กกต.ด้านสืบสวนฯ ระบุควรประกาศรับรอง ส.ส.ไปก่อน แต่หากพบปัญหาภายหลังให้สภา-ศาลรธน.เป็นผู้ดำเนินการ ชี้ นปช.จะกดดันทำได้ แต่ต้องอยู่ในขอบ กม. ซัดวันนี้คนในประเทศไม่เคารพ กม. ตามใจตัวเองเป็นหลัก กลายเป็นอนาธิปไตย ยอมรับรู้สึกหวั่นไหวหลายฝ่ายกดดัน ด้าน “เลขาฯ กกต.” เผยวันนี้อาจรับรอง ส.ส.อีก 20 คน
วันนี้ (
21 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม กกต.เพื่อรับรอง ส.ส.รอบที่ 3 ว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าในเรื่องของคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเรื่องของคุณสมบัติของผู้สมัครแล้ว หากเห็นว่าคุณสมบัติไม่ถูกต้องก็ร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง แต่ขณะนี้ระยะเวลาดังกล่าวได้ล่วงเลยไปจนถึงวันเลือกตั้งและได้ ส.ส.แล้ว ตนจึงมีความเห็นว่าอยากให้ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ไปก่อนเนื่องจาก พ.ร.บประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 8 ระบุว่า หากการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม กกต.ก็สืบสวนสอบสวนได้ เพราะกกต.ยังมีเวลาประกาศรับรอง ส.ส.ได้อีก 30 วัน ทั้งนี้ กกต.ทำงานเป็นองค์คณะ ซึ่งเสียงข้างน้อยจะต้องเคารพเสียงข้างมาก แต่ในความคิดเห็นของตนนั้นก็ไม่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นจะประกาศรับรอง ส.ส.ได้เท่าไรก็ต้องแล้วแต่ที่ประชุม
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ทั้งเรื่องแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเรื่องการขาดคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคการเมืองในการส่งผู้สมัครนั้น เมื่อหัวหน้าพรรคเป็นผู้มายื่นสมัครและรับรองว่าคุณสมบัติครบถ้วน กกต.ได้ตรวจสอบในเบื้องต้น เมื่อไม่มีผู้ใดร้องคัดค้าน กกต.ก็ได้ประกาศรับรองการเป็นผู้สมัคร ส.ส. จนกระทั่งมีการเลือกตั้ง และบุคคลนั้นได้รับการเลือกตั้ง ดังนั้นจะให้ กกต.ไปตรวจสอบคุณสมบัติได้อีกอย่างไร ทำให้ตนมีความเห็นที่แตกต่างจากคนอื่น แต่ก็เคารพความคิดเห็นของคนอื่น
“ผมอยากบอกว่าการที่คนสับสน เพราะกฎหมายเลือกตั้งของประเทศไทยมีความเข้าใจยาก แม้แต่อาจารย์ในมหาวิทยาลัยก็ต่างคนต่างพูด นักการเมืองก็ต่างคนต่างพูด เอาแต่ประโยชน์ใส่ตนเอง พูดจนกระทั่งสับสนไปหมด อย่างไรก็ตามก็ขอบคุณทุกคนที่ไม่ด่าคนอื่น แต่ด่า กกต. ซึ่งผมก็พอรับได้” นายสมชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่าหาก กกต.ไม่ประกาศรับรองความเป็น ส.ส.ให้กับ 12 แกนนำ นปช.นั้น กลุ่มคนเสื้อแดงจะออกมากดดัน นายสมชัยกล่าวว่า ตนไม่สนใจ จะกดหรือดันก็ขอให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งสามารถทำได้ สังคมวันนี้ไม่มีระเบียบเรียบร้อย เดี๋ยวนี้คนในประเทศไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ไม่เคารพสิทธิคนอื่น ไม่มีระเบียบวินัย อยากจะทำอะไรตามใจก็ชอบก็ทำก็ไม่ว่ากัน
เมื่อถามต่อว่า กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ให้กับ 12 แกนนำนปช.และ น.ส.พัชรินทร์ มั่นปาน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 2 พรรคประชาธิปไตยใหม่หรือไม่นั้น นายสมชัยกล่าวว่า เมื่อการสมัครชอบด้วยกฎหมาย กกต.ก็ต้องประกาศรับรอง แต่เมื่อความปรากฏภายหลังว่า ขาดคุณสมบัติก็ต้องมีการตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งกฎหมายให้ขั้นตอนของ กกต.ตรวจสอบแค่ไหนก็ทำแค่นั้น เมื่อพบความไม่ชอบ ขั้นตอนต่อไปก็เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฏรและศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบต่อไปว่าจะถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่ ทั้งนี้ตนยืนยันว่า กกต.ทำงานตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนคนที่มองว่ กกต.พยายามดึงเรื่องดังกล่าวนั้น ตนคิดว่าคนอื่นจะมองอย่างไรก็มองได้ กกต.มีอิสระ แต่การมองนั้นอย่ามองเพียงแค่สายตาต้องมองด้วยสติปัญญา และต้องเคารพว่าคนอื่นก็มีสติปัญญาคิดเป็นเหมือนกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ โดยเฉพาะกฎหมาย กกต.ก็คุ้มครองอยู่ว่า กกต.กระทำโดยสุจริต คนต่างทำหน้าที่ ไม่ลำเอียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คนเราไม่ได้เก่งสุดยอดของกฎหมายทั้งหมด
เมื่อถามถึงเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งในขณะนี้ว่ามีจำนวนมากน้อยเท่าไร นายสมชัยกล่าวว่า หาก กกต.ยอมที่จะตัดยอดเรื่องคัดค้านก่อนวันเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้งก็จะมีเรื่องประมาณ 100 กว่าเรื่อง และปัญหาการสอบสวนต่างๆก็จะน้อยลง แต่เมื่อไม่ตัดยอดและมีการร้องเรียนเข้ามาเป็นระยะ คนแพ้การเลือกตั้งก็ต้องร้องเรียนตามมา ทำให้หลังวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนกว่า 400-500 เรื่อง หาก กกต.ไม่รับเรื่องก็จะกลายเป็นว่า กกต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่จะทำให้เสร็จทั้งหมดก็เป็นไปไม่ได้ ยืนยันว่า กกต.ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง ไม่เข้าข้างฝ่ายใด หากจะกดดันก็ไม่ว่ากัน
“มีมนุษย์ที่ไหนโดนแบบนี้ไม่หวั่นไหว แม้แต่พระที่จะสำเร็จอรหันต์ก็ต้องรู้สึก แต่ กกต.มีสติปัญญาคิดได้ว่ามีภาระหน้าที่ต้องเดินไปข้างหน้าทำให้สำเร็จ ถ้าหวั่นไหว เราจะทำงานที่ยิ่งใหญ่นั้นได้อย่างไร การร้องเรียนต่างๆ เราก็ต้องให้โอกาสคนที่ถูกร้องเรียน ได้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหา บางคนใจร้อน ไม่เข้าใจ น่าตำหนิ พวกนักการเมือง พวกนักวิชาการ คนที่มีประสบการณ์ คนเหล่านี้สังคมให้ความเชื่อถือ แต่กลับทำให้เกิดความสับสน บ้านเมืองนี้ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ไม่เคารพอำนาจหน้าที่คนอื่น กลายเป็นอนาธิปไตย เราควรจะเริ่มกันใหม่ตั้งแต่ตอนนี้ได้แล้ว" นายสมชัยกล่าว
ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ ทาง กกต.จะมีการพิจารณาร้องเรียนเรื่องคัดค้านประมาณ 7-8 เรื่อง และกรณียกคำร้อง 10 กว่าเรื่อง หากไม่มีปัญหาติดขัด ก็จะสามารถประกาศรับรองเพิ่มเติมอีก 20 กว่าราย ส่วนกรณีเรื่องของแกนนำ นปช. ต้องขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการวินิจฉัยจะพิจารณารับรองได้หรือไม่
“ผมยอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจที่มีบางหน่วยงานกดดัน กกต. ซึ่งขั้นตอนการรับรองนั้น กกต.ยึดหลักตามขั้นตอนของกฎหมาย ยืนยันไม่มีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนที่มีการรับรองล่าช้า เห็นว่ายังมีเวลาที่จะพิจารณาอีกตามกรอบของหลักกฎหมาย” นายสุทธิพลกล่าว
