อดีตหัวหน้าประชาธิปไตยใหม่ ร้องสื่อสภา โอดโดนตัดสิทธิแล้ว จี้อย่าเอาไปรวมยุบพรรค ด้านเลขาฯ โบ้ย กกต.ผิดพลาดไม่เช็กคุณสมบัติก่อนเลือกตั้งเอง ขณะที่โฆษกแนะคำนึง 1.2 แสนเสียง จี้พวกหวังเสียบร่วมรัฐเลิกวิ่ง
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายสุรทิน พิจารณ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ พร้อมทีมกฎหมายของพรรค เดินทางมาขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณายุบพรรคประชาธิปไตยใหม่ เนื่องจากนายสุรทินถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายจึงห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นผู้ล้มละลายจึงลงสมัคร แต่พอทราบก็ได้ลาออกจากพรรคตั้งแต่ 16 มิถุนายน 54 และกกต.ก็ตัดสิทธิตนแล้ว และเลื่อนผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 2 ของพรรคขึ้นมาแทน นอกจากนี้ พรรคยังเป็นนิติบุคคล จึงขอความเป็นธรรม และทวงถามคุณธรรมจริยธรรมของ กกต.ด้วยว่าไม่ควรเอาเรื่องตนมาเกี่ยวกับพรรคที่เป็นนิติบุคคล
ด้าน นายวิมล สารมะโน รักษาการเลขาธิการพรรคและฝ่ายกฎหมายของพรรค กล่าวว่า พรรคเป็นนิติบุคคล จดทะเบียนตั้งพรรคด้วยสมาชิก 19 คน เป็นกรรมการบริหารพรรค 9 คน และที่ประชุมกรรมการบริหารมีมติให้นายสุรทินเป็นหัวหน้าพรรค และโดยกฎหมายการยื่นสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องได้รับการรับรองจากที่ประชุมพรรคและหัวหน้าพรรคเซ็นรับรอง ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องมติพรรค ไม่ใช่แค่เรื่องบุคคลคนเดียวมีมติ จึงขอให้ กกต.พิจารณารับรองผลการเลือกตั้งของนางพัชรี มั่นปาน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 2 ของพรรคที่เลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทน ทั้งนี้ หากจะตัดสิทธิ์ให้คะแนนของพรรคทั้งหมดเป็นโมฆะ เรื่องนี้น่าจะเป็นความผิดพลาดของ กกต. ที่มีเวลาตรวจคุณสมบัติถึง 30 วัน แต่ก็ปล่อยให้ล่วงเลยจนมาถึงการลงคะแนน ดังนั้นพวกตนจะไปขอความเป็นธรรมกับ กกต.ในวันนี้ด้วย
ขณะที่ นายวารินทร์ อัฐนาค โฆษกพรรค กล่าวว่า กรณีนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.เคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นกรณีใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนั้น กกต.จึงควรพิจารณาให้เป็นคุณกับผู้สมัครและคำนึงถึงเสียงของประชาชนกว่า 1.2 แสนเสียงที่มาลงคะแนนให้ หาก กกต.เพิกเฉย จะทำให้ประชาชนที่เลือกพรรคนี้ รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และจะทำให้รู้สึกว่า กกต.ตกเป็นบันไดขั้นที่ 4 ของกลุ่มอำนาจเก่าหรือไม่ นอกจากนี้ ขอให้พรรคที่จะรอเสียบเป็นรัฐบาลต่อยุติการเคลื่อนไหวด้วย