เชียงราย - มือยิงหัวคะแนนใหญ่ “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” นักการเมืองใหญ่พิจิตร ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์พรรคชาติไทยพัฒนา ดับคาลานรับซื้อข้าวแม่จัน เมืองพ่อขุนฯ ติดต่อขอมอบตัวแล้ว ตร.ฟันธง ปมขัดแย้งไม่เกี่ยวการเมืองแน่
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า พ.ต.อ.พศวีร์ โชติเทียนชัยวัต ผกก.สภ.แม่จัน ,พ.ต.ท.ธรรมนูญ ใจดี รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.ทันชัย ยศชูสกุล สารวัตรเวรเจ้าของคดี และชุดสืบสวน ได้ประชุมเพื่อสรุปความคืบหน้าคดีนายนิมิตร แก้วกำพล อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ 8 ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไผ่ขวาง หัวคะแนนใหญ่ของนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา จนเสียชีวิตภายในลานรับซื้อข้าวของสหกรณ์ผู้ใช้น้ำจันจว้าใต้ หมู่ที่ 12 ต.จันจว้า อ.แม่จัน เมื่อค่ำวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา
ผลการสรุปสำนวนเบื้องต้นจากการสอบปากคำของผู้ที่เห็นเหตุการณ์และการออกตรวจสอบข้อมูลของชุดสืบสวนได้ความว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในวันที่ 3 ก.ค.54 ที่จะถึงนี้แต่อย่างใด แต่เกิดจากการทะเลาะวิวาทกันเรื่องการรับซื้อข้าวเปลือกนาปรังของนายนิมิตร ผู้ตาย และนายปราโมทย์ คงทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 9 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพ่อค้ารับซื้อข้าวอีกรายที่ไปรับซื้อข้าวจากชาวนาในพื้นที่จากสหกรณ์เดียวกัน
โดยมีพยานรู้เห็นเหตุการณ์หลายคนระบุว่าทั้งคู่ทะเลาะกัน และนายปราโมทย์ได้ใช้อาวุธปืน .38 ยิงผู้ตายจำนวน 2 นัดก่อนจะขับรถยนต์โตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน กต 3937 จ.อุตรดิตถ์ หลบหนีไป
ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ขอออกหมายจับจากศาล จ.เชียงราย เลขที่ 173/2554 ลงวันที่ 29 พ.ค. 2554 ให้จับกุมตัวนายปราโมทย์ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชุดสืบสวนได้รายงานว่านายปราโมทย์ ซึ่งคาดว่ายังคงหลบซ่อนตัวเพื่อตั้งหลักอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้ติดต่อจะขอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจใน 1-2 วันนี้ เพราะอยู่ระหว่างการเตรียมหลักทรัพย์และจะขอประกันตัวออกไปสู้คดีนี้ต่อไป
พ.ต.อ.พศวีร์กล่าวว่า สาเหตุของการยิงกันเกิดจากเรื่องทะเลาะวิวาทเรื่องการมาซื้อข้าวเปลือก โดยนายปราโมทย์ เคยไปรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาย่านนี้มานานกว่า 3 ปี แล้ว ส่วนนายนิมิต พึ่งเข้าไปรับซื้อและไปซื้อ ที่สหกรณ์เดียวกันได้เพียง 3 เดือน อย่างไรก็ตาม เรื่องมาเกิดขึ้นเมื่อชาวนามักนำข้าวเปลือกไปขายให้นายนิมิตร เพราะจะจ่ายเงินสดโดยไม่มีหนี้ค้างชำระ
กระทั่งคืนวันเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายต่างนำข้าวมากองไว้ที่ลานตากของสหกรณ์ และก่อนที่นายปราโมทย์ จะนำข้าวเปลือกขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ เพื่อขนออกไปก็สงสัยว่าข้าวได้หายไปประมาณ 1 ตัน จึงขอให้นายนิมิตรตรวจสอบข้าวของตัวเอง จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกันถึงขั้นชกต่อยและใช้ปืนตีศีรษะกัน ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยการยิงปืนจนนายนิมิตรเสียชีวิต