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมด้วย พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ และคณะได้ตรวจสภาพที่ฝังศพจำนวน 72 ศพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้เข้าพบพระอธิการวิรัตน์ อติวีโร เจ้าอาวาส เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งพระอธิการวิรัตน์ กล่าวว่าทั้งหมดเป็นศพที่สมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ อำเภอแกลง นำมาจากสมาคมพุทธประทีปหลังสวน จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นศพไร้ญาติซึ่งไม่มีสถานที่ฝังศพจึงได้ประสานทางสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์เพื่อนำมาฝังที่จังหวัดระยอง

และทางสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์จะจัดพิธีล้างป่าช้าในเดือนพฤศจิกายน 2555 ซึ่งการทำพิธีล้างป่าช้าต้องมีจำนวนศพให้พอประมาณจึงจะจัดงานได้ และการที่สมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ขอความอนุเคราะห์สถานที่ฝังศพไร้ญาติก็ได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ลงนามโดยนายวิเชียร แสงวงศ์กิจ อุปนายกสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ อำเภอแกลง จังหวัดระยองอย่างถุกต้อง

พระอธิการวิรัตน์ ยังกล่าวว่าหลักฐานการตาย และหลักฐานการเคลื่อนย้ายศพอยู่ที่สมาคมฯ ส่วนกรณีศพได้ใส่โลงใหม่มาทั้งหมด สังเกตดูจากชาวบ้านและเจ้าหน้าที่หามศพไปฝัง หามกันเพียง 2 คนหัวท้าย ซึ่งหากเป็นศพคนตายภายใน 5 - 10 ปี จะมีน้ำหนัก 2 คนหามไม่ไหวและมีกลิ่นแต่ที่พบกลับไม่มีกลิ่น ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการขุดศพเพื่อตรวจพิสูจน์เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการไป ทางวัดไม่มีปัญหาเพียงแต่เป็นผู้ให้สถานที่

พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า การตรวจพิสูจน์ศพที่นำมาฝังจะให้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยมีตำรวจท้องที่ร่วมตรวจสอบ ส่วนการสืบสวนสอบสวนจะให้สถาบันนิติเวชเข้าร่วม เนื่องจากจำนวนศพมีมากและเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความน่าเชื่อถือ และจาการสอบถามเจ้าอาวาส ซึ่งได้รับคำตอบว่าโลงที่ใส่ศพ เบาแต่ที่ชาวบ้านแจ้งมาว่าต้องใช้คนถึง 4 คนหามศพ ซึ่งในเรื่องนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีศพที่ตายผิดธรรมชาติหรือไม่ แต่จำนวนศพที่นำมาฝัง กี่รายต้องตรงตามจำนวนที่ส่งมา ซึ่งเท่าที่ทราบจำนวนศพไม่ตรงกัน

“เท่าที่ทราบว่าขณะนี้มีผู้แจ้งเบาะแสว่ามีการนำศพไปฝังที่วัดห้วงหิน ตำบลบ้านนา อำเภอแกลง อีกกว่า 30 ศพ เพิ่มเข้ามาอีก 1 วัด ทำให้จำนวนศพที่นำมาฝังไว้ขณะนี้มีจำนวน 200กว่าศพ การจะตรวจละเอียดต้องใช้เวลา ต้องตรวจสอบอีกว่าศพที่เพิ่มเข้ามาอีกเป็นศพที่น่าสงสัยการตายที่อาจเกิดจากคดีอาชญากรรมหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ จะเป็นผู้ควบคุมการตรวจสอบศพ และหลังจากนี้ก็จะเดินทางไปดูศพที่วัดสมอโพรงและวัดห้วยยางต่อไป”

ทั้งนี้ ผุ้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายสมเดช เซียวสกุล กรรมการสมาคมพุทธศาตร์สงเคราะห์ เผยว่า ที่ผ่านมาศพทั้งหมดไม่ใช่ศพที่เกิดจากเหตุการณ์สึนามิแต่อย่างใด เป็นศพไร้ญาติเนื่องจากสภาพพื้นที่สุสานฝังศพไร้ญาติของสมาคมพุทธประทีป อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพรซึ่งมีพื้นที่น้อย และเห็นว่าสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์มีความพร้อมจึงขอความอนุเคราะห์ให้นำรถตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้ พร้อมโลงศพ 165 โลง เดินทางไปรับศพตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2553 และสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ได้ทำพิธีทางศาสนาที่สมาคมฯก่อนนำไปฝังที่วัดคลองตากวาในวันที่ 17 สิงหาคม2553 จำนวน 72 ศพ วัดสมอโพรงจำนวน 32 ศพ

และที่วัดห้วยยางจำนวน 61 ศพรวมทั้งสิ้น 165 ศพ เป็นชาย 158 ศพ หญิง 7 ศพ ซึ่งการเคลื่อนย้ายศพจากอำเภอหลังสวน ได้ทำหนังสือและใบอนุญาตเคลื่อนย้ายศพจาก พ.ต.อ.สุพจน์ บุญชูดวง ผกก.สภ.หลังสวนอย่างถูกต้อง