“โจกแดง” โร่พบฝ่ายกฎหมาย กกต. ขอเอกสารยัน “ไอ้ตู่” ไม่ขาดคุณสมบัติ ส.ส. หวังแสดงเป็นหลักฐานช่วยยื่นประกันตัวต่อศาล แต่แห้วฝ่ายกฎหมายบอกให้ใช้กฎหมายอ้างอิงได้ “ไอ้เต้น” ยอมรับแกนนำแดงมีขัดแย้งกัน แต่พูดคุยหารือกันแล้วไม่มีปัญหาใหญ่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้สัมภาษณ์
วันนี้(7 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางมาขอความเห็นของฝ่ายกฎหมาย สำนักงานกกต. หลังจากทราบข่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางสำนักกฎหมายของกกต.ได้มีมติรับรองความเป็นส.ส.ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยที่ถูกศาลถอนประกันในข้อหาก่อการร้าย และยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษ กรุงเทพฯ โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในการเดินทางมากกต.ครั้งนี้จะมาขอมติฝ่ายกฎหมายของกกต. เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปประกอบการยื่นคำร้องของประกันตัวนายจตุพร ซึ่งข้อกฎหมายมีความชัดเจนว่านายจตุพรไม่ได้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการรับสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และสามารถรับรองการเป็นส.ส.ได้ โดยการยื่นขอครั้งนี้เป็นเพียงการยื่นขอมติของฝ่ายกฎหมายของกกต. เพื่อให้นายจตุพรได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวให้สามารถได้มีโอกาสได้ออกมารวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงต่อสู้คดีต่อไป แต่ทั้งนี้จะได้ประกันตัวหรือไม่ก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล สำหรับนายนิสิต สินธุไพร แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)นั้น หลังจากที่ตนได้รับการรับรองเป็นส.ส.แล้วก็จะตำแหน่งประกันตัวนายนิสิต เพื่อออกมาสู้คดีเช่นกัน
“มติของฝ่ายกฎหมายกกต.ที่ให้ความเห็นรับรองความเป็นส.ส.ของนายจตุพร เป็นข้อกฎหมายที่มีน้ำหนักว่านายจตุพรมีสถานะเป็นส.ส.ที่นับจากวันเลือกตั้ง หากกระบวนการของกกต.ยังไม่ได้รับรองความเป็นส.ส.ของนายจตุพรและต้องรอถึงวันที่ 12 ก.ค. ผมก็ยอมรับและจะปฏิบัติตาม แต่เมื่อเพื่อนอยู่ในคุก ถ้าช่วยได้ก็ต้องช่วย เพียง 1 วันในคุกมันยาวนาน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ด้านนายจรูญ ศรีสุกใส รองผอ.สำนักกฎหมายและคดี กล่าวชี้แจงต่อนายณัฐวุฒิว่า กรณีที่ปรากฏตามข่าว ที่ประชุมกกต.ได้หารือเบื้องต้นกรณีของนายจตุพร แต่ยังไม่ได้มีมติ รวมทั้งขณะนี้มีเรื่องร้องคัดค้านเข้ามาเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายจตุพร แต่การพิจารณาเป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายว่า อาจจะเป็นไปตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า การสิ้นสุดของสมาชิกภาพความเป็นส.ส.นั้นให้ส.ส.หรือส.ว. ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่สามารถเข้าชื่อพิจารณาการสิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็นส.ส.และส่งไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งไม่ใช่ความเห็นที่เป็นลายลักษณ์อักษรของฝ่ายกฎหมาย อีกทั้งขณะนี้กกต.ยังไม่ได้ประกาศรับรองส.ส.คนใด จนกว่าจะถึงวันที่ 12 ก.ค. นี้
นายณัฐวุฒิ กล่าวภายหลังจากการหารือว่า หลังจากทราบว่า สำนักกฎหมายของกกต.ยังไม่ได้มีความเห็นรับรองให้นายจตุพรเป็นส.ส. แต่ได้เสนอให้นำข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญไปใช้ในการยื่นต่อศาล หลังจากนี้ตนจะให้ทนายความของนายจตุพรรวบรวมข้อกฎหมายตามที่กกต.ชี้แจงและข่าวที่สื่อมวลชลนำเสนอความเห็นของฝ่ายกฎหมาย สำนักงานกกต. ไปยื่นต่อศาล แต่หากนายจตุพรยังไม่ได้ประกันตัวก็ต้องรอให้ถึงวันที่ 12 ก.ค. ที่จะมีการประกาศรับรองส.ส. และหากกกต.รับรองนายจตุพรเป็นส.ส.แล้ว ไม่ว่าช่วงใด ข้อคัดค้านในการไม่ให้ประกันตัวนายจตุพร 2 ข้อคือ 1.อาจมีพฤติการณ์หลบหนี ก็มีน้ำหนักน้อยลง เพราะเป็นส.ส.แล้วจึงไม่มีเหตุในการหลบหนี ส่วน 2.การไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานนั้น ขณะนี้ทราบว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวบรวมหลักฐานทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีเหตุจะไปเกี่ยวข้องได้อีก
นายณัฐวุฒิ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสการไม่ลงรอยระหว่างแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในการทำงานของคนหมู่มาก ที่ผ่านมาแกนนำนปช.ก็เคยมีความคิดเห็นที่ต่างกันมากหลายครั้ง แต่ก็ผ่านมาได้และยังใช้ความเห็นต่างดังกล่าวพัฒนาความสัมพันธ์และการทำงานไปอีกขั้น เมื่อทราบข่าวแล้วตนก็ได้หารือกับนางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานนปช. นายชินวัตร หาบุญพาด นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ และนายวิสา คัญทัพ แกนนำนปช. ที่ปรากฏอยู่ในข่าว เมื่อหาได้พูดคุยกันแล้วก็เข้าใจกันดี ตนยืนยันว่าไม่มีความแตกหัก 100% โดยหลังจากนี้จะมีการนัดมาพูดคุยรวมกลุ่มกันอีกครั้ง แต่ยอมรับว่าในช่วงสองเดือนก่อนการเลือกตั้ง ตนลงพื้นที่หาเสียงต่างจังหวัดเกือบตลอดจึงไม่มีเวลาพูดคุยกันมากนัก โดยเชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย
เมื่อถามว่า ขณะนี้นางธิดายังอยู่ในตำแหน่งรักษาการประธานนปช.หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตำแหน่งงานด้านมวลชนไม่ใช่ตำแหน่งทางราชการที่จะมีการตั้งหรือปลดอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ยืนยันว่าขณะนี้นางธิดายังคงเป็นรักษาการประธานนปช.อยู่ เมื่อมีเรื่องไม่สบายใจก็สามารถปรับจูนคลื่นเข้าหากัน เพราะนปช.เป็นพี่น้องและเป็นเพื่อนตาย ไม่ถึงขนาดแตกหักเดินคนละทาง
เมื่อถามถึงกรณีการออกมาให้ความเห็นของนายเสนาะ เทียนทอง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำพรรคเพื่อไทยถึงความเหมาะสมในตำแหน่งรัฐมนตรีของแกนนำนปช. ว่า ตนยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆ เมื่อนปช.สมัครใจเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ต้องเคารพมติของกรรมการบริหารพรรค หากกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าใครมีความเหมาะสมตามความรู้ความสามารถในการทำหน้าที่ตำแหน่งใด ตนและนปช.ก็เคารพการตัดสินใจ แต่หากทางพรรคเห็นว่าตนและนายจตุพร มีความเหมาะสมให้ทำงานด้านไหนก็พร้อมทำงาน