“สมปอง” ชี้ศาลมีมาตรการชั่วคราวถอนทหาร ยอมรับได้ ยืนยัน 4.6 ตร.กม.เป็นของไทย แนะส่งตำรวจดูแลความเรียบร้อยแทนทหารได้ เผยกระบวนการยังไม่จบหลังจากนี้กัมพูชาต้องเสนอคำฟ้องขอตีความคำพิพากษาศาลโลกปี 2505 นักวิชาการเผยในอดีตยังไม่เคยมีประเทศใดทำตามมาตรการชั่วคราวของศาลโลก
กรณีที่ศาลโลกให้ออกมาตรการชั่วคราว โดยมีมติ 11 ต่อ 5 ให้ทั้งไทยและกัมพูชาถอนทหารออกจากพิกัด จุด A, B, C, D เป็นรูปสี่เหลี่ยม (ตามภาพ) เป็นพื้นที่ประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร โดยครอบคลุมตัวปราสาทพระวิหาร ภูมะเขือ และถนนที่กัมพูชาสร้างขึ้นตัวปราสาททางด้านตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ทับกับพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรของไทย นอกจากนี้ มีมติ 15 ต่อ 1 ให้ไทยไม่ขัดขวางทางเข้าออกปราสาทพระวิหาร และศาลโลกมีมติให้ร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้น เกี่ยวกับเรื่องการส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามาในพื้นที่
ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล อดีตทนายความผู้ประสานงานคดีปราสาทพระวิหาร ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าวว่า ถือว่าเป็นผลดีที่สุดเท่าที่จะคาดหวังได้ เพราะศาลได้รับฟังทั้งสองฝ่าย ไม่ได้ฟังความข้างเดียว การทำให้เป็นเขตปลอดทหารทำให้ความตึงเครียดหย่อนลง ถ้าไม่มีทหารในพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เรายืนยันมาตลอดว่าเป็นพื้นที่ของไทย ถึงแม้ไม่มีทหารก็มีตำรวจได้ เพราะพื้นที่ 4.6 ตร.กม.เป็นพื้นที่ฝั่งไทย อย่าไปให้เขาเปล่าๆ เราคัดค้านมาตลอด เราไม่เคยยอมรับว่า 4.6 ตร.กม.เป็นพื้นที่ทับซ้อน พื้นที่ทับซ้อนมีที่เดียวคือ แค่ตัวปราสาท กัมพูชาเขาถือว่าเป็นของเขา แต่เราคัดค้านไว้ เราไม่เคยแม้จะยอมรับว่ากัมพูชามีอธิปไตยเหนือตัวปราสาทพระวิหารด้วย
ส่วนการประชุมเจบีซีที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เราต้องรู้จักโต้แย้งบ้าง เขาทำผิดตลอด แต่เราไม่ชี้แจงเลยกลายเป็นเราเป็นฝ่ายผิด ไม่มีคำแก้ตัวเลย ซึ่งไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมาเป็นการไม่เสมอภาคในการเจรจา
ศ.ดร.สมปองกล่าวว่า ศาลไม่ได้มีคำตัดสิน (judgement) ครั้งนี้เป็นเพียงการเสนอแนะมาตรการชั่วคราว (provision measures) โดยไม่ทำให้ใครเสียประโยชน์ ซึ่งไม่ได้อยู่ในเนื้อหาสาระของคดี เป็นเพียมาตรการเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนสิทธิของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งออกมาแบบนี้ก็ดีกว่าที่จะเป็นตามที่กัมพูชาร้องขอฝ่ายเดียว ไม่ใช่ให้กัมพูชาเอาทหารเข้าไปอยู่ในปราสาทได้
กระบวนการหลังจากนี้ก็จะต้องมีการตีความคำพิพากษาศาลเมื่อปี 2505 จากนี้ไปกัมพูชาก็จะต้องเสนอคำฟ้อง แล้วศาลจะกำหนดให้ไทยเสนอคำแก้ฟ้อง ซึ่งไทยก็มีสิทธิคัดค้านอำนาจศาล ซึ่งไทยต้องทำ ตอนนี้จะรอไปอีกหน่อยก็ไม่มีปัญหา เราสามารถสงวนสิทธิที่จะคัดค้านอำนาจศาล ทำให้ศาลไม่มีอำนาจบังคับคดี
นายนพนิติ สุริยะ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ผลของศาลครั้งนี้ เป็นการให้มีมาตรการชั่วคราว ไม่ได้เป็นคำตัดสิน จากข้อมูลที่มีมาในอดีตเคยมีกรณีร้องขอให้ออกมาตรการชั่วคราว 17 กรณี ศาลรับพิจารณา 10 กรณี แต่เมื่อศาลให้มีมาตรการชั่วคราวออกมาแล้ว ยังไม่เคยมีประเทศใดปฏิบัติตามเลย
“ตั้งแต่มีศาลโลกมา มีประเทศคู่พิพาทขอให้ศาลออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว 17 กรณี ศาลรับ 10 กรณี และใน 10 กรณีนี้ไม่มีใครทำตามเลยสักคน โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา เพราะไม่มีบทบัญญัติตรงไหนบอกว่าจะต้องทำอย่างไร และคำสั่งไม่มีสภาพบังคับ ไม่เหมือนกับคำพิพากษา ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้บอกให้ไทยดื้อ แต่ความจริงคือไม่มีสภาพบังคับ และเราน่าจะพิจารณาในรายละเอียดก่อนตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร”
ส่วนพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ถึงแม้ศาลสั่งไม่ให้เราขัดขวางการลำเลียงสิ่งของต่างๆ แต่ถ้าเราถือว่าเป็นพื้นที่ของเรา กัมพูชาต้องขออนุญาตเราก่อน
ทั้งนี้ พิกัดตามขอบเขตของศาลที่ให้เป็นเขตปลอดทหาร เป็นดังนี้
จุด A ละติจูด 14 องศา 23 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 104 องศา 41 ลิปดาตะวันออก
จุด B ละติจูด 14 องศา 24 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 104 องศา 38 ลิปดาตะวันออก
จุด C ละติจูด 14 องศา 25 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 104 องศา 38 ลิปดาตะวันออก
จุด D ละติจูด 14 องศา 25 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 104 องศา 42 ลิปดาตะวันออก
ดูภาพแผนที่ขนาดใหญ่ได้ที่ http://4.bp.blogspot.com/-HRQhyyjfcDc/TiP_9JkDQ2I/AAAAAAAAVUs/Bp_OX0zLVC0/s1600/ICJ+Demilitarized+zone.jpg