ปาร์ตี้ลิสต์โจกแดง เริ่มแสดงอำนาจบาตรใหญ่ในนาม นปช.ลั่นต้องหาตัวคนรับผิดชอบเหตุสลายการชุมนุมแดงเผาเมือง โชว์ติ้วแทรกแซงกรมคุกทันควัน กร้าวผู้ต้องหาแดงกบฏ 100 ชีวิต ต้องได้รับประกันตัว อดีตผู้ว่าการรถไฟฟ้าแก๊งเผาไทย เหน็บ “มาร์ค” ประกาศลาออกจาก หน.พรรค แค่ละครฉากหนึ่ง ด้าน “หลงจู๊” นัดเป่ากระหม่อม “เทือก” หลังพ่ายยับ
วันนี้ (4 ก.ค.) นพ.เหวง โตจิราการ ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของ นปช.จากนี้ไปว่า ยังคงภารกิจหลักตามนโยบาย 6 ประการ ส่วนการเคลื่อนไหวการชุมนุมรำลึกถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อปีที่ผ่านมา จะยังคงอยู่ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และเหตุการณ์นั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ความจริง จึงต้องการเรียกร้องให้เดินหน้าตรวจสอบ และนำตัวคนผิดมารับผิดชอบ พร้อมขอเรียกร้องให้พี่น้องคนเสื้อแดงที่อยู่ในเรือนจำกว่า 100 คน ได้รับการประกันตัว
ส่วนบทบาทหน้าที่ของตนในอนาคตจะต้องทำหน้าที่ ส.ส.เป็นหลัก ส่วนหน้าที่ นปช.ยังต้องทำคู่ขนานไปเช่นกัน พร้อมปฏิเสธไม่ได้ว่าเนื้อแท้ตนคือคนเสื้อแดง แต่การเข้าร่วมกิจกรรมคนเสื้อแดงต้องพิจารณาเป็นกรณีว่าสามารถเข้าร่วมกิจกรรมใดได้บ้าง
นายประภัสร์ จงสงวน ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งเพื่อสร้างภาพในการแสดงความรับผิดชอบเท่านั้น สุดท้ายแล้วเชื่อว่ามติของที่ประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ก็จะโหวตเลือกนายอภิสิทธิ์กลับเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง แต่ไม่ทราบว่านายอภิสิทธิ์จะรับตำแหน่งอีกครั้งหรือไม่ แต่ถ้าเป็นความจริง ก็จะเป็นการสร้างความชอบธรรมและการยอมรับในการยึดหลักการ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และสอดคล้องกับเสียงประชาชนใน กทม.ที่ลงคะแนนเลือก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาเป็นส่วนใหญ่
ด้าน นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า คงไม่ใช่ปัญหา และเชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์คงมีมติเลือก นายอภิสิทธิ์กลับเข้ามาใหม่ได้ ทั้งนี้ ตนได้พูดคุยกับ นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะมีการนัดรับประทานอาหารร่วมกัน
สำหรับหน้าตาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นั้น นายบรรหารกล่าวว่า คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล แต่คงเป็นการตัดสินใจส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ที่คงเลือกกระทรวงสำคัญก่อน โดยเฉพาะงานด้านเศรษฐกิจ และไม่ขอแสดงความเห็นหาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อ ว่า มีความเหมาะสมหรือไม่
