“ศรีสุวรรณ” เชื่อนโยบายถมทะเล “เพื่อไทย” แค่หาเสียงไม่มีทางทำได้ ประชาชนไม่ยอมแน่ ชี้หากทำจริงภาคกลางจะกลายเป็นทะเลทั้งหมด เพราะแม่น้ำสายต่างๆ ที่ไหลลงมาถูกปิดกั้น เมื่อน้ำระบายออกไม่ทันก็จะเกิดน้ำท่วม ด้าน “ประสาร” ย้ำทำลายระบบนิเวศพินาศบรรลัย เป็นนโยบายวิปริต สะท้อนความอับปัญญาของผู้คิด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนเคาะข่าว”
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 2 ส.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และนายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว.สรรหา และอนุ กมธ.ธรรมาภิบาลด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ
นายเติมศักดิ์กล่าวเปิดประเด็นว่า โครงการถมทะเ แม้เป็นเพียงนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย แต่บุคลากรในพรรคก็บอกทำแน่ โดยนโยบายนี้จะถมทะเล 2-3 แสนไร่ ต้นทุนต่ำตารางวาละ 12,500 บาท โดย 2 แสนไร่ ใช้เป็นพื้นที่สาธารณะ และอีก 1 แสนไร่ประกาศขาย จะได้กำไรไร่ละ 20 ล้านบาท รวมเป็นกำไร 2 ล้านล้านบาท และจะให้ทำคันเขื่อนลึกลงไปในทะเล 10 กิโลเมตร ยาว 30 กิโลเมตร ในแนวตั้งแต่จังหวัดสมุทรสาคร ถึงจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อทำเขื่อนแล้วให้ใช้ทรายถมทะเล จะทำได้ให้พื้นที่ใหม่ประมาณ 1.8 แสนไร่ สร้างเมืองใหม่ได้อีกเมืองที่ทันสมัย
นายประสารกล่าวว่า ประเทศที่ถมทะเลมีที่ดูไบ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น โดยประเทศเหล่านี้เป็นทะเลลึกไม่มีอ่าวมาล้อมรอบ คือเป็นเกาะแล้วก็ถมออกไป มันไม่มีระบบของนิเวศที่จะเชื่อมโยงให้เป็นห่วงโซ่อาหาร อย่างดูไบเขาทำเป็นหมู่เกาะรูปต้นปาล์ม และสร้างเป็นเกาะอีก 300 เกาะ ซึ่งตอนนี้กำลังเลหลังขาย เพราะมันกำลังจะจม นายเกรแฮม โลเว็ตต์ ทนายความของโครงการดูไบเวิลด์ บอกว่าโครงการนี้เข้าขั้นโคม่าแล้ว บริษัท เพนกวิน มารีน ก็ยุติการเดินเรือข้ามเกาะ เพราะมันไปไม่รอดแล้วเกาะกำลังจะจมทะเลเพราะชายฝั่งถูกกัดเซาะ ช่องเดินเรือก็มีทรายอุดตัน อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวิกฤติปรากฎว่าทำให้ที่นั่นมีปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก ราคาที่ดินตกไป 50 เปอร์เซ็นต์
ตนมาวิเคราะห์ตัวเลขในการสร้างเกาะของดูไบใช้ 2.1 ล้านล้านบาท เกาะปาล์มอีก 9 แสนล้าน ที่ทำดูไบเวิลดิ์รวมแล้ว 3 ล้านล้านบาท ถ้าไทยจะถมทะเล 3 แสนไร่ บวกกับการสร้างเมืองใหม่ ต้องใช้เงินประมาณ 60 ล้านล้านบาท ไม่ทราบว่าเอาเงินจากไหนมาทำ และเป็นไปไม่ได้ที่จะขายได้กำไรไร่ละ 20 ล้านบาท เมืองไทยมี 321 ล้านไร่ มีพื้นที่ว่างเปล่าอีกมากมายมหาศาล
เรื่องระบบนิเวศ ได้ถามคุณสุรจิต ชิรเวช ซึ่งเก่งมากเรื่องระบบนิเวศทางน้ำ ท่านบอกว่าอ่าวกอไก่เป็นที่รวมของแหล่งอาหารทะเล เพราะมีแม่น้ำท่าจีน บางปะกง แม่น้ำเจ้าพระยา ไหลลงมา และได้พาตะกอนดิน สารอาหาร และแร่ธาตุมาด้วย ตรงนี้เลยเป็นแหล่งอาหาร อาหารทะเลที่ส่งออกนอกก็มาจากที่นี่มหาศาล แล้วอยู่ๆจะมาสร้างเขื่อน สร้างเกาะ ตนคิดว่าพินาศบรรลัย เพราะเขื่อน เกาะ จะมาขวางทางน้ำ กลายเป็นปัญหาว่าปลาจะอยู่อย่างไร ว่ายอย่างไรหลงทิศผิดทางหมด นี่คือปัญหาระบบนิเวศที่พังทลายทั้งหมด ตนจึงบอกว่านี่เป็นอภิมหาวินาศกรรมต่อสัตว์น้ำ ต่อทรัพยากรธรรมชาติ วิบัติน้ำ บรรลัยดิน
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ตนแถลงการณ์ตั้งแต่วันที่เพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ว่านโยบายนี้เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง แต่ถ้าดื้อดึงตนจะเป็นคนแรกที่ไปฟ้องศาลปกครองแผนกคดีสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นตัวอย่าง อย่าลืมว่าปลาทูอร่อยที่สุดคือปลาทูจากสมุทรสาคร ปลาต้องวางไข่ที่ประจวบ ว่ายมาโตที่เพชรบุรี และถูกจับที่สมุทรสาคร ตรงนี้เป็นแหล่งอาหารของคนไทย อยู่ๆจะเอาดินจากภูเขา ซึ่งอาจต้องใช้เขาหลายลูกไปถม
โดยเฉพาะปัจจุบันรัฐธรรมนูญปี 50 ค่อนข้างให้การคุ้มครองสิทธิชุมชน และสิ่งแวดล้อม อย่างมาตรา 66 - 67 ถ้าคิดจะทำอย่างน้อยต้องผ่าน 4-5 ด่าน ต้องทำรายงานกระทบสิ่งแวดล้อม ทำรายงานกระทบสุขภาพ ฟังความคิดเห็นประชาชน และให้องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมให้ความเห็น เอาแค่ขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นประชาชน ประชาชนก็ไม่ยอมแล้ว แค่เอาเงินไปศึกษา 200-300 ล้าน ตนก็จะไม่ยอม เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน
เมื่อมีกฎหมายรองรับชัดเจนตนไม่ปล่อยให้นักการเมืองหน้าไหนบังอาจมาใช้เงิน ประชาชนและทำลายทรัพยากรของชาติ อย่างน้อยเพื่อนพ้องที่เป็นแกนนำชาวบ้านที่อยู่ตรงนั้นปลุกนิดเดียวก็อาจมา ร่วมฟ้องกันเป็นหมื่นเป็นแสนคน
นายประสารกล่าวว่า เชื่อว่า แม้ทำแบบตรงไปตรงมาก็ไม่มีทางผ่าน EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม : Environmental Impact Assessment) เพราะตั้งแต่ฟังมาไม่มีใครเห็นด้วยเลย นอกจาก นายปลอดประสพ และคนที่สั่งนโยบายมาจากดูไบ และดร.อีกคนที่เป็นผู้บริหารพรรคเพื่อไทย
อีกอย่างทะเลที่จะถมเป็นทะเลตม ทรายถมไปก็จะหาย อย่างหนองงูเห่าถม 3 รอบ 3 รัฐบาล ที่บอกว่าใช้เงินตารางวาละ 12,500 บาท ไม่มีทางมากกว่านี้อีก 10 เท่า ก็ไม่มีทาง เพราะไม่ใช่ทะเลทรายแบบดูไบ ตรงนี้มีพื้นที่ชุ่มน้ำ มีป่าชายเลน บริเวณแบบนี้คือนิเวศที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับญี่ปุ่น สิงคโปร์ ดูไบ ไม่มีทางเทียบกันได้เลย ต่อให้ร้อยทักษิณ ร้อยปลอดประสพ ก็ทำไม่ได้
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ที่สำคัญภาคกลางจะกลายเป็นทะเลทั้งหมด เพราะสายน้ำบางปะกง เจ้าพระยา นครชัยศรี ป่าสัก ท่าจีน เวลาน้ำหลากมันก็จะไหลลงมา ถ้ามีใครบ้าไปถมทะเลมันก็เหมือนมีเขื่อนไปกั้น น้ำไหลออกไม่ทัน มันก็ท่วมในภาคกลางทั้งหมด มันก็จะกลายเป็นทะเล ผลกระทบเชิงนโยบายก็สำคัญ ว่าอย่าไปเชื่อนักการเมืองมากนัก เขานำเสนออะไรแล้วทำไม่ได้ กระทบการใช้ชีวิตประจำวันเราได้
นายประสารกล่าวเสริมว่า เขาพยายามจะอธิบายว่าจะเป็นการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ตนอ่านบทความของนายธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ และรศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ทั้ง 2 คนบอกว่าไม่เกี่ยวเลย ตรงกันข้ามน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ หนักขึ้นไปอีก สิ่งนี้ถึงบอกว่าสะท้อนความอับปัญญา
