นายกฯ เรียกฝ่ายหน่วยงานทั้งความมั่นคง-บัวแก้ว ถกรายละเอียดคำตัดสินศาลโลกมีผลกระทบเชิงกฎหมายภายในหรือไม่ ด้านรองอธิบดีกรมสารนิเทศแจงศาลสั่ง 2 ฝ่ายถอนทหาร ไม่เกี่ยวข้องชุมชน ชี้หากจะให้ชุมชนถอนออกพื้นที่ต้องมีหลักฐานชัดว่าเป็นทหารเขมรแฝงตัว เร่งเปิดโต๊ะเจรจาสองฝ่าย
วันนี้ (19 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรี จะเชิญฝ่ายความมั่นคง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนของทหาร กระทรวงการต่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณารายละเอียดคำสั่งของศาลโลกว่ามีผลกระทบเชิงกฎหมายภายในประเทศหรือไม่
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กรมแผนที่ทหาร กระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา หารือแนวทางดำเนินการหลังศาลโลกออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวให้ไทยและกัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ก่อนแถลงท่าทีของรัฐบาลไทยอีกครั้ง
ด้าน นายเจษฎา กตเวทิน รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการตัดสินข้อพิพาทของศาลโลกว่า ตามที่ศาลโลกตัดสินถ้าตีความอย่างชัดเจนก็เพียงแค่ถอนทหารเท่านั้น ซึ่งต่างจากที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่าทั้งทหารและชุมชนกัมพูชาจะต้องถอนออกจากพื้นที่ทับซ้อนด้วย
นายเจษฎาระบุว่า หากจะให้ชุมชนถอนตัวด้วยต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นการแฝงตัวของทหารกัมพูชาเข้ามาอยู่ในพื้นที่ จึงอาจจะร้องต่อศาลให้มีคำสั่งถอนชุมชนออกไปได้ในโอกาสต่อไป ซึ่งในการตัดสินของศาลโลกครั้งนี้ระบุชัดตามคำตัดสินเมื่อปี 2505 ว่า ตัวปราสาทเป็นอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาชัดเจน จึงได้สั่งให้ไทยอย่าขัดขวางในการเดินทางเข้าออกตัวปราสาท แต่นั่นจะต้องเป็นทางพื้นที่ของกัมพูชา ไม่เกี่ยวกับเขตแดนของฝ่ายไทย ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชาจะต้องมาเปิดโต๊ะเจรจากันเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมติของศาลโลก โดยอาจเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาตามกรอบของเจบีซี หรือจีบีซี ก่อนที่จะมีการนำข้อมูลไปเสนอให้กับอินโดนีเซีย เพื่อส่งเจ้าหน้าที่และผู้สังเกตการณ์ของอาเซียนเข้าตรวจสอบการถอนทหารได้ต่อไป
ขณะที่ พ.อ.ประวิตร หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา และเปิดด่านค้าขายปกติ ส่วนพื้นที่ที่ศาลโลกออกมาตรการให้เป็นเขตปลอดทหารขนาดนี้ยังไม่ชัดเจนว่ากินพื้นที่ใดบ้าง ต้องให้รัฐบาล 2 ฝ่ายหารือกันก่อนเบื้องต้นชี้แจงชาวบ้านทราบข้อมูลแล้วส่วนที่มีรายงานข่าวว่าสื่อกัมพูชารายงานว่ากินพื้นที่ประเทศไทยเยอะกว่านั้นเชื่อว่าประชาชนจะใช้วิจารณญาณได้