ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่จับมือกรมวิชาการเกษตรประสานเสียงแสดงความพร้อมจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2554 พร้อมฉลอง 3 วโรกาสสำคัญ ผู้ว่าฯ เผยเร่งปรับภูมิทัศน์พร้อมกระตุ้นคนเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพที่ดี ด้านอธิบดีฯ แจงงานใช้แนวคิด “ลดโลกร้อน-สร้างทัศนคติสีเขียว” เชื่อมั่นกิจกรรมหลากหลายดึงดูดคนร่วมงานคึกคัก คาดผู้ชมงานไม่ต่ำกว่าครั้งก่อนแน่
วันนี้ (20 พ.ค. 2554) จังหวัดเชียงใหม่และกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวความคืบหน้าของงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้นจี ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยมีหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ว่า จังหวัดเชียงใหม่มีความยินดีที่ได้รับเกียรติให้เป็นพื้นที่จัดงานและร่วมเป็นเจ้าภาพ ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
โดยเฉพาะเมื่อการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นการเฉลิมฉลอง 3 วโรกาสสำคัญของคนไทย ได้แก่ ในปี 2554 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา และในปี 2555 ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรวงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร จะทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้เตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ ด้วยการปรับภูมิทัศน์ทั่วเมืองเชียงใหม่ให้เป็นสีเขียวตามแนวคิดของการจัดงาน รวมทั้งจะประชาสัมพันธ์ให้ชาวเชียงมใหม่ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี และต้อนรับผู้มาเยือน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่จะเดินทางมาเยี่ยมชมงาน และคาดว่างานนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี
ด้านนายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้อยู่ภายใต้แนวคิด Greenitde : Reducing Global Warming to Save Planet Earth and to Improve the Quality of Life ทัศนคติสีเขียว ร่วมสร้างสรรค์แนวคิดรักษ์โลก ตระหนักถึงการช่วยกันลดสภาวะโลกร้อน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของมนุษยชาติ
โดยยึดหลัก 3 Gs ได้แก่ สร้างจิตสำนึกให้มนุษยชาติรุ่นต่อไป (Generation) ให้รักษ์และอนุรักษ์ต้นไม้และพืชพรรณต่างๆ บนโลก (Garden) ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังทัศนคติสีเขียว (Greenitude) และ 3 Rs ได้แก่ ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าโดยลดการใช้ (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle)
นายจิรากรกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ประเทศต่างๆ ถึง 30 ประเทศทั่วโลก ทั้งประเทศที่เคยร่วมงานในครั้งที่ผ่านมา และประเทศใหม่ได้ตอบรับที่จะเข้าร่วมการจัดแสดงสวนนานาชาติในครั้งนี้ เช่นเดียวกับสวนองค์กรที่มีหน่วยงานต่างๆ แสดงความจำนงที่จะร่วมจัดงานเพิ่มขึ้นจากครั้งที่ผ่านมา
ขณะที่ด้านกิจกรรมต่างๆ จะมีทั้งการจัดนิทรรศการ การประชุมวิชาการระดับนานาชาติและการจัดประกวดต่างๆ รวมทั้งยังมีสิ่งที่เป็นจุดสนใจภายในงานอย่างกระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า Giant Flora Wheel สูงกว่า 40 เมตร ที่ขึ้นแล้วสามารถชมทัศนนียภาพภายในงานได้ทั้งหมด สวนแสงแห่งจินตนาการ Imagination Light Gardens และสวนเยาวชนรักษ์โลก Kids’ Eco Park
สำหรับเป้าหมายจำนวนผู้เข้าชมงานและรายได้ ในช่วงการจัดงานนั้น อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้เข้าเที่ยวชมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตลอดช่วงการจัดงาน 99 วัน ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน และน่าจะมีรายได้เฉพาะในส่วนของการจำหน่ายบัตรเข้าชมรวมทั้งค่าสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งสิ้นราว 300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยังคาดหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาและเงินรายได้สะพัดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตลอดการจัดงานครั้งนี้ น่าจะไม่น้อยไปกว่าการจัดงานครั้งก่อน
นายเฉลิมศักดิ์ สุรนันท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยว กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้จะส่งผลดีอย่างมากต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยปกติในช่วงดังกล่าวของปีจะมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นอยู่แล้วราวร้อยละ 10 เป็นอย่างน้อย ดังนั้น เมื่อมีการจัดงานดังกล่าวขึ้นด้วยทำให้เชื่อมั่นว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จากที่เพิ่มอยู่แล้วในช่วงปกติอีกเป็นจำนวนมาก
ส่วนการประชาสัมพันธ์ทำการตลาดการจัดงานในครั้งนี้โดยเฉพาะในต่างประเทศ เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อมูลไปยังสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในต่างประเทศแล้ว เชื่อว่าระยะเวลาที่เหลือก่อนถึงช่วงจัดงานเพียงพอที่จะทำการประชาสัมพันธ์และการตลาดให้มีคนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนวนมากอย่างแน่นอน