ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตร.ภ.5 แถลงข่าวจับมือปืน-แก๊งอินโดฯ ลักทรัพย์ เผย กลุ่มมือปืนก่อเหตุฆ่าผู้ค้ายามาแล้ว 4 หนรวด เตรียมลงมือรายที่ 5 ที่เชียงแสน ก่อนโดนจับ เตรียมขยายผลตามล่าผู้จ้างวานต่อหลังสืบทราบเป็นพ่อค้ายารายสำคัญ ส่วนแก๊งอินโดฯ ฉวยโอกาสสะกดรอยคนถอนเงินทุบกระจกรถก่อนเชิดเงินแปดแสนหนี พบทยอยโอนเงินกลับบ้านพร้อมเตรียมตัวเผ่นแต่โดนตำรวจจับได้ก่อน
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภ.5 พร้อมคณะ แถลงข่าวการจับกุมกลุ่มมือปืนรับจ้างที่ก่อคดีในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน กับแก๊งลักทรัพย์ชาวอินโดนีเซียที่ก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ก่อนลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
โดยการจับกุ่มกลุ่มมือปืนรับจ้างนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ด่านตรวจเข้มแข็งแม่มะ สภ.เชียงแสน ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายเกรียงศักดิ์ แลวงศ์ หรือ พ่อหลวงอ้าย นายดวงจันทร์ หรือ จัน นนทสายา และนายสงกรานต์ หรือ การ นนทสายา พร้อมของกลางเป็นยานพาหนะทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอีกหลายรายการ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายเกรียงศักดิ์กับพวก ร่วมกับ นายมงคล ใจยะฤทธิ์ ซึ่งกำลังหลบหนีการจับกุม ได้รับการว่าจ้างให้สังหารเหยื่อรายหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และจากการขยายผล พบว่า นายเกรียงศักดิ์ กับพวกมีพฤติกรรมเป็นกลุ่มมือปืนรับจ้างที่ก่อเหตุมาแล้วหลายคดี โดยได้รับการว่าจ้างจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดรายสำคัญระดับประเทศ ให้ลงมือกับเหยื่อซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดรายใหญ่ตามแนวชายแดนพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
นอกจากนี้ เมื่อนำอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่จับกุมได้ไปตรวจสอบ พบว่าตรงกับคดีที่เคยเกิดขึ้นรวมสี่ราย ได้แก่คดีฆ่านายสุรพงษ์ แซ่เจ้า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2554 ในพื้นที่ สภ.ปาย คดีฆ่านายกวิน พัฒนอุดมชัย เมื่อวันที่ 7 พ.ค.กับคดีฆ่านางฟางเซียง แซ่ย่าง ภรรยานายกวิน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ในพื้นที่ สภ.ฝาง และคดีฆ่า นายมงคล หรือ ดำ วีระวัฒน์พงศธร เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ในพื้นที่ สภ.แม่จัน
ส่วนการจับกุมแก๊งลักทรัพย์ชาวอินโดนีเซียนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายทุบกระจกรถโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน เลขทะเบียน ขข 4391 เชียงใหม่ ก่อนจะลักเงินสดจำนวน 800,000 บาท ซึ่งเป็นเงินของโครงการความร่วมมือระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา-สาธารณรัฐประชาชนจีน เหตุเกิดที่ลานจอดรถห้างเทสโก้ โลตัส สาขาฝาง
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง เลขทะเบียน กห-5270 เชียงใหม่ เป็นพาหนะในการก่อเหตุ โดยรถคันดังกล่าวมีนายรัสลาม บิน โมฮัมหมัด ไอวานีการ่า ชาวอินโดนีเซีย เป็นผู้เช่า เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญนายรัสลามและพวกอีก 2 ราย
ได้แก่ นายเจนทาร์ อะลาม และ นายฮัสนี เยนฟารี ชาวอินโดนีเซีย มาสอบสวน พบว่าให้การมีพิรุธหลายประการ จึงได้ทำการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงิน จนทราบว่าชาวอินโดนีเซียทั้ง 3 ราย ได้ทำการโอนเงินไปยังประเทศอินโดนีเซียรวม 4 ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 639,520.87 บาท จึงได้ขอหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นในห้องพักหมายเลข 105 โรงแรม อิมม์โฮเต็ล อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ผู้ต้องสงสัยพักอยู่ พบของกลางเป็นเหล็กปลายแหลม ยาวประมาณ 2 นิ้ว จำนวน 8 อัน เงินสดจำนวนประมาณ 135,000 บาท พร้อมของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ จากการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้งสามรายให้การว่าได้ร่วมกันเช่ารถไปก่อเหตุทุบกระจกแล้วลักเอาทรัพย์สินภายในรถในพื้นที่ อ.ฝาง ก่อนจะหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ อ.เมือง และทำการทยอยโอนเงินกลับไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยภายหลังถูกจับกุถมผู้ต้องหาได้ทำการเบิกถอนเงินที่โอนไปกลับมาคืนแก่ผู้เสียหาย ได้เงินคืนกลับมาทั้งสิ้น 484,320.82 ส่วนเงินที่ขาดไป จำนวน 155,200 บาทนั้น ผู้รับเงินปลายทางได้เบิกเงินออกไปแล้ว
พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภ.5 กล่าวถึงการจับผู้ต้องหาทั้งสองรายการว่า คดีการจับกุ่มกลุ่มมือปืนรับจ้างนั้นเป็นผลมาจากการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่เตรียมที่จะขยายผลเพื่อติดตามตัวผู้จ้างวานมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนกรณีการจับกุมแก๊งลักทรัพย์ชาวอินโดนีเซียนั้น เป็นเหตุที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกลุ่มคนร้ายจะเลือกเหยื่อจากผู้ที่มาเบิกเงินจากธนาคารเป็นจำนวนมาก โดยจะสะกดรอยติดตามจนสบโอกาสแล้วจึงลงมือทุบกระจกลักทรัพย์
ส่วนกรณีที่ผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทยถูกลอบชายฉกรรจ์ลอบทำร้ายด้วยแป๊บเหล็กจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ท.ชัยยะกล่าวว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาสาเหตุว่าการที่นายปรีชา แก้วไชยหาญ ถูกลอบทำร้ายนั้นเกิดจากอะไร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอยืนยันว่า จะติดตามและดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภ.5 พร้อมคณะ แถลงข่าวการจับกุมกลุ่มมือปืนรับจ้างที่ก่อคดีในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน กับแก๊งลักทรัพย์ชาวอินโดนีเซียที่ก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ก่อนลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
โดยการจับกุ่มกลุ่มมือปืนรับจ้างนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ด่านตรวจเข้มแข็งแม่มะ สภ.เชียงแสน ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายเกรียงศักดิ์ แลวงศ์ หรือ พ่อหลวงอ้าย นายดวงจันทร์ หรือ จัน นนทสายา และนายสงกรานต์ หรือ การ นนทสายา พร้อมของกลางเป็นยานพาหนะทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอีกหลายรายการ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายเกรียงศักดิ์กับพวก ร่วมกับ นายมงคล ใจยะฤทธิ์ ซึ่งกำลังหลบหนีการจับกุม ได้รับการว่าจ้างให้สังหารเหยื่อรายหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และจากการขยายผล พบว่า นายเกรียงศักดิ์ กับพวกมีพฤติกรรมเป็นกลุ่มมือปืนรับจ้างที่ก่อเหตุมาแล้วหลายคดี โดยได้รับการว่าจ้างจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดรายสำคัญระดับประเทศ ให้ลงมือกับเหยื่อซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดรายใหญ่ตามแนวชายแดนพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
นอกจากนี้ เมื่อนำอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่จับกุมได้ไปตรวจสอบ พบว่าตรงกับคดีที่เคยเกิดขึ้นรวมสี่ราย ได้แก่คดีฆ่านายสุรพงษ์ แซ่เจ้า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2554 ในพื้นที่ สภ.ปาย คดีฆ่านายกวิน พัฒนอุดมชัย เมื่อวันที่ 7 พ.ค.กับคดีฆ่านางฟางเซียง แซ่ย่าง ภรรยานายกวิน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ในพื้นที่ สภ.ฝาง และคดีฆ่า นายมงคล หรือ ดำ วีระวัฒน์พงศธร เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ในพื้นที่ สภ.แม่จัน
ส่วนการจับกุมแก๊งลักทรัพย์ชาวอินโดนีเซียนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายทุบกระจกรถโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน เลขทะเบียน ขข 4391 เชียงใหม่ ก่อนจะลักเงินสดจำนวน 800,000 บาท ซึ่งเป็นเงินของโครงการความร่วมมือระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา-สาธารณรัฐประชาชนจีน เหตุเกิดที่ลานจอดรถห้างเทสโก้ โลตัส สาขาฝาง
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง เลขทะเบียน กห-5270 เชียงใหม่ เป็นพาหนะในการก่อเหตุ โดยรถคันดังกล่าวมีนายรัสลาม บิน โมฮัมหมัด ไอวานีการ่า ชาวอินโดนีเซีย เป็นผู้เช่า เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญนายรัสลามและพวกอีก 2 ราย
ได้แก่ นายเจนทาร์ อะลาม และ นายฮัสนี เยนฟารี ชาวอินโดนีเซีย มาสอบสวน พบว่าให้การมีพิรุธหลายประการ จึงได้ทำการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงิน จนทราบว่าชาวอินโดนีเซียทั้ง 3 ราย ได้ทำการโอนเงินไปยังประเทศอินโดนีเซียรวม 4 ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 639,520.87 บาท จึงได้ขอหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นในห้องพักหมายเลข 105 โรงแรม อิมม์โฮเต็ล อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ผู้ต้องสงสัยพักอยู่ พบของกลางเป็นเหล็กปลายแหลม ยาวประมาณ 2 นิ้ว จำนวน 8 อัน เงินสดจำนวนประมาณ 135,000 บาท พร้อมของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ จากการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้งสามรายให้การว่าได้ร่วมกันเช่ารถไปก่อเหตุทุบกระจกแล้วลักเอาทรัพย์สินภายในรถในพื้นที่ อ.ฝาง ก่อนจะหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ อ.เมือง และทำการทยอยโอนเงินกลับไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยภายหลังถูกจับกุถมผู้ต้องหาได้ทำการเบิกถอนเงินที่โอนไปกลับมาคืนแก่ผู้เสียหาย ได้เงินคืนกลับมาทั้งสิ้น 484,320.82 ส่วนเงินที่ขาดไป จำนวน 155,200 บาทนั้น ผู้รับเงินปลายทางได้เบิกเงินออกไปแล้ว
พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภ.5 กล่าวถึงการจับผู้ต้องหาทั้งสองรายการว่า คดีการจับกุ่มกลุ่มมือปืนรับจ้างนั้นเป็นผลมาจากการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่เตรียมที่จะขยายผลเพื่อติดตามตัวผู้จ้างวานมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนกรณีการจับกุมแก๊งลักทรัพย์ชาวอินโดนีเซียนั้น เป็นเหตุที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกลุ่มคนร้ายจะเลือกเหยื่อจากผู้ที่มาเบิกเงินจากธนาคารเป็นจำนวนมาก โดยจะสะกดรอยติดตามจนสบโอกาสแล้วจึงลงมือทุบกระจกลักทรัพย์
ส่วนกรณีที่ผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทยถูกลอบชายฉกรรจ์ลอบทำร้ายด้วยแป๊บเหล็กจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ท.ชัยยะกล่าวว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาสาเหตุว่าการที่นายปรีชา แก้วไชยหาญ ถูกลอบทำร้ายนั้นเกิดจากอะไร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอยืนยันว่า จะติดตามและดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่