“เทพไท” จี้ “เจ๊ปู” ปราบแก๊งเสื้อแดงเลิกกดดัน กกต. อย่าปากว่าตาขยิบ แบ่งหน้าที่กันเล่นเหมือนช่วงหาเสียง ขณะเดียวกัน เรียกร้อง กกต.เล่นงานคดีอาญาฐานหมิ่นพวกกดดัน ใส่ร้าย เพื่อไม่ให้คนเหล่านี้หยามใจ
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่ากรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เพิ่มอีก 12 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย เป็นการส่งสัญญาณเพื่อลดแรงกดดันจากคนเสื้อแดงที่พยายามเคลื่อนไหวกดดันการพิจารณา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ 12 แกนนำ นปช. และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับการรับรองจาก กกต.และออกมาแสดงความเห็นว่าจากนี้ไปจะไม่กดดันการทำงานของ กกต.ในการพิจารณารับรอง ส.ส.ที่เป็นแกนนำของกลุ่มนปช.
นายเทพไทกล่าวว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกมากล่าวเช่นนั้น เป็นการสวนทางกับพฤติกรรมและความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะท่าทีของโฆษกพรรคที่ให้ความเห็นว่า การไม่ให้การรับรอง ส.ส.ที่เป็นแกนนำ นปช.เป็นเกมการเมือง ที่จะดึงให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไป รวมถึงท่าทีของนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช.ที่ กกต.ยังไม่รับรองที่ออกมาตั้งคำถามว่ารู้สึกแปลกใจว่าทำไม กกต.ไม่รับรองแกนนำกลุ่ม นปช.ในการเป็น ส.ส. ทั้งที่ กกต.ได้ชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจนว่า การรับรอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ แล้วไม่รับรองแกนนำ นปช.ด้วยเหตุผลใด
นายเทพไทกล่าวว่า ตนอยากจะเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แสดงภาวะผู้นำว่าที่นายกรัฐมนตรี ด้วยการกลับไปห้ามปรามลูกพรรคตัวเองให้ยอมรับกติกาการพิจารณาของ กกต. เหมือนกับท่าทีของตัวเองหรือจุดยืนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่อยากให้การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยเป็นแบบปากว่าตาขยิบ หรือตีสองหน้า แบ่งหน้าที่กันเล่นเหมือนช่วงหาเสียง โดยพรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวในกรอบของกฎหมาย แต่คนเสื้อแดงเคลื่อนไหวนอกกรอบของกฎหมาย ไม่แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เมื่อการเลือกตั้งเสร็จเกมการเมืองของพรรคเพื่อไทยกับกลุ่ม นปช.ต้องยุติ ถ้าไม่ยุติก็อยากจะเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลเหล่านี้ไม่ควรปล่อยปละละเลย เหมือนช่วงหาเสียงที่ทำให้พรรคการเมืองหลายพรรคเสียเปรียบทางการเมือง แม้ว่าจะหมดการเลือกตั้งไปแล้วก็ตาม ก็ควรที่จะตรวจสอบและหาหลักฐานการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ที่มาเคลื่อนไหวกดดัน กกต.ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่กล่าวว่า กกต.ควรดำเนินการตามกฎหมายนั้นแค่ไหนอย่างไร นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าไม่มีโทษที่เกี่ยวกับพรรคการเมือง ก็ใช้โทษทางคดีอาญาในการหมิ่นประมาทใส่ร้าย กกต. และไม่ควรปล่อยปละละเลยให้คนเหล่านี้หยามใจ อีกต่อไป มิฉะนั้นจะเห็นปรากฏการณ์คนเสื้อแดง ไปเคลื่อนไหวไปถือป้าย ไปกดดัน ไปโห่ฮาป่าเถื่อนที่ กกต.เป็นรายวัน และยังยอมให้คนเหล่านี้ให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย กกต.ก็ไม่ควรที่จะทำหน้าที่ต่อไป