ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผบ.สตช.เยือนภาค 5 ประชุมเตรียมความพร้อมรับเลือกตั้ง ย้ำต้องมี “จุดตรวจเข้มแข็ง” ทุกจังหวัดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เน้นจับตา “อาวุธ-มือปืน-ยาเสพติด” พอใจภาค 5 คุมสถานการณ์ได้ดีเหลือพื้นที่เชียงราย-เชียงใหม่บางจุดที่ต้องจับตา ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้ามั่นใจรับมือได้ไม่มีปัญหา พร้อมเน้นย้ำตำรวจต้องวางตัวเป็นกลาง วอนประชาชนอย่าขายเสียง ถ้าไม่อยากผิดกม.รีบแจ้งหากอยู่ในช่วงเวลาถือว่าไม่มีความผิด
วันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมและประชุมเตรียมความพร้อม ในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในช่วงการเลือกตั้ง โดยมี พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวถึงการเดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ในครั้งนี้ว่า ระยะนี้ถือเป็นระยะที่ 3 ของการดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรม และการรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งในพื้นที่ 8 จังหวัดของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นั้น จากการประเมินตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน จะเป็นพื้นที่ที่มีสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง
อย่างไรก็ตามจากการทำงานอย่างเข้มข้นของตำรวจภูธรภาค 5 ทำให้สถานการณ์ลดลงมาอยู่ในระดับปานกลางแล้ว โดยยังเหลือพื้นที่จังหวัดเชียงราย เขต 1 และจังหวัดเชียงใหม่ เขต 10 ที่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำหรับมาตรการต่างๆ ที่จะดำเนินการต่อไปนั้น พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า จะเน้นหนักไปที่การเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันเหตุนร้ายและการกระทำผิดต่างๆ และจะมีการเพิ่มจุดตรวจเข้มแข็ง ซึ่งนอกจากจะดูแลในเรื่องของการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งแล้ว จุดตรวจเข้มแข็งจะให้ความสำคัญในเรื่องของอาวุธปืน อาวุธสงคราม กลุ่มมือปืนที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ และยาเสพติด ซึ่งได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่าจะต้องมีอย่างน้อยจังหวัดละ 1 จุดในแต่ละวัน โดยในส่วนนี้ทางตำรวจภูธรภาค 5 มีการดำเนินการอย่างจริงจังอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของกลุ่มมือปืนและปัญหายาเสพติด
ส่วนคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อย่างคดียิงกำนันดำในอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย หรือคดีพยายามทำร้ายนายกเทศมนตรีนครเขลางค์ ที่จังหวัดลำปางนั้น ยังไม่ชัดเจนว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียวหรือไม่ เพราะอาจจะมีสาเหตุอื่นๆ เป็นปัจจัยด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่
ด้านการเตรียมการเพื่อรองรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิ.ย. ได้รับรายงานเกี่ยวกับจำนวนผู้ที่จะมาใช้สิทธิแล้ว มั่นใจว่าตำรวจในแต่ละพื้นที่สามารถดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้
ขณะที่เรื่องของการทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีปริมาณลดลง ส่วนการร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจวางตัวไม่เป็นกลางมีการร้องเรียนเข้ามาบ้าง ซึ่งก็ได้ดำเนินการตรวจสอบไปตามขั้นตอน แต่ว่ายังไม่ถึงขั้นต้องมีการโยกย้าย โดยในที่ประชุมวันนี้ก็มีการเน้นย้ำเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ผบ.ตร.ยังได้กล่าวถึงการซื้อสิทธิขายเสียงในช่วงการเลือกตั้งด้วยว่า มีการรายงานเข้ามาเช่นกัน แต่จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้งในการสอดส่องดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
"ทั้งนี้ขอเรียนกับพี่น้องประชาชนว่าไม่ควรขายสิทธิขายเสียง แต่หากผู้ใดได้ทำไปแล้ว ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แล้วต้องการจะแจ้งหรือให้เบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถแจ้งเข้ามาได้ โดยในช่วงนี้ไปจนถึงหลังวันเลือกตั้งอีก 7 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะถือว่าผู้แจ้งไม่มีความผิดและไม่ต้องรับโทษ"
