ยิงหัวคะแนนใหญ่ “ประดิษฐ์” ดับกลางลานข้าวแม่จัน

เชียงราย - หัวคะแนนใหญ่ “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” ถูกยิงดับคาลานตากข้าวที่แม่จัน-เชียงราย หลังแย่งซื้อข้าวนาปรังกับคู่แข่งจากพิษณุโลก จนความขัดแย้งคุกรุ่นมานาน

วันนี้ (29 พ.ค.) พ.ต.ท.ทันชัย ยศชูสกุล สารวัตรเวร สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตภายในลานรับซื้อข้าวเปลือกของสหกรณ์ผู้ใช้น้ำจันจว้าใต้ หมู่บ้านสันถนน ม.12 ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พศวีร์ โชติเทียนชัยวัต ผกก.สภ.แม่จัน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นลานหน้าตราชั่งน้ำหนักข้าว และมีผู้ถูกยิงชื่อนายนิมิตร แก้วกำพล อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ 8 ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.พิจิตร ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไผ่ขวาง และยังเป็นหัวคะแนนใหญ่ของ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา

นายนิมิต ถูกปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่สีข้างด้านซ้าย 2 นัด เลือดนองพื้น ขณะยังสวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นลายพราง ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ หลังถูกยิงคนภายในสหกรณ์ได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์อย่างเร่งด่วน แต่นายนิมิต ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตขณะส่งโรงพยาบาล

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุยังพบชาวบ้านอยู่ประมาณ 10 กว่าคน จึงได้สอบถามข้อมูลทราบว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุยิง นายนิมิต ชื่อว่า นายปราโมทย์ คงทอง อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 89 หมู่ 9 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยก่อนเกิดเหตุ นายปราโมทย์ พร้อมด้วยภรรยาชื่อ นางสาวิตรี ได้อยู่บริเวณลานหน้าตราชั่งพร้อมกับผู้ตาย และเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันขึ้น จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนที่พกไปด้วยยิงนายนิมิต จนล้มลงก่อนที่จะขับขี่รถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์สีเทา ทะเบียน กต 3937 อุตรดิตถ์ หลบหนีไปพร้อมภรรยาอย่างรวดเร็ว

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายและนายปราโมทย์ ต่างเป็นพ่อค้าที่ไปรับซื้อข้าวเปลือกในพื้นที่ อ.แม่จัน แต่ นายปราโมทย์ ได้เป็นลูกค้าของสหกรณ์มานานกว่า 3 ปี แต่ผู้ตายพึ่งจะเข้าไปติดต่อรับซื้อข้าวกับสหกรณ์ได้เพียงประมาณ 3 เดือน ทำให้ธุรกิจการรับซื้อข้าวเริ่มขัดแย้งกัน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างแย่งลูกค้าซึ่งเป็นชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง โดยก่อนเกิดเหตุถึงขั้นที่นายปราโมทย์ ยอมขึ้นราคารับซื้อข้าวเปลือกนาปรังจากเกษตรกรเป็นเกวียนละ 6,500 บาท ขณะที่ผู้ตายรับซื้อเพียงเกวียนละ 6,000 บาท

ก่อนเกิดเหตุได้มีการนำข้าวที่ชาวนาไปขายให้กับทั้งสองรายวางไว้คนละฝั่งของลานตากข้าวของสหกรณ์ แต่ปรากฏว่า ข้าวที่เป็นของ นายปราโมทย์ ได้ตักออกไปขายจนหมดก่อน เหลือเพียงข้าวของนายนิมิต ซึ่งยังมีอยู่กองโต จึงทำให้ นายปราโมทย์ ได้ขอให้มีการตรวจดูข้าวของผู้ตาย ว่า เหลืออยู่มากน้อยเพียงใด จึงทำให้เกิดการมีปากเสียงกันขึ้นบวกกับความไม่พอใจกันเรื่องการแย่งรับซื้อข้าวมาแต่เดิมจึงทำให้เกิดการข่มขู่กัน

ขณะที่ นายปราโมทย์ ซึ่งไปกันเพียงสองคนสามีภรรยา ขณะที่ นายนิมิต ผู้ตาย มีกลุ่มคนที่ติดตามไปด้วย 5-6 คน จึงทำให้ นายปราโมทย์ บันดาลโทสะชักอาวุธปืนยิงใส่นายนิมิต จนเสียชีวิต

ต่อมา พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้เดินทางตรวจสอบคดีด้วยตัวเอง และสั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งขอออกหมายจับต่อศาล เพื่อติดตามจับกุมตัวนายปราโมทย์ เนื่องจากมีหลักฐานและพยานบ่งชี้ชัดเจน ขณะเดียวกัน มีกระแสว่า ล่าสุด นายปราโมทย์ ได้ประสานขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.พศวีร์ ได้ลงพื้นที่พบปะกับผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคต่างๆ ในพื้นที่เพื่อชี้แจงและขอไม่ให้ใช้ความรุนแรง ขณะที่สถานการณ์ทั่วไปถือว่าปกติ