ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 ทลายแก๊งขโมยรถ “ฟอร์จูนเนอร์-วีโก้” หลังลงมือก่อเหตุทั่วเมืองเชียงใหม่ จับสองหนุ่ม-หนึ่งสาวท้อง 5 เดือน พบมีคดีเพียบ เผย ฉวยโอกาสเจ้าของจอดรถติดเครื่องทำธุระ สวมรอยขับหนี ลงมือไปแล้ว 8 คัน ตามคืนมาได้ 1 คัน ด้านเจ้าของดีใจขอบคุณตำรวจหลังได้รถคืน
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภ.5 พร้อมคณะ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายกฤษพงศ์ หรือ บรรทม ธัญญเจริญ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 3 ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี นางสาวมาเรียม ทาศักดิ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333 หมู่ 3 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ นายเกียรติศักดิ์ หรือจรูญ ลี้โชติ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/4 หมู่ 10 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม และข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
พร้อมของกลางได้แก่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กห 9595 เชียงใหม่ รถยนต์ยี่ห้อออดี้ สีเขียว หมายเลขทะเบียน วม 1065 กทม.รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีแดง หมายเลขทะเบียน กท 4518 เชียงราย และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน
การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีคดีโจรกรรมรถในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มขึ้นหลายคดีและมีลักษณะคล้ายคลึงกัน กล่าวคือ คนร้ายจะเลือกโจรกรรมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์ และรุ่นวีโก้ 4 ประตู โดยอาศัยจังหวะที่รถถูกจอดโดยติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ และเจ้าของรถลงจากรถเพื่อแวะทำธุระหรือกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ทำการขับรถหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายกฤษพงศ์ และ นางสาวมาเรียม เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยได้พักที่บ้านเช่าเลขที่ 109 หมู่ 4 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จึงได้ขอหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ จ.274.1/2553 และที่ จ.274.2/2553 ลงวันที่ 10 พ.ค.53 เข้าจับกุมตัว
จากการสอบสวน นายกฤษพงศ์ และ นางสาวมาเรียม ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักรถในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แบ่งเป็นพื้นที่ สภ.สันทราย สภ.สันป่าตอง สภ.หางดง สภ.เมือง และ สภ.ภูพิงค์ รวม 8 ครั้ง ส่วนของกลางที่ตรวจยึดได้นั้น รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เป็นรถที่ถูกโจรกรรม ส่วนรถอีก 3 คันเป็นรถของผู้ต้องหาที่ใช้ในการก่อเหตุ
นอกจากนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองยังระบุว่ามีนายเกียรติศักดิ์เป็นสมาชิกที่ร่วมลงมือก่อเหตุอีกคนหนึ่ง จึงนำกำลังเข้าจับกุมที่ห้องเลขที่ 108 หอพักสหัทยาแมนชั่น ปากซอย 7 ถ.เจ็ดยอด - อยู่เย็น ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และพบของกลางยาบ้าอีก 10 เม็ดภายในห้องดังกล่าวด้วย
พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ผู้ต้องหาจะลงมือโดยเลือกโจรกรรมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์ และรุ่นวีโก้สี่ประตู ซึ่งมีราคาแพง สำหรับรถที่ถูกโจรกรรมไปนั้น มีเพียง 1 คันที่ยังไม่ถูกจำหน่ายต่อ ส่วนอีก 7 คันถูกนำออกส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว โดยขายในราคาคันละ 250,000 บาท โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นผู้ที่มีหมายจับในหลายคดีจากหลายพื้นที่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสืบทราบว่า มีนายตำรวจและทาหารยศนายร้อยขึ้นไปพัวพันอยู่กับเครือข่ายนี้ ซึ่งจะได้ทำการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมต่อไป พร้อมกันนี้ขอฝากเตือนเจ้าของรถว่า เวลาทำธุระที่ไหนหากลงจากรถแล้วให้ดับเครื่องและล็อกกุญแจรถให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการถูกโจรกรรมในลักษณะนี้
ด้าน นายสมชาย สุภา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 9 ต.ม่อนปิน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เจ้าของสวนส้มรายใหญ่ในอำเภอฝาง และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ นายคะแนน สุภา พ่อตานายเนวิน ชิดชอบ เจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์ที่เจ้าหน้าที่สามารถตำรวจติดตามคืนมาได้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค.53 ได้ขับรถเข้ามาทำธุระในตัวเมืองเชียงใหม่
ขณะเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ตนได้จอดรถโดยติดเครื่องยนต์ไว้ แล้วลงจากรถไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย บริเวณหน้าโรงแรมศิรินาถการ์เด้น ถ.คันคลองชลประทาน ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระหว่างที่กำลังกดเงินอยู่นั้นมีคนร้ายเข้ามาขับรถของตนหลบหนีไป ตนจึงเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตำแหน่งของรถจากระบบจีพีอาร์เอส จนทราบว่า รถถูกจอดไว้ในสวนลำไยแห่งหนึ่ง ที่บ้านฟ่อน ต.หนองควาย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นับว่าเป็นโชคดีของตนที่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจนเจอรถของตนได้
