“สนธิ” คาดบัตรเครดิตชาวนาเป็นแผนดึงชาวบ้านให้เป็นหนี้ขึ้นตรงต่อบริษัทที่พรรคเพื่อไทยตั้งขึ้น หวังสถาปนาทาสติดที่นายุคใหม่ จะได้ถูกครอบงำไปตลอด เผยกรณี “ทักษิณ” พานักลงทุนอาหรับกว้านซื้อที่ก็เพื่อรวบรวมที่ดินสร้างบริษัท ปูทางกอบโกยผลประโยชน์จากผลิตผลการเกษตรที่จะมีค่ามหาศาลในอนาคต
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “นายสนธิ ลิ้มทองกุล” ให้สัมภาษณ์
เวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 11 ก.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โฟนอินเข้าในรายการ “คนเคาะข่าว” เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย
โดย นายสนธิกล่าวว่า ตนจะขยายความเท่าที่เข้าใจเรื่องบัตรเครดิตชาวนา จริงๆ แล้วมันลึกซึ้งกว่าที่เราคิดเยอะ ตนอ่านเกมเป็นอย่างนี้ คือ ชุดชาวนาเป็นหนึ่งในโครงการเอื้ออาทรณ์ โครงการนี้อาจจะออกมาในรูปแบบของบริษัทชาวนาไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ตั้งใหม่ ประโยชน์ที่มุ่งหวังของโครงการที่ซ่อนเร้น คือ สถาปนาทาสติดที่นายุคใหม่ แบบในญี่ปุ่นที่ใช้ระบบโชเฮงในอดีต เพื่อคะแนนเสียงและความภักดี จากผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ชาวนา เจ้าของที่ดิน หัวคะแนนที่จะมาทำธุรกิจรถไถ โรงสี ขายปุ๋ย นายทุนท้องถิ่นที่ยอมสิโรราบ และก็เป็น “โครงสร้างระบบอุปถัมภ์ใหม่” ที่ขึ้นตรงต่อเจ้าของโครงการ เช่น ชาวนาจะมาเป็นทาสของบริษัทที่กำกับโดยเจ้าของโครงการ แทนที่จะเป็นหนี้ของทุนท้องถิ่น ด้วยบัตรเครดิตชาวนาออกโดยบริษัทชาวนาไทย ที่เนรมิตให้ชาวนาได้ปัจจัยการผลิตทุกอย่างในชีวิต ไม่ต้องง้อนายทุนท้องถิ่น ที่ดอกเบี้ยสูงกว่า ยุ่งยากกว่า เงื่อนไขโหดกว่า เพราะฉะนั้นแล้วตนคิดว่าอันนี้คือเบื้องหลังของบัตรเครดิตชาวนา ส่วนหลักการที่ให้ไปซื้อของ หักบัญชี สิ้นเดือนจ่าย แบบวีซ่าคงไม่ใช่ จุดเริ่มต้นน่าจะเป็นตรงนี้มากกว่า
นายสนธิกล่าวอีกว่า ส่วนเงินเดือน 15,000 บาทก็น่าจะเป็นพวกคนที่มาเป็นนักวิชาการโครงการต่างๆ เหล่านี้ คงจำได้นายทักษิณ ชินวัตร เคยเอานักลงทุนจากอาหรับมากว้านซื้อที่ดิน ตนคิดว่าผลิตผลทางการเกษตร และพื้นที่ทางเกษตรจะมีมูลค่ามหาศาล เนื่องจากว่าทาง World Food Organization ยอมรับกันแล้วว่าในอนาคต ผลิตผลทางการเกษตรจะแพงกว่าเดิม 4-5 เท่า เพราะฉะนั้น รายได้จากการเกษตรจะไม่ต่ำกว่ารายได้จากพลังงาน ขาดอย่างเดียว คือ การรวบรวมที่ดินและสร้างองค์กรโครงสร้างมาให้เป็นบริษัทจำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน แล้วก็จ้างชาวนาทำงาน หรือเอาพวกชาวนาที่มีที่ดินเข้ามาอยู่ในระบบอันนี้ แทนที่จะไปพึ่งนายทุนท้องถิ่นก็มาพึ่งบริษัทเหล่านี้ บัตรเครดิตก็จะรวมถึงการซื้อทุกอย่าง ประกอบกับบริษัทนั้นก็อาจมีข้าวของขาย เช่น มอเตอร์ไซค์ เครื่องอุปโภคบริโภค ก็ใช้บัตรเครดิต เพื่อหักออกจากงานที่ชาวนาทำ แนวโน้มน่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า