xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยกคำร้อง! “ไอ้ตู่” นอนคุกต่อวืดออกมาสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายจตุพร พรหมพันธุ์
ทนาย นปช. ยื่นคำร้องศาลอาญา ขอ จตุพร พรมพันธุ์ ออกจากคุกไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อ้างก่อแก้วเคยขอได้มาก่อน และยินดีที่จะออกค่าใช้จ่ายเอง ต่อมา "ไอ้ตู่" แห้วนอนคุกต่อ ศาลไม่อนุญาตให้ออกจากเรือนจำมาสมัคร ส.ส. ชี้ หัวหน้าพรรค หรือ กก.บริหารพรรคเป็นผู้ยื่นบัญชีรายชื่อเอง เจ้าตัวจึงไม่ต้องออกจากคุก


วันนี้ ( 18 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเศก นายวิญญัติ ชาติมนตรี พร้อมด้วยนายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้มายื่นคำร้องขอให้ศาลอนุญาตให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. และ อดีต ส.ส. สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในข้อหาก่อการร้าย เพื่อออกไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทย หลังจากจำเลยได้รับการเสนอชื่อจากกรรมการบริหารพรรคให้เป็นผู้สมัครของพรรค

โดยคำร้องสรุปว่า จำเลยยังคงอยู่ในเรือนจำฯ ทำให้ไม่สามารถออกไปใช้สิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้ ตามที่ กกต. ได้กำหนดเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อระหว่างวันที่ 19 -23 พ.ค. นี้ ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง ดังนั้น จึงขอให้ศาลมีคำสั่งไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวนายจตุพรไปยังสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 19 พ.ค. นี้ด้วย และเมื่อเสร็จสิ้นการรับสมัคร ก็ให้นำตัวนายจตุพรกลับมาควบคุมไว้ที่เรือนจำดังเดิม ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นในการนี้ นายจตุพรยินดีรับผิดชอบทั้งหมด

ทั้งนี้ ในคำร้องของนายจตุพรยังได้อ้างคำสั่งของศาลอาญา ที่เคยอนุญาตให้นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. ออกไปใช้สิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.แบบแบ่งเขตได้ เมื่อครั้งที่เคยถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำฯ

ด้านนายคารม กล่าวถึงการขอปล่อยตัวชั่วคราวนายจตุพร เพื่อออกไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่า แม้ กกต. จะมีมติให้หัวหน้าพรรค หรือ ตัวแทนเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อแทนได้ แต่นายจตุพร ก็จำเป็นต้องลงลายมือชื่อในหนังสือแสดงความจำนงขอลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยตนเอง และนายจตุพรก็มีความประสงค์ที่จะเดินทางไปลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วยตนเอง

ส่วนการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลขอปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุพร และ นายนิสิต จำเลยในคดีก่อการร้ายนั้นพวกตนเองได้เตรียมคำร้องอุทธรณ์ของทั้งสองไว้แล้ว และจะนำไปให้จำเลยดูที่เรือนจำฯ โดยมีประเด็นที่จะให้ศาลพิจารณาว่า นายโกวิท ศรีไพโรจน์ อัยการผู้ยื่นขอถอนประกัน แกนนำนปช. 9 คน ไม่ใช่อัยการที่เป็นหัวหน้าชุดในการพิจารณาข้อมูลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ขอให้ถอนประกันแกนนำทั้ง 9 คน และการที่จำเลยมีพฤติกรรมที่อาจจะเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงนั้นไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการประกันตัวของศาล และประเด็นอื่น ๆ อีกกว่า 10 ประเด็น และจะสามารถยื่นคำร้องได้ภายในปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า

ต่อมาศาลพิเคราะห์คำร้องแล้ว เห็นว่า การสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากหัวหน้าพรรคการเมืองจะเป็นผู้ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครเลือกตั้งดังกล่าว โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลยที่ 2 จึงไม่จำเป็นต้องไปสมัครด้วยตนเอง ไม่มีเหตุสมควรอนุญาต ยกคำร้อง

เวลา 15.00 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลยคดีก่อการร้าย เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวของนายจตุพร ซึ่งหลังจากที่ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนสัญญาประกัน โดยให้เหตุผลว่าอาจก่ออันตรายอย่างอื่น ดังนั้นประเด็นที่จะอุทธรณ์มีอยู่ 4 ประเด็นคือ 1. การที่ศาลบอกว่าอาจจะก่ออันตรายอย่างอื่นมันเป็นสิ่งที่เราเห็นว่า ศาลคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า จากพฤติการณ์นายจตุพรที่ผ่านมาไม่เคยก่ออันตรายใดๆ ไม่เคยยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ไม่เคยหลบหนี ดังนั้นประเด็นที่ศาลมองนั้นเราเห็นว่ายังไม่ชัดเจน และเป็นสิ่งที่ไม่ได้ระบุเหตุผลพอสมควร

นายวิญญัติ กล่าวต่อว่า ประเด็น 2. นายจตุพรทั้งเคยเป็นอดีตส.ส. และผู้สมัครส.ส. หลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ทั้งข้อกำหนดกกต. และกฎหมายที่ควบคุม ดังนั้นการที่นายจตุพรจะไปก่ออันตรายจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว นอกจากนี้เวทีของคนเสื้อแดงเขามีหนังสือยืนยันจากประธานนปช.ว่า การชุมนุมต่างๆผู้สมัครที่เป็นแกนนำจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเวที และจะไม่มีการปราศรัยบนเวทีเสื้อแดงอีกเลย นอกจากเป็นเวทีของพรรคการเมือง ประเด็นที่ 3.เรื่องกระบวนการทำคำสั่งในการพิจารณา เห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขั้นตอนหลังจากนี้เราจะพิจารณาจากคำสั่งศาลอุทธรณ์ก่อน แล้วจะดูว่าจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไปอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไรบ้าง นายวิญญัติ กล่าวว่า ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเป็นกฎหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งใช้ในกระบวนการพิจารณาคดีและทำคำสั่งศาล ซึ่งกำหนดไว้ว่าเจ้าของสำนวนหรือองค์คณะพิจารณาจะต้องทำสำนวนนั้นมาแต่ต้น และคนที่ทำคำสั่งก็ต้องอยู่ร่วมกันหรือทำคำสั่งมาด้วย เมื่อเราพิจารณาตามระเบียบที่เกี่ยวข้องในราชการศาลเห็นว่าไม่ถูกต้องตามระเบียบ เพราะอธิบดีและรองอธิบดีทั้ง 3 คน ที่มาทำคำสั่ง ไม่ใช่องค์คณะพิจารณาในคดี แต่มาด้วยอำนาจกฎหมายใดเราก็ต้องการความชัดเจน และประเด็นที่ 4 นายจตุพร มีภาระต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้ง 2 คน โดยบุตรธิดาอายุ 9 ขวบ และบุตรชาย อายุ 1 ขวบเศษ ดังนั้นการที่นายจตุพรถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจะมีปัญหาในการเลี้ยงดู และการศึกษาได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นยื่นอุทธรณ์ให้นายจตุพรคนเดียวใช่ หรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ใช่ ส่วนนายนิสิตยังไม่ยื่น เพราะจะรอฟังคำสั่งของนายจตุพรก่อน ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้อีก 3 วัน ศาลคงจะมีคำสั่งออกมา

เมื่อถามว่าหากศาลยกคำร้องอีกครั้งเท่ากับว่านายจตุพรก็ไม่ได้ออกมา นายวิญญัติ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะยังไงคนเสื้อแดงก็ยังเจอคุณจตุพรได้ เนื่องจากคุณจตุพรมีคดีที่ศาลจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.นี้ จะมีการสืบพยานจำเลยในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฟ้องหมิ่นประมาท

"เราไม่ได้ท้าทายนะครับ แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อคนเสื้อแดงก็อยากติดตามคดีของคุณจตุพร ดังนั้นทุกครั้งที่คุณจตุพรมาศาล คนเสื้อแดงก็จะมาที่ศาลด้วย" ทนายความนายจตุพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นเช่นนี้ศาลอาจนัดไต่สวนลับหลัง นายวิญญัติ กล่าวว่า นายจตุพรยืนยันแล้วว่า จะมาศาลในทุกๆคดีด้วยตัวเอง ดังนั้นคงไม่มีการไต่สวนลับหลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น