หากนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.นี้ นายจตุพร มีปัญหาแน่นอนหากไม่ไปใช้สิทธิ เพราะถือว่าขัดต่อกฎหมาย ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า กกต.จะต้องพิจารณาไม่ประกาศรับรองให้นายจตุพรเป็น ส.ส. เพราะหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติก็เป็นหน้าที่ของ กกต. ทันทีที่นายจตุพร ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก็ถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ทันทีเช่นกัน"
นั่นคือคำพูดของ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ที่ได้พูดในประเด็นข้อกฎหมาย ทำนายดวงชะตาชีวิตของเจ้าวายร้ายเสื้อแดง“ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 8 พรรคเพื่อไทย ว่าเขาอาจหมดสิทธิเป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ และหมดสิทธิที่จะใช้เอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.คุ้มกะลาหัวในการต่อสู้คดีของเขา
โดยกรณีดังกล่าว“รัฐธรรมนูญมาตรา 100 กำหนดว่า ผู้ที่ถูกคุมขังโดยหมายของศาล หรือคำสั่งที่ชอบโดยกฎหมาย เป็นผู้ต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่มาตรา 26 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง กำหนดว่าผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องเสียสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง”
หลายคนคงจดจำได้เป็นอย่างดี สำหรับ “ท่าน ส.ส.จตุพร พรหมพันธุ์” ครั้งที่เขายังคงเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย พบว่า เขาได้ใช้เอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.เกินคุ้ม! อีกทั้ง เขาคือผู้ก่อการร้ายแต่เพียงผู้เดียวที่ได้รับอิสรภาพนอกคุก ต่างจากบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่ร่วมก่อการเผาบ้านเผาเมือง เมื่อ 19 พ.ค.2553 ที่ต้องไปชดใช้กรรมในคุก ก่อนที่จะได้รับการประกันตัวออกมา
ความฮึกเหิมของ “จตุพร พรหมพันธุ์” กลับเป็นภัยต่อตัวเอง เมื่อเขาหยิ่งผยองคิดว่ากระบวนการยุติธรรมไม่สามารถนำตัวเขาเข้าคุกได้ ทำให้เขาเกิดความบ้าคลั่ง พูดจาสามหาว โดยเฉพาะครั้งเขาพูดจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง เมื่อวันที่ 10 เม.ย.54 โดยคำพูดในครั้งนั้นทำให้เขาถูกศาลสั่งถอนประกัน ส่งตัวเข้าไปคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจนบัดนี้ ส่วนการดำเนินคดีฐานหมิ่นเบื้องสูง ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษรอเรียกตัวแจ้งข้อกล่าวหา หลังเสร็จศึกเลือกตั้ง
“จตุพร พรหมพันธุ์” แม้วันนี้ เขายังอยู่ในคุก แต่เขามั่นใจเกินร้อยว่าจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติอีกครั้ง และหากเป็นจริง เขาก็จะใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ในการต่อสู้คดีอีกครั้ง นอกจากนั้น หากโชคเข้าข้างเขา พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เขาก็มั่นใจว่าอาจจะส้มหล่นได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกในชีวิตจากผลงานเด่น “ปลุกแดงเผาเมืองให้นายใหญ่”
ด้านมุมมองของคนอยากเป็นนายกฯ อย่าง “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนาก็ฟันธงไว้ว่า หลังเลือกตั้ง “จตุพร” จะได้สิทธิ์เป็น ส.ส. และจะมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง โดยที่ “เสธ.ปรองดอง” ผู้นี้ถึงขั้นให้คำมั่นสัญญาหวังเรียกคะแนนเสียงจากคนเสื้อแดงว่า เขาจะช่วยเหลือให้ “จตุพร” ออกมาจากเรือนจำให้ได้
27 มิ.ย. 2554 เวลาบ่ายแก่ๆ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องขอประกันตัว “นายจตุพร พรหมพันธุ์” และ “นายนิสิต สินธุไพร” โดยที่ศาลให้เหตุผลชัดเจนว่า... “ความผิดที่ถูกกล่าวหามีโทษสถานหนัก พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง มีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสอง จำเลยอาจก่อให้เกิดอันตรายกระทบต่อความสงบเรียบร้อย จึงยังไม่มีเหตุสมควรปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง”
เรื่องประกันตัวดาวร้ายหมายเลข 1 แห่งพรรคเสื้อแดง“นายวิญญัติ ชาติมนตรี” ทนายความ นปช.ไม่ได้ละความพยายาม
ถัดมา 28 มิ.ย.ทนายคนเดิม ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนายจตุพร จำเลยที่ 2 อีกครั้ง โดยคำร้องได้อ้อนวอนศาลว่า จำเลยที่ 2 ขอความเมตตาและความเป็นธรรมจากศาล ขออนุญาตประกันตัวเพียง 1 วันในวันที่ 3 ก.ค.54 ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. เพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อใช้สิทธิเสร็จแล้วจะกลับมามอบตัวต่อศาล หรือเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในเวลา 15.00 น.
ที่สำคัญคำร้องได้เขียนในลักษณะท้าทายอำนาจศาลว่า หากศาลจะไม่อนุญาต สาธารณชนอาจมองทางตรงข้ามว่าจำเลย ถูกสกัดกั้นทางการเมือง ซึ่งจำเลยหลายคนในคดีนี้ศาลได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้ว และยังมีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เช่น นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ ผู้ต้องหาคดีอาญาเช่นเดียวกับจำเลยก็ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
จากเหตุผลที่ยกมา ปรากฎว่า ภายหลังศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ก่อนหน้านี้ทั้งศาลอาญา และศาลอุทธรณ์เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย โดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว และกรณีตามคำร้องก็เป็นเพียงความเห็น จึงยังไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้องทำให้ “จตุพร พรหมพันธุ์” ต้องชดใช้กรรมในคุกต่อไป
ส่วนก่อนถึงวันเลือกตั้ง “จตุพร” จะต่อสู้อย่างไรต่อไป ยื่นขอประกันตัวอีกหรือไม่ และเขาจะได้เป็น ส.ส.หรือไม่ คำตอบสุดท้าย อยู่ที่ดุลพินิจของศาล!
