xs
xsm
sm
md
lg

“ชัชวาลย์” ตั้งข้อสังเกตยึดโบอิ้ง 737 อาจโยงการเมือง - “ประพันธ์” จี้รัฐเผยข้อมูลให้ชัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชัชวาลย์” ตั้งข้อสังเกตศาลตัดสินให้ไทยใช้หนี้วอลเตอร์บาวมานานแล้ว แต่ทำไมเพิ่งมายึดพระราชพาหนะในช่วงนี้ ทั้งๆ ที่เครื่องบินเข้าออกเยอรมนีตลอด ชี้ไม่ไว้ใจคนที่ชอบใช้โลกล้อมประเทศ ด้าน “ประพันธ์” จี้รัฐต้องเผยข้อมูลให้เคลียร์ ทำไมไม่ใช้หนี้ และมีข้อต่อสู้อย่างไร พร้อมจี้ลากคอคนทำประเทศเป็นหนี้มารับผิดชอบ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนเคาะข่าว”  

เวลา 20.30 น. วันที่ 22 ก.ค. นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และนายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย อดีตคนเดือนตุลา ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว”

ในส่วนของกรณีที่เยอรมนี ยึดเครื่องโบอิ้ง 737 ซึ่งเป็นทรัพย์สินในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยนายประพันธ์กล่าวถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากที่บริษัทวอลเตอร์บาว สัญชาติเยอรมัน ได้รับสัมปทานเข้ามาสร้างดอนเมืองโทลล์เวย์ และต่อไปยังรังสิต โดยบริษัทเอกชนจะต้องเป็นผู้สำรวจออกแบบ และกู้เงินมาลงทุนก่อสร้างเอง ภายใต้อันนี้จึงเกิดสัญญาระหว่างบริษัทสัญชาติเยอรมันกับรัฐบาลไทย

ระหว่างที่ดำเนินโครงการมันมีเรื่องผิดสัญญาเกิดขึ้น วอลเตอร์บาวจึงอาศัยสนธิสัญญาคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศ ที่เยอรมันกับไทยได้ทำขึ้น ฉะนั้นเมื่อมีกรณีพิพาทในสัญญาคุ้มครองการลงทุนก็ดี และในสัญญาระหว่างบริษัทดอนเมืองโทลล์เวย์ บริษัทวอลเตอร์บาวกับรัฐบาลไทย ก็ดี มีข้อตกลงอันหนึ่งว่าถ้าเมื่อไหร่ทั้งสองฝ่าย มีข้อพิพาทกันว่าด้วยเรื่องสัญญานี้เกิดขึ้น ให้ไปพิจารณากันที่ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ

พอมีข้อพิพาทนี้ขึ้นมาเนื่องจากวอลเตอร์บาวเห็นว่าไทยผิดสัญญาหลายเรื่อง จึงดำเนินคดีเรียกร้องความเสียหาย รัฐบาลไทยก็ตั้งทนายความไปต่อสู้ที่ศาลอนุญาโตตุลาการที่ฮ่องกง โดยศาลได้ตัดสินให้ไทยชดใช้ 1,400 ล้าน ซึ่งคดีได้สิ้นสุดไปแล้ว แต่วันนี้ ท่านจุลสิงห์ วสันตสิงห์ (อัยการสูงสุด) แถลงว่ามันยังไม่ถึงที่สุด ซึ่งในความจริงแล้วในชั้นอนุญาโตตุลาการมันไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา แต่ถ้าจะฟ้องต้องเป็นเรื่องอื่น แต่เรื่อง 1,400 ล้านนี้ถึงที่สุดไปแล้ว ไม่เช่นนั้นเยอรมันนีไม่สามารถไปขอให้ศาลยึดโบอิ้ง 737 ได้

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า เหตุที่ยึดเครื่องบินส่วนพระองค์ เนื่องจากวอลเตอร์บาวเข้าใจว่าเครื่องบินนี้เป็นของกองทัพอากาศ ของรัฐบาลไทย ต่อมาทางสำนักงานอัยการสูงสุดจึงไปยื่นคัดค้านโดยบอกว่าเป็นพระราชพาหนะ เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ ไม่ใช่ของรัฐบาล ซึ่งศาลเยอรมนีจะเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ หรือของรัฐบาลไทยก็ยังอยู่ในขั้นของการต่อสู้กัน ยังไม่จบ ฉะนั้นจะขอให้ปล่อยทรัพย์สินนี้ต้องเอาหลักประกันมาวาง

เวลานี้ปัญหาคือรัฐบาลแพ้คดีและยังไม่จ่ายเงินตามคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโต ตุลาการระหว่างประเทศ ทีนี้การจะไม่ชำระหนี้ การบิดพลิ้ว หรือประวิงเวลาชำระหนี้หรือไม่อย่างไร ต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่ว่าฝ่ายเจ้าหนี้ที่มายึดทรัพย์สินนี้เหตุว่าเข้าใจว่าเป็นทรัพย์สินของ รัฐ หรือเข้าใจว่าเป็นพระราชพาหนะแต่จงใจยึด ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดู แต่ถ้าฟังจากอัยการสูงสุด ก็ชัดเจนคือ ยึดเพื่อบีบให้ไทยยอมไปชำระหนี้

นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ในมุมมองของตนจึงมีคำถามคือ รัฐบาลมีข้อต่อสู้อะไรที่จะไม่ชำระหนี้นี้หรือไม่ แล้วทำไมไม่ชำระหนี้ และคดีที่เขาฟ้องนั้นสิ้นสุดแล้วหรือยัง ตรงนี้รัฐบาลยังไม่พูดความจริงให้สังคมทราบ พูดแต่ประเด็นของเครื่องบิน แต่เรื่องหนี้ 1,400 ล้าน เป็นความผิดใคร ใครทำรัฐเสียหาย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใครต้องรับผิดชอบ เหมือนค่าโง่ทางด่วน คนที่ทำหน้าที่ควรต้องรับผิดชอบ ตรงนี้รัฐบาลพยายามกลบเกลื่อนไม่พูดถึง

ต้องดูความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่ทำเรื่องเสื่อมเสียมาถึงพระเกียรติยศ และราชวงศ์ มันเป็นความผิดของรัฐบาลที่ปล่อยปละละเลย

นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า ในเมื่อคดีจบไป 2 ปีแล้ว คำถามคือเครื่องบินของพระองค์ท่าน เสด็จไปมาเยอรมนีตลอด ทำไมเพิ่งมายึดตอนนี้ ตนมองว่าการเมืองโลกมันมีอะไรซ่อนเร้นมากกว่าปกติ อย่างกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้เป็นนายกฯเลย แต่ทูตในยุโรป-อเมริกาเข้าพบหมด แล้วเป็นครั้งแรกที่ยังไม่ได้เป็นนายกฯ แล้วเชิญทูตมา จากนั้นทูตออกจากที่ประชุมไปแล้วให้สัมภาษณ์วิจารณ์ไทยอย่างเสียหาย อย่างทูตอินเดีย

จึงตั้งคำถามในว่า เมื่อคดีจบไปนานแล้วทำไมเพิ่งมาอายัด แล้วทำไมต้องยึดพระราชพาหนะ ในเมื่อเครื่องของการบินไทยบินเข้าออกตลอดทำไมไม่ยึด ในเมื่อก็เป็นของรัฐ ตนไม่วางใจใครบางคนที่ชอบใช้โลกล้อมประเทศ สังเกตทูตอเมริกกาเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 2-3 ครั้ง ซึ่งถือว่าผิดปกติ

นายประพันธ์กล่าวว่า ตนพยายามถามคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ มีมุมมองออกมาทำนองว่าคนที่ทำให้บริษัทดอนเมืองโทลล์เวย์ได้รับความเสียหาย ขาดทุน ช่วงหนึ่งก็คือรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ให้คนขึ้นฟรี ลดราคา เพื่อหาเสียงเลือกตั้งตอนปี 48 อันนั้นก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้บริษัทแทบล้มละลาย เขามองกันอย่างนั้น การยึดครั้งนี้ก็เพื่อจะตบหน้ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ ก็เป็นข้อสังเกต

แต่ทั้งหมดทั้งปวงคือ เรื่องที่มากระทบถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งต้องดูว่ารัฐบาลที่ควรจัดการเรื่องนี้ทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อย และถ้าเป็นหนี้เรื่องมันถึงที่สุดแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของรัฐ ทำไมปล่อยปละละเลยมาตั้ง 2 ปีกว่า




กำลังโหลดความคิดเห็น