“ส.ว.สมชาย” จี้นายกฯ คุยเขมรปล่อย “วีระ-ราตรี” ก่อนช่วย “นช.แม้ว” - ส.ว.เพชรบุรี ถามนโยบายรัฐจะช่วยยังไง แนะ “สุรพงษ์” เร่งคืนอิสรภาพ ด้าน “ส.ว.คำนูณ” จี้แจงกรอบเจรจาพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมพื้นที่ทับซ้อนอ่าวไทย - ส.ว.ปราจีนฯ หวั่นงดเก็บกองทุนน้ำมันเดือนหน้าทำรัฐสูญรายได้ 3 พันล้านต่อเดือน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายคำนูณ สิทธิสมาน
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา มีพล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. ได้หารือว่าภารกิจแรกที่รัฐบาลใหม่ต้องทำ คือ กรณีนายวีระ สมความคิด กับ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ สองคนไทยที่ถูกจับในกัมพูชา ล่าสุดมีคำยืนยันจากนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยตัวจนกว่าจะได้รับโทษ 2 ใน 3 หรือถูกจำคุก 5 ปีก่อน ซึ่งขัดต่อหลักการให้ความยุติธรรม ข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือเข้าไปจารกรรมข้อมูลความมั่นคง อาจเป็นความเข้าใจผิดเพราะความแค้นเคืองของนายกฯ กัมพูชาเอง กล้องโจรกรรมที่อ้างว่าจับได้มีวางขายกันเกลื่อนตามคลองถม ตลาดโรงเกลือ และตามตลาดชายแดน ไม่ได้เป็นกล้องโจรกรรมสายลับอะไร และที่ต้องเปิดกล้องไว้คงกลัวถูกทำร้าย วันนี้ทั้งคู่ถูกจำคุกพอสมควรแล้ว นายกฯ จึงควรมอบหมายให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศทำภารกิจนี้เป็นอันดับแรก หรือจะแลกกับ 3 สายลับของเขมรที่ถูกจับตอนเข้ามาหาความลับในไทยก็น่าจะได้ นายกฯ ควรสั่งให้ รมว.ต่างประเทศโชว์เป็นผลงานชิ้นแรก ไม่ใช่ไปมัวเจรจากับทูตญี่ปุ่นตามคำสั่งนายที่อยู่ต่างประเทศ หรืออนุมัติพาสปอร์ตเล่มแดงอีก เป็นข้อสงสัยว่า รมว.ต่างประเทศจะทำหน้าที่ได้หรือไม่
ขณะที่ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า ได้รับคำร้องเรียนจากคนเมืองเพชรบุรี ในนามกลุ่มเพื่อนวีระ ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงตนผ่านไปยังรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าขณะนี้ 7 เดือนกว่าแล้วที่สองคนไทยต้องติดคุกอยู่ต่างแดน ทั้งที่ทำคุณประโยชน์คอยดูแลผลประโยชน์ให้ประเทศ จากวันนั้นถึงวันนี้ 7 เดือนกว่าแล้วอยากทราบว่ารัฐบาลมีนโยบายอย่างไรกับสองคนไทยนี้ รมว.ต่างประเทศก็เป็นคนไทยด้วยกัน น่าจะเร่งดำเนินการคืนอิสรภาพเพื่อแสดงความจริงใจในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่เลือกปฏิบัติ ขอให้เห็นแก่ประโยชน์ชาติ
ด้าน นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตามที่ รมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ว่าจะเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์กับกัมพูชา เพื่อพัฒนาการค้าและการลงทุน ให้มีการเจรจาบริหารจัดการเรื่องแหล่งพลังงานที่อยู่ในเขตพื้นที่ทับซ้อนกลางอ่าวไทย ซึ่งอยากตั้งข้อสังเกตถึงนโยบายที่จะต้องแถลงต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า ที่จะเจรจาพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม ซึ่งตนเห็นด้วยที่จะเจรจาในรูปแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งบริเวณตรงนั้นมีก๊าซธรรมชาติคุณภาพดีที่จะใช้ได้ถึง 30-40 ปี จึงอยากให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจนจะใช้หลักเกณฑ์หรือกรอบอะไรในการเจรจา โดยรัฐบาลชุดที่แล้วมีมติ ครม.เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2552 ให้ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ข้อ 2 (B) เกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกลางอ่าวไทย แม้จะยังไม่ยกเลิกโดยกระบวนการรัฐสภา ก็ต้องมีหลักการชัดเจนว่ารัฐบาลนี้จะเอาอย่างไร จะทำในลักษณะเดียวกับข้อตกลงเจดีเอที่ทำกับมาเลเซีย ที่กำหนดว่าการแบ่งประโยชน์ในลักษณะที่มิอาจแบ่งแยกได้ มีความแตกต่างกับของกัมพูชาอย่างไร
เช่นเดียวกับ นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา กล่าวว่า การประกาศงดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเป็นการชั่วคราว ภายในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ทำให้ประเทศสูญเงินรายได้กว่าเดือนละ 3,000 ล้านบาท ทั้งที่ขณะนี้ได้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ต่ำกว่าลิตรละ 30 บาทอยู่แล้ว ต่ำกว่าราคาจริง ทำให้ประชาชนไม่รู้จักประหยัด ทำให้มีการลักลอบขายน้ำมันออกต่างประเทศ การลดราคาน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 ส่วนใหญ่คนรวยใช้ ไม่ใช่การลดปัจจัยการผลิตจริง การลดราคาลงมาใกล้เคียงกับน้ำมันที่ผสมพลังงานทดแทน จะทำให้ผู้บริโภคหันกลับไปใช้เบนซิน 95-91 ขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้รอบคอบด้วย