ตามคาด!!! ที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย มติเอกฉันท์ เลือก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาวนักโทษหนีคดี นั่งผู้สมัครบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมใหญ่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อลงมติเห็นชอบผู้สมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ เลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้สมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ หมายเลข 1 และเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ซึ่งทางหัวหน้าพรรค เตรียมจะนำหารือกับกรรมการบริหารพรรคต่อไป
ขณะที่ บรรดาสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ กำลังรอสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่คาดว่ากำลังเดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อไทยในเร็วๆ นี้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจกับมติพรรค เพราะได้สนับสนุนมาโดยตลอด 2 ปี ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้มีความสามารถและโดดเด่นเรื่องธุรกิจ
สำหรับประวัติส่วนตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกิดเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2510 เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 9 คนของ นายเลิศ และ นางยินดี ชินวัตร สมรสกับ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) มีบุตร 1 คน คือ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร (ไปป์)
การศึกษา ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคนตักกีสเตต สหรัฐอเมริกา เข้าทำงานที่บริษัท ชินวัตร ไดเร็กทอรี่ส์ จำกัด เป็นกรรมการผู้อำนวยการของเอไอเอส เมื่อปี 2545 หลังขายหุ้นให้เทมาเส็ก จึงลาออกมารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเอสซี แอสเซท จำกัด เพียงตำแหน่งเดียวปัจจุบัน เป็นกรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคมเข้ามาทำงานการเมือง รับช่วงต่อจากพี่ชายและพี่สาว นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งถูกตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี
ยันไม่แก้แค้นแต่จะแก้ไข
ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แถลงข่าวระบุว่า ครอบครัวตนเป็นคนต่างจังหวัดที่ทำการค้าขาย จึงเข้าใจปัญหาของประชาชน และเรื่องเศรษฐกิจเป็นอย่างดี นอกจากนี้ตนยังจบการศึกษาทางด้านรัฐศาสตร์ และทำการบริหารองค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชนมาตลอด จึงทราบความเข้าใจของประชาชนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า ตนยังเคยทำงานการกุศลกับมูลนิธิไทยคมซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเยาวชนไทย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวถึงเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนเข้าใจธรรมชาติของการเมืองเป็นอย่างดี ขณะที่คนทั่วไปก็ยังคงคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นพี่ชายของตนเองและนโยบายที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยทำเอาไว้ ทั้งนี้ตนอยากเห็นความสามัคคีและปรองดองในชาติ โดยไม่คิดแก้แค้นแต่จะแก้ไข รวมถึงตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาประชาชนต่างๆ ด้วย
“อยากเห็นการเมืองไทย เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์และเป็นไปตามระบบนิติธรรม ดังนั้นดิฉันและพรรคเพื่อไทยจึงขอขันอาสาที่จะรับใช้กับหน้าที่อันทรงเกียรติ และเข้าสู่กติการการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ทั้งนี้หวังว่าประชาชนจะให้โอกาสดิฉันและพรรคเพื่อไทยในการเข้ามาทำงานรับใช้ประชาชน” น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุ พร้อมกันนี้ยังตอบคำถามของนักข่าวถึงการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า ตนและพรรคเพื่อไทยคงไม่สามารถทำอะไรเพื่อคนๆ เดียวได้ แต่นโยบายดังกล่าวต้องตั้งอยู่บนประโยชน์ของประชาชน