ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ระบุบรรยากาศการแข่งขันเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่เริ่มเข้มข้นขึ้นแต่ยังไม่พบมีการใช้ความรุนแรง มั่นใจสามารถจัดการเลือกตั้งได้ด้วยความเรียบร้อยดี เผยรับเรื่องร้องเรียนทุจริตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว 2 เรื่อง โดยเรื่องหนึ่งเป็นการใช้เงินซื้อเสียงในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งส่งให้ กกต.กลางพิจารณาแล้ว ขณะที่การร้องเรียนเกี่ยวกับการวางตัวไม่เป็นกลางของ จนท.รัฐ มีเข้ามาต่อเนื่องจากหลายเขตเลือกตั้ง เบื้องต้นตักเตือนแล้ว หากยังฝ่าฝืนเตรียมลงดาบเด็ดขาดตามกฎหมาย ด้าน ผจว.เชียงใหม่ วอนทุกฝ่ายช่วยทำการเลือกตั้งขาวสะอาด กำชับเจ้าหน้าที่รัฐวางตัวเป็นกลาง
วันนี้(14 มิ.ย.54) นายสุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความพร้อมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 3 ก.ค.54 นี้ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ขณะนี้ทาง กกต.จังหวัด ได้มีการเตรียมความพร้อมในทุกด้านไว้เป็นอย่างดีแล้ว โดยในภาพรวมค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดีและไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆ ส่วนบรรยากาศการแข่งขันของผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น ยอมรับว่าเวลานี้มีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ แต่ยังไม่ถึงขั้นมีการใช้ความรุนแรง
ส่วนความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการแจกใบเหลืองหรือใบแดงก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถบอกชี้ชัดลงไปได้ โดยต้องขึ้นอยู่กับผู้สมัครรับเลือกตั้งว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายเลือกตั้งอย่างถูกต้องเคร่งครัดหรือไม่ โดยมีการฝ่าฝืนกฎกติกาแล้วมีหลักฐานชัดเจนก็จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือผู้สมัครทุกคนให้ปฏิบัติและแข่งขันกันภายใต้กรอบกติกา
สำหรับกรณีการร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้น ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการ 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกเป็นการกรณีเกี่ยวกับการใช้เงินซื้อเสียงในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลังจากที่ได้พิจารณาข้อมูลหลักฐานต่างๆ แล้ว เวลานี้ได้ส่งเรื่องต่อไป กกต.กลาง เพื่อพิจารณาต่อแล้ว ส่วนอีกเรื่องหนึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต.จังหวัด
นอกจากนี้ นายสุชาติ กล่าวถึงเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการวางตัวไม่เป็นกลางของเจ้าหน้าที่รัฐว่า ที่ผ่านมาได้รับการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาจากหลายเขตเลือกตั้ง โดยผู้ที่ถูกร้องเรียนส่วนใหญ่พบว่าเป็นกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บางส่วนที่อาจจะฝักใฝ่กลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ แล้วมีการใช้อำนาจหน้าที่ไปชี้นำประชาชนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเบื้องต้นได้มีการแจ้งเตือนไปแล้วให้วางตัวเป็นกลางเพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่หากยังมีการฝ่าฝืนอยู่จะมีการดำเนินการตามข้อกฎหมายอย่างเข้มข้นเพิ่มมากขึ้นตามลำดับต่อไป
ในส่วนกรณีที่มีอาจารย์ในสถาบันการศึกษาของรัฐบางแห่งเชิญชวนให้นักศึกษาออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งแต่มีการพูดชี้นำในลักษณะที่ให้ใช้สิทธิเลือกตั้งหรือสนับสนุนผู้สมัครที่จบการศึกษาจากสถาบันเดียวกันนั้น ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การเชิญชวนให้มีการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของการพูดชี้นำนั้น จะต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นพูดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในชั้นเรียนหรือเป็นการวิจารณ์ในเชิงวิชาการโดยสุจริตหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีความผิดแต่อย่างใด แต่หากเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะที่เป็นอาจารย์โดยไม่เกี่ยวข้องในเชิงวิชาการแล้วก็ต้องถือว่ามีความผิด เพราะอาจารย์ในสถาบันการศึกษาของรัฐถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเช่นกัน
ด้านหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเตรียมรับการเลือกตั้งของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ได้กำชับกับข้าราชการทุกภาคส่วนไปแล้ว ในเรื่องของการช่วยกันดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยและบริสุทธิ์ยุติธรรม รวมทั้งให้ทุกฝ่ายวางตัวให้เป็นกลาง อย่างไรก็ตามยังมีการรายงานเกี่ยวกับการวางตัวไม่เป็นกลางของข้าราชการ โดยเฉพาะข้าราชการในส่วนที่ใกล้ชิดกับท้องถิ่น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้มีกฎระเบียบและกติกาต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้ข้าราชการบางส่วนอาจจะไม่ทราบหรือพลั้งเผลอทำผิดไป ซึ่งคงจะต้องมีการชี้แจงและกำชับให้ระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ดูแลในเรื่องของป้ายหาเสียง เนื่องจากพบว่ามีการทำลายหรือสร้างความเสียหายต่อป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้อยากจะขอร้องผู้ที่กระทำว่าไม่อยากให้เรื่องลักษณะดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ เพราะถึงที่สุดแล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นจะกระทบกับจังหวัดมากที่สุด หากใครมีความนิยมในพรรคการเมืองใดก็สนับสนุนพรรคการเมืองนั้นๆ ไป แต่ไม่จำเป็นต้องสร้างความเสียหายให้กับพรรคการเมืองที่ตนไม่ชอบ