นายกฯ ชี้กรณีดีแทค “จ้อน” แจ้งชัดควรลงโทษ ถามล้วงลูกข้าราชการตรงไหน ยันเป็นไปตามหลักฐาน เชื่อกำลังฟันบริษัทอื่นด้วย ชี้เป็นเรื่องกฎหมาย ไม่เกี่ยวนโยบาย แต่ไม่พูด “อลงกรณ์” ทำถูก ลั่นไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์การเมือง
วันนี้ (14 ก.ค.) ที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีความคืบหน้าปัญหาสัมปทาน 3G ของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ว่าเท่าที่ตนทราบ นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เอาผลสรุปและเห็นว่าควรจะมีการกล่าวโทษ ส่วนทางอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเห็นว่าควรจะส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ทั้งนี้ ทางอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็มีอำนาจตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้ดุลพินิจ
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการออกมาระบุว่าได้มีการเข้ามาล้วงลูกข้าราชการมากจนเกินไป รวมทั้งมีการแทรกแซงนั้น ต้องดูว่าที่บอกว่าไปแทรกแซงนั้นไปทำอะไร เห็นทางรัฐมนตรีก็ได้พยายามอธิบายให้ตนเองฟังว่าเพียงแต่ให้คำปรึกษาว่าจากข้อมูลหรือจากหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ มีความเห็นอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นอำนาจตามกฎหมายว่าผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมายก็ต้องเป็นผู้วินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่การอ้างถึงผลสรุปของคณะกรรมการกิจการสื่อสารและกิจการโทรคมนาคมของสภา ไม่ได้สรุปแค่เพียงบริษัทเดียว แต่สรุปของทั้ง 2 บริษัท แล้วทำไมจึงไปดำเนินการเพียงบริษัทเดียว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อีกบริษัทคือเข้าใจว่าดำเนินคดีอยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า หมายถึงว่าถ้ามีการอ้างตรงนี้แล้ว ทำไมกระทรวงพาณิชย์ถึงเลือกที่จะทำแต่ดีแทคแค่เพียงบริษัทเดียว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เข้าใจว่าอีกบริษัทหนึ่งเขามีคดีอยู่แล้ว คดีมีอยู่แล้วที่ดำเนินการอยู่ แต่ทั้งหมดก็ต้องเป็นดุลพินิจของทางผู้ที่มีอำนาจทางกฎหมายที่จะสั่งการ
เมื่อถามว่า แต่ช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังจะเปลี่ยนผ่าน แล้วกลับมาทำในช่วงเวลานี้ ในทางนโยบายมันมีความเหมาะสมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนว่ามันไม่ใช่เรื่องนโยบาย มันเป็นเรื่องการตรวจสอบทางกฎหมาย ถ้ามีการทำผิดทางกฎหมาย มันไม่มีนโยบายที่จะมาลบล้างได้ แต่ทั้งหมดที่ตนบอกคือว่าผู้ที่มีอำนาจทางกฏหมายต้องวินิจฉัยและดำเนินการไป เมื่อถามว่า คือมีการตรวจสอบมาระยะหนึ่งแล้ว แต่กลับเอาผลมาใหม่ในช่วงที่กำลังจะมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ผลนั้นเสร็จในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ตนย้ำอีกครั้งว่ามันไม่ใช่เรื่องนโยบาย แต่เป็นเรื่องของการตรวจสอบเรื่องความถูกต้องทางกฎหมาย
เมื่อถามว่า หมายถึงว่านายกรัฐมนตรีเห็นว่าในส่วนที่นายอลงกรณ์ ทำไปนั้นถูกต้องแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่กล้าไปพูดอย่างนั้น เพราะตนไม่ทราบ ตนไม่ได้เห็นตัวรายงาน ตนเพียงแต่บอก นายอลงกรณ์ ได้มาชี้แจงกับตนว่าที่ปรึกษาหรือตัวท่านก็มีความเห็นที่ส่งไป แต่ว่าผู้ที่อำนาจสั่งการตามกฎหมายต้องใช้ดุลพินิจว่าจะเอาอย่างไร เมื่อถามว่า เป็นเรื่องการเมืองอะไรมาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังมองไม่เห็นว่ามันจะไปทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองอะไร