กระบี่ - ยิงถล่มสองคู่หูที่กระบี่ดับ 1 เจ็บ 1 คาดขัดแย้งธุรกิจมือถือ จนท.เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนิคดี
เวลา 14.00 น.วันนี้ (10 พ.ค.) ร.ต.อ.โสภณ คงทอง ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในปั้มน้ำมันหมอหญิง ม.4 ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยเดช วรดิลก ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.สมเด็จ สุขการ ผกก.สภ.อ่าวลึก พ.ต.ท.วิทยา เมฆใส รอง ผกก.สส.แพทย์เวรโรงพยาบาลอ่าวลึก และหน่วยกู้ภัย
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน สท.1029 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งอยู่ภายในปั้มน้ำมัน บริเวณกระจกข้างซ้าย แตกเป็นรูโหว่ 2 รู ตรวจสอบภายในรถ ที่เบาะนั่งข้างคนขับ พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายชุติพงศ์ เกบุตร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.3 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ นั่งเสียชีวิตอยู่บนเบาะ ในสภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นลายดอกไม้ ถูกยิงเข้าที่บริเวณคิ้วขวา ทะลุคิ้วซ้าย 1 นัด หน้าอกขวาทะลุรักแร้ซ้าย 1 นัด หัวไหล่ขวา 1 นัด กระสุนฝังใน และที่แขนขวา 1 นัด รวม 4 นัด
นอกจากนี้ ทราบว่า ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่าวลึก อ.อ่าวลึก ไปก่อนนี้ ทราบชื่อ นายเนรมิต ดินแดง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/2 ม.5 ต.หนองทะเล อ.เมือง ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก บาดเจ็บสาหัส
จากการสอบสวนในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายและคนเจ็บได้นัดหมายกับเพื่อนของทั้งสอง เพื่อตกลงเรื่องบางอย่าง บนถนนสายเซาร์เทิร์น ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร แต่ขณะที่ผู้ตายและคนเจ็บจอดรถคันดังกล่าวรออยู่บนถนน ก็ได้มีรถกระบะอีซูซู สีบรอด์นเงิน ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน มีคนนั่งมาในรถประมาณ 3-4 คน ขับมาจอดเทียบกับรถของผู้ตายฝั่งคนขับ คาดว่าเป็นเพื่อนของผู้ตาย เมื่อรถทั้งสองจอดเทียบกันต่างฝ่ายต่างก็ลดกระจกลงเพื่อจะพูดคุยกัน ขณะนั้นกลุ่มที่มากับรถกระบะอีกคันได้ชักอาวุธปืนสั้นกระหน่ำยิงทั้งสองก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น นายเนรมิต ได้โทรศัพท์ ไปยังศูนย์กู้ภัยนเรนทร เพื่อขอความช่วยเหลือ และพยายามขับรถมาจอดภายในปั้ม ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่าวลึกต่อไ
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุการสั่งหารในครั้งนี้มาจากธุรกิจมืดที่ทั้งสองฝ่ายอาจจะมีปัญหากัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป