“ดร.สุเมธ” บรรยายพิเศษเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจพอเพียง ชี้ รัฐไทยมุ่งสร้างความร่ำรวยจากจีดีพี เอาแต่ตามก้นคนอื่น ไม่เคยตรวจสอบตัวเอง ทำสังคมมีปัญหา ความรวยกระจุกความจนกระจาย แนะยึดหลักพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน เผย “ในหลวง” ทรงห่วงคนไทยชอบใช้ไทยคำอังกฤษคำ ทำคนฟังไม่เข้าใจ
วันนี้ (7 ก.ค.) ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจพอเพียง ในการสัมมนาทางวิชาการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ว่า ตั้งแต่ประเทศไทยมีการใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1-7 พบว่า ระบบการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมุ่งสร้างความร่ำรวยเพียงอย่างเดียว ใช้หลักคิดว่ารวยแล้วดี มุ่งความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยใช้ค่าจีดีพีเป็นตัวชี้วัดมุ่งแต่เรื่องเงินทองติดมาจนถึงทุกวันนี้ ต่อมาก็มุ่งอุตสาหกรรม แต่ขอเรียกว่า อุตสาหากรรม ความบ้าคลั่งครั้งแรกในความปรารถนาของนักวางแผนกระแสนักคิด อยากเป็นประเทศอุตสาหากรรม
เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ผู้นำประเทศแทบไม่ได้คิดเรื่องการบริหารบ้านเมือง ชอบตามแบบอย่างคนอื่น ตามก้นคนอื่น จนไม่เคยเป็นตัวของตัวเอง ไม่เคยตรวจสอบตัวเองเลยว่าเราจะเป็นอะไร แต่จากแผนดังกล่าวทำให้ประเทศไทยมีเศรษฐกิจดี สังคมมีปัญหา การพัฒนาไม่ยั่งยืน อัตราความเจริญสูง ความร่ำรวยกระจุก ความจนกระจาย เมื่อเรามุ่งความเจริญเติบโต เราก็ควรจะใช้สมบัติที่เรามีอยู่นั่นคือทรัพยากรธรรมชาติ หรือดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงรักษาตลอดระยะเวลา 60 ปี พระองค์ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง ทรงใช้วรกาย พระราชสติปัญญารักษาเพื่อให้สิ่งนี้อยู่กับคนไทยให้ได้ แม้จะอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมไป เนื่องจากการบริโภคของคนไทย จากการบ้าพัฒนาประเทศอย่างสุดกู่ ที่ทำให้เกิดผลเสียหายขึ้น ทั้งทรัพยากรธรรมชาติหร่อยหรอ แม่น้ำเจ้าพระยา ลำคลองเน่าเสีย ป่าไม้ถูกทำลาย
นอกจากนี้ ดร.สุเมธ ยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจบ้านเรา เหมือนกับสร้างบ้านโดยไม่ปักเสาเข็ม ซึ่งการที่เราใช้วิธีเลือกเดินไปโดยใช้วิธีการทางด้านอุตสาหกรรมก็เหมือนกับการสร้างบ้านที่ต้องปักเสาอย่างน้อย 4 ต้น คือ เสาแรก คือ เงิน ซึ่งต้องยืมเขามา เสาที่ 2 เทคโนโลยี ประเทศเราไม่มีการสร้างและคิดค้นเทคโนโลยีเป็นของเราเอง จึงต้องซื้อมาจากต่างประเทศ เสาที่ 3 คน ที่สุดหากเสาบ้านเราไม่แข็งแรงทุกอย่างจะสูญสิ้นไปในที่สุด และเสาที่ 4 คือ ทรัพยากรซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ประเทศไทยมี และเป็นทุนทางธรรมชาติบวกกับ แรงงานในระดับล่างที่กำลังจะได้รับเงิน 300 บาท
“เวลาตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมา ผมเหมือนอยู่ในความฝันเวลาขับรถไป เห็นทุกป้ายสร้างความฝันให้ผมมาก ว่า จะปลดหนี้ไม่มีหนี้แล้ว พอลูกอายุ 20 ก็เบิกได้ 1 ล้าน ใครอยากได้บ้านหลังแรก อยากมีรถคันแรกก็จะมีกุญแจให้ 2 ดอก แต่เผลอแป๊ปเดียวความฝันผมก็หายไป นโยบายต่างๆ กำลังบอกว่าเศรษฐกิจดี แต่ส่งผลความสูญเสียนานัปการ ไม่เหลืออะไรเลย และสังคมมีปัญหา คนไทยแม้แต่เด็กเล็ก ผู้ใหญ่ ตามบ้านนอก มีคนเอาของไปล่อ ก็เกิดความอยากได้ กลายเป็นคนหิวกระหาย และนิสัยเสียไปหมด จึงอยากให้ทุกคนยึด 3 ข้อหลัก ได้แก่ 1. พอประมาณ 2. มีเหตุผล 3. มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ก็คือ พูดง่ายๆ พอประมาณ ดูตนเอง อย่าเกินตัว” ดร.สุเมธ กล่าวย้ำ
ทั้งนี้ ดร.สุเมธ กล่าวอีกว่า พระองค์ทรงเตือนคนไทยเกี่ยวกับนักเรียนนอกที่ชอบใช้ภาษาฝรั่งคำไทยคำ เพราะเมื่อสื่อไปแล้วทำให้คนไม่เข้าใจ เรื่องภาษาต้องใช้ให้ถูกต้อง พูดให้ถูกต้อง คนไทยสมัยใหม่ พูดจาเรื่อยเปื่อย บางทียังได้พูดอะไรก็พูดขึ้นมาด้วยคำว่า ค่ะ ครับ ถือเป็นปรากฏการณ์อีกเรื่องหนึ่งในภาษาไทยที่เกิดขึ้นขณะนี้