“พระรักเกียรติ” เตือนสติ นช.แม้ว ติดคุกก่อนถวายฎีกาฯ อย่าตะแบงทำลายหลักนิติรัฐ

“พระรักเกียรติ” ชี้ อาญาแผ่นดิน ความผิดไม่มีวันหาย ย้ำ การเมืองเป็นวงจรอุบาทว์ตอบสนองกลุ่มทุน แนะ “ทักษิณ” กลับมารับโทษติดคุกก่อน แล้วค่อยถวายฎีกาขออภัยโทษ อย่าคิดนิรโทษกรรม เพราะผิดหลักนิติรัฐ เชื่อติดคุกไม่เกิน 6 เดือน แล้วชีวิตจะดีขึ้น เตือน รบ.โคลนนิงแม้ว หากนิรโทษฯเพื่อพวกพ้อง บ้านเมืองจะวุ่นวาย

วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม (สุขธนะ) วัดใหม่ศูนย์วิปัสสนาวังพญานาค (วัดใหม่สุขธนะศรีนครราราม) อำเภอกุมวาปี จังหวัดอุดรธานี ได้บรรยาธรรมะในหัวข้อเรื่อง “ธรรมะเปลี่ยนชีวิต” ตามโครงการบรรยายธรรมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมในการบริหารงานองค์กร โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งพระรักเกียรติ ได้บรรยายธรรมตอนหนึ่งว่า อาตมาขอยกตัวเองเป็นตัวอย่างสอนและเตือนใจข้าราชการในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน โดยจะเอาชีวิตตัวเองที่เคยเป็นนักการเมืองทำงานประสบความสำเร็จเจริญก้าวหน้า และเคยถูกลงโทษจำคุกติดตาราง เป็นนักการเมืองเป็นนักโทษ แต่วันนี้เป็นนักบวช เป็นการใช้ชีวิต 3 แบบ 3 โลก เป็นชีวิตจริงที่อยู่ในคนๆ เดียวกัน การเมืองไทยเป็นการเมืองระบบอุปถัมภ์ อาตมาเป็น ส.ส.สมัยแรกก็ไปอยู่การเมืองแบบระบบอุปถัมภ์ รับเงินจากกลุ่มทุนทางการเมืองเพื่อลงสู่สนามเลือกตั้ง พอชนะเลือกตั้งกลับมาเป็น ส.ส.ต้องมายกมือ มาทำตามเขา

พระรักเกียรติ กล่าวต่อว่า ที่เป็นอย่างนี้เพราะใช้ชีวิตอย่างประมาท ติดคุกติดตารางไม่เคยโทษ ช่วงเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องทุจริต เพราะต้องตอบแทนกลุ่มนายทุน และเตรียมทุนไว้ใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งต่อไป กลายเป็นวงจรอุบาทว์ การเมืองสมัยนี้ก็คงไม่แตกต่างกันมาก มาใช้ชีวิตเป็นพระ 2 ปีมีความสุขมาก ไม่มีความทุกข์ ไม่มีความกังวล ตอนเป็นรัฐมนตรีคิดว่ามีความสุข แต่ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ตอนหนีคดีอยู่ 1 ปี พยายามติดต่อเพื่อนที่เป็นรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลทักษิณหลายคน แต่ไม่รับโทรศัพท์ซักคน มีคนหนึ่งห้ามอาตมาติดต่อ เพราะกลัวซวยตาม เวลาตกต่ำคนก็รังเกียจ สังคมดูหมิ่นเยียดอาตมาต้องไปซ่อนตัวอยู่กับหลาน อยู่ห้องแคบๆ 4 คูณ 4 เมตร นอนเอามือก่ายหน้าผากตลอด จิตใจเสื่อมทรามทุรนทุราย พอถูกจับก็โล่งอก ไม่ต้องหนีอีกต่อไป คนที่หนีเวลานี้ก็หนีหลายท่านเชื่อว่า ท่านก็ไม่ได้มีความสุขหรอก

“โดนอาญาแผ่นดินรับโทษ ไม่รับโทษไม่มีทางหาย นายวัฒนา และคุณทักษิณ ไม่มารับโทษ ไม่มาติดคุกต้องอยู่ต่างประเทศ 20 ปี อย่างนายวัฒนา ก็อายุ 77 ปีแล้ว ถ้าไม่มีรับโทษก็มาไม่ได้แล้ว ถ้าหนีไปต่างประเทศหากจับได้เขาก็ต้องนับหนึ่งใหม่ คดีอาญาแผ่นดินต้องมารับโทษ ไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา หรือรื้อฟื้นได้ จะมานิรโทษกรรมให้ทักษิณทำไม่ได้ เพราะผิดหลักการของบ้านเมือง ทำผิดต้องรับโทษ ทำผิดไม่รับโทษแล้วออกกฎหมาย ยกเว้นโทษให้ตัวเอง บ้านเมืองก็จะปั่นป่วนวุ่นวาย ผิดหลักการบ้านเมือง มันทำไม่ได้ อย่างที่ผ่านมา ทักษิณหนีไปต่างประเทศให้เสื้อแดงลงชื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ทำอย่างนั้นก็ไม่ได้ การทูลเกล้าฯขออภัยโทษ คือ ทำผิดแล้วต้องรับโทษก่อน แล้วทูลเกล้าฯของพระราชทานอภัยโทษ อย่างอาตมาถูกตัดสิน 15 ปี แต่ถูกลงโทษจริงๆ แค่ 5 ปี เพราะไปทำความดีในคุก พ้นโทษนับหนึ่งใหม่สังคมก็ให้อภัย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่รับโทษเลย แต่กลับขอพระราชทานอภัยโทษมันไม่ได้ นักโทษที่อยู่ในคุกถ้าอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ฎีกา ก็ไม่มีสิทธิ์ขออภัยโทษ นักโทษที่มีสิทธิ์ขอพระราชทานอภัยโทษต้องให้คดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว รับโทษแล้ว อยู่ในเรือนจำแล้วจะเขียนเอง หรือให้ญาติพี่น้องเขียนให้ก็ได้ เขียนตามขั้นตอนตรงนี้ทำได้” พระรักเกียรติ กล่าว

พระรักเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนิรโทษกรรมก็เหมือนกัน เป็นการออกกฎหมายยกเว้นความผิดตัวเอง พ.ต.ท.ทักษิณ คงอยากกลับบ้าน แต่คงทำไม่ได้ อาตมารู้จักกับทักษิณเคยแนะนำไปหลายครั้งให้มารับโทษซะ อาตมาจะเขียนทูลเกล้าฯถวายฎีกาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้ามารับโทษจริงๆ มารับโทษจริงๆ ไม่ถึง 6 เดือนหรอก เพราะโทษแค่จำคุก 2 ปี ไม่ต้องมาสร้างความวุ่นวายอย่างนี้ ยิ่งรัฐบาลใหม่ถ้ารัฐบาลเป็นคนเสนอขอภัยโทษก็ทำได้ หรือเสนอในนามรัฐบาลทำได้ เพราะอยู่ในส่วนหนึ่งของแผนปรองดอง แต่ถ้าจะไปทำนิรโทษกรรมจะให้ถึงวัฒนา กำนันเป๊าะ รวมถึงนักโทษในเรือนจำด้วยไหม ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองร้าวลึกขึ้น รัฐบาลน้องตัวเองขอโทษได้เลย กลับมาคนก็จะยอมรับทั่วประเทศ ทุกอย่างจบ เดี๋ยวนี้พัฒนาประเทศ แต่ไม่พัฒนาการเมือง