ชาวกาญจน์ปลื้มได้ประโยชน์จาก “โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริกับความอยู่ดีกินดีของประชาชน”

กาญจนบุรี - รองผู้ว่าฯ กาญจนบุรี เผยประชาชนในพื้นที่กาญจนบุรีและพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงได้ประโยชน์จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในกาญจนบุรี “โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริกับความอยู่ดีกินดีของประชาชน” โดยถ้วนหน้า จนมีชีวิตความเป็นอยู่สุขสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน

นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า พระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาที่ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ด้วยทรงตั้งพระราชหฤทัยที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นในทุกด้าน เป็นที่มาของโครงการพระราชดำริที่ทรงเริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 จนถึงปัจจุบัน

โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เป็นอีกหนึ่งในหลายพันโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาน้ำให้พสกนิกรมีความเป็นอยู่ที่ดี ทำการเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่หมู่ 3 บ้านห้วยแม่ระวาง หมู่ที่ 4 บ้านม่วงเฒ่า หมู่ที่ 5 บ้านบารมี และหมู่ที่ 7 บ้านห้วยองคตของ ต.สมเด็จเจริญ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2533 และมีพระราชกระแสรับสั่งกับนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการ กปร. และเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ว่า ได้ทรงทราบว่าพระเทพสิทธิญาณรังสี ได้ไปดำเนินการพัฒนาพื้นที่บริเวณ ต.หนองปรือ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี (ปัจจุบันอยู่ในเขต ต.สมเด็จเจริญ) ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนเป็นอย่างดี ขอให้เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ไปนมัสการพระเทพสิทธิญาณรังสี เพื่อช่วยประสานสนับสนุนการดำเนินงาน ในโครงการดังกล่าวนี้

รวมทั้งให้กรมชลประทานดำเนินการพิจารณาก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตามลำน้ำสาขาต่างๆ ของห้วยตะเพินในเขต อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และลำห้วยสาขาห้วยแม่ตะกึงห้วยตะกวด ห้วยกระพร้อย และห้วยป่าไร่ เป็นต้น เพื่อหาน้ำช่วยเหลือราษฎรในเขตโครงการให้มีน้ำทำการเพาะปลูกและบริโภคได้ตลอดปี และสมควรปลูกป่าตามบริเวณขอบอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่จะทำการก่อสร้าง เป็นการฟื้นฟูสภาพต้นน้ำลำธารด้วย

รอง ผวจ.กาญจนบุรีเปิดเผยต่อว่า ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริ ให้จัดหาที่ดินในพื้นที่บริเวณดังกล่าวจำนวนหนึ่งเพื่อพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนและพระราชทานชื่อว่า “โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” โดยพระองค์ทรงเน้นเรื่องการบริหารและจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยให้ราษฎรได้อยู่อาศัยและทำกินร่วมกับการคงอยู่ของธรรมชาติอย่างเกื้อหนุนกัน

วัตถุประสงค์ของโครงการก็เพื่อดำเนินการบริหารทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสมให้กลับคืนสู่สภาพเดิมที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยการแยกพื้นที่ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในด้านการอนุรักษ์ การฟื้นฟูสภาพป่าเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร การจัดสรรที่อยู่อาศัยที่ทำกิน และพื้นที่ส่วนกลางในการก่อสร้างสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่างๆ ดำเนินการจัดระเบียบชุมชนให้ราษฎรได้เข้าอยู่อาศัย และทำกินในพื้นที่ที่ได้ดำเนินการจัดสรรไว้แล้วอย่างเหมาะสม และถูกต้อง ส่งเสริม และพัฒนาอาชีพให้ราษฎรได้อาศัย และทำกินใน ลักษณะพึ่งตนเองควบคู่ไปกับการบริหารทรัพยากรอย่างยั่งยืน ตามแนวคิดเรื่อง “บวร” (บ้าน วัด ราชการ และโรงเรียน)พัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตไทยด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกๆ ฝ่าย หน่วยงานรับผิดชอบ อำเภอหนองปรือและสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ

พื้นที่โครงการนี้เป็นการนำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ราษฎรบุกรุกครอบครองอยู่กลับคืนมา โดยจ่ายเงินชดเชยให้ แล้วนำพื้นที่มาจัดแบ่งให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า พื้นที่พัฒนา แหล่งน้ำ ที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน พื้นที่ส่วนราชการ และที่สาธารณประโยชน์ต่างๆ แล้วจัดให้ราษฎรที่บุกรุกครอบครองอยู่เดิม ได้เข้าอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ที่จัดให้ใหม่ สำหรับที่อยู่อาศัย จัดระบบสาธารณูปโภค ที่ทำกินจัดระบบน้ำชลประทาน การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้แก่ราษฎร รวมทั้งการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตควบคู่กันไป

“จากพระราชดำรินับแต่ปี 2533 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ประชาชนในพื้นที่โครงการและพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงต่างได้ประโยชน์จากโครงการโดยถ้วนหน้ามีชีวิตความเป็นอยู่สุขสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และด้วยน้ำพระทัยเปี่ยมเมตตา เหลือที่พรรณาได้ครบถ้วน” นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี เผย