กกต.แจงเหตุยกคำร้องพันธมิตรฯ ยื่นยุบพรรคการเมือง อ้างง่ายมติเสียงข้างมากเห็นชอบไม่รับเรื่อง ระบุคดี “พิชิต” แค่ละเมิดอำนาจศาลไม่ใช่ความผิดทางอาญา จึงไม่ขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส่วน “สุรทิน” เป็นความผิดเฉพาะตัวไม่เกี่ยวกับพรรค จึงไม่สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 21 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงภายหลังการประชุม กกต.ว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเอกฉันท์เห็นชอบไม่รับเรื่องร้องคัดค้านกรณีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ว่า กกต.ดำเนินการบริหารจัดการเลือกตั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญจนเป็นเหตุให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้จำนวนมาก และจำนวนบัตรเลือกตั้ง แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อมีจำนวนไม่เท่ากันหลายจังหวัด โดยที่ประชุม กกต.เสียงข้างมากเห็นชอบไม่รับเรื่องกรณีที่ พล.ต.จำลอง ร้องว่าพรรคเพื่อไทย พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรครักประเทศไทย พรรคพลังชล พรรคดำรงไทย พรรคพลังมวลชน พรรคไทยพอเพียง พรรคไทยเป็นสุข พรรคกิจสังคม พรรคไทยเป็นไท พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา กระทำการโฆษณาหาเสียงซึ่งมีลักษณะสัญญาว่าจะให้ และกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายบรรหาร ศิลปอาชา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพรรคการเมือง
นายสุทธิพลกล่าวต่อว่า ที่ประชุม กกต.เสียงข้างมากมีมติไม่รับเรื่องกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นนักโทษการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหารพรรคเพื่อไทย ในเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง สำหรับกรณีที่ของนายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่เครือข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันของชาติร้องคัดค้านว่าขาดคุณสมบัติ เนื่องจากถูกศาลสั่งให้จำคุกในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ที่ประชุมกกต.มีมติเอกฉันท์ให้ยกคำร้องตามความเห็นของคณะกรรมการไต่สวนเพราะเห็นว่าการต้องโทษในข้อหาละเมิดอำนาจศาลไม่ใช่ความผิดทางอาญา นั้นจึงไม่ถือว่านายพิชิตขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง
นายสุทธิพลกล่าวอีกว่า ในส่วนของกรณีการพิจารณาว่านายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ และเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคประชาธิปไตยใหม่ มีการการะทำการฝ่าฝืนกฎหมายในการขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองหรือไม่นั้น คณะกรรมการไต่สวน 2 ชุดมีความเห็นขัดแย้งกัน ที่ประชุม กกต.จึงมีมติเสียงข้างมากให้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ นายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาเสนอความเห็นว่าเป็นความผิดเฉพาะตัวของนายสุรทิน ไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปไตยใหม่ หรือให้พรรคประชาธิปไตยใหม่ต้องสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง เนื่องจากหัวหน้าพรรคกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา