5 พรรค แถลงตั้ง รบ.ปูแดง “ยิ่งลักษณ์” ยันสร้างปรองดอง เลือก ครม.ตามความสามารถ

เพื่อไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พลังชล มหาชน แถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน "ปู" ยันเร่งสร้างปรองดอง โยนคอป.ทำ ร่วมคณะทำงาน 5 พรรค ตั้งกรรมการอิสระดูกฏหมาย จัดงานเฉลิมพระชนม์ 84 พรรษา ฟื้นเศรษฐกิจ ขจัดคอรัปชั่น แย้มครม.จัดให้ตรงความสามารถ


วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.โรงแรมเอสซีปาร์ค พรรคเพื่อไทยนำโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคนายเสนาะ เทียนทอง ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพายัพ ชินวัตร แกนนำพรรค และบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมถึงอดีต 111 ไทยรักไทย ประกอบด้วยนายวราเทพ วรากรณ์ นายพงษ์เทพ เทพกาญนา รวมถึงนายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดยพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค นายธีระ วงษ์สมุทร แกนนำพรรค ด้านพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน นำโดยน.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค ร.ต.ประภาส ลิมปะพันธุ์ ส่วนทางด้านพรรคพลังชล นำโดยนายเชาว์ มณีวงษ์ หัวหน้าพรรค และทีมที่ปรึกษาพรรค นายวิทยา คุณปลื้ม และนายอิทธิพล คุณปลื้ม และนายอภิรัตน์ ศิรินาวิน หัวหน้าพรรคมหาชน ซึ่งเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อเพียง 1 เดียวของพรรค ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้มีทั้งหมด 299 เสียง

ด้านนายเชาว์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิดว่าพรรคพลังชลจะได้เก้าอี้อะไร แต่ยอมรับว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นกระทรวงที่อยู่ในความสนใจ เพราะเป็นกระทรวงที่เคยดูแลมาก่อน ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่า จะสามารถร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้ และจะเป็นครม.ที่สังคมให้การยอมรับ ส่วนการผลักดันการนิรโทษกรรมนั้น พรรคพลังชลต้องขอดูแนวนโยบายก่อน ถ้าหากยอมรับได้ทางพรรคก็พร้อให้การสนับสนุน

ขณะที่แกนนำทั้ง 5 พรรคได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน จนกระทั้งเวลา 13.45 น. แกนนำทั้งหมดได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ และขอบคุณทุกพรรคการเมืองที่ทำให้การเลือกต้งผ่านไปอย่างสมบูรณ์ ทั้ง 5 พรรคได้แสดงเจตนารมณ์สอดคล้องกันในการบริหารประเทศแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามความชัดเจนหลังจากนี้คงต้องรอผลการรับรองอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต.ก่อน สำหรับพรรคที่เรียนเชิญประกอบด้วยพรรคชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พลังชล และพรรคมหาชน รวมพรรคเพื่อไทย 5 พรรคการเมือง ซึ่งรวมแล้วตัวเลขสวยอยู่ที่ 299 เสียง และเพียงพอในการรับใช้พี่น้องประชาชน และพรรคมีเจตนารมณ์ตรงกัน หลังจากนั้นจะเข้าไปดูข้อบังคับพรรค เพื่อเตรียมแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง วันนี้ถือว่าพวกเรา 5 พรรคมีเจตนาตรงกัน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาระกิจเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองคือ เรื่องของการทำอย่างไรให้ประเทศชาติข้ามไปสู่ความสามัคคีปรองดอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกพรรคได้วางนโยบายสามัคคีปรองดองไว้ โดยการพูดคุยกับทุกภาคส่วน มอบหมายคณะคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติที่มีคณิต ณ นครเป็นประธาน รวมทำงานกับคณะจาก 5 พรรคการเมือง และทีมอิสระที่แต่งตั้งเพิ่มในเรื่องข้อบังคับกฎหมาย และการจัดงานเฉลิมฉลองวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะครบรอบ 84 พรรษาอยากให้คนไทยเข้ามามีส่วนร่วมในการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นพระกำลังใจ แสดงความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย

และการพลิกฟื้นเศรษฐกิจอีกปัญหาหนึ่งที่เราต้องเร่งฟื้นหรือกระชากเศรษฐกิจให้ฟื้นขึ้นโดยเร็ว เป็นปัญหาทุกพรรคเห็นสอดคล้องกัน รวมถึงการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศประเทศให้กลับคืนมาให้เร็ว รวมถึงการสร้างความสามัคคีในทวิภาคีกับประเทศเพื่อนบ้าน และ การเร่งสร้างขวัญกำลังใจของข้าราชการ เป็นอีกประการที่เราให้ความสำคัญ เพราะข้าราชการต่างๆ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้เดินหน้าต่อไปได้ แก้ไขปัญหาการคอรัปชั่นเป็นอีกปัจจัยที่เป็นปัญหาทุกวันนี้ เราต้องมีแนวนโยบายในการขจัดปัญหาคอรัปชั่นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสชัดเจน เพื่อให้พี่น้องประชาชนสบายใจว่าการทำงานของพรรคการเมืองตรวจสอบได้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสุดท้ายตนและพรรคเพื่อไทยได้แสดงประชาคมไว้วันที่ 1 ก.ค.ว่า จะนำนโยบายทั้งหมดที่ได้ชี้แจงประชาชนไปแล้ว มาหารือทุกพรรคการเมืองเพื่อเพิ่มเติมเป็นแผนในการทำงานและเร่งฟื้นฟูแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน และสุดท้ายนี้ถือโอกาสนี้ขอบคุณหัวหน้าพรรคทุกพรรค ที่แสดงเจตนารณ์ตรงกัน ที่เราอยากเห็นการก้าวสู่ความสามัคคีปรองดอง เพื่ออนาคตของประเทศชาติ หวังว่าเจตนารณ์ต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ทุกพรรคมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานและขอรับใช้ประชาชน หลังจากนี้ขอติดตามดำเนินการติดตามการตอบรับเป็นทางการที่ถูกต้องต่อไป

ด้านพล.ต.สนั่น กล่าวว่า การเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคชาติไทยพัฒนาเมื่อคืนนี้ได้มีการตอบรับแล้ว และพรรคให้ตนเป็นตัวแทนร่วมทประชุมในการร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งในรายละเอียดหัวหน้าพรรคคงได้พบปะว่าที่นายกฯต่อไป ตนมาแค่รับฟังเท่านั้น

ขณะที่น.พ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า กรอบขอบคุณน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ให้เกียรติเชิญร่วมรัฐบาล และพรรคยินดีตอบรับคำเชิญ เนื่องจากเพื่อไทยได้การยอมรับจากประชาชนได้เสียงเกินครึ่ง และพรรคของเราเองเห็นด้วยที่จะสนับสนตุนน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และพรรคเรามีประสบการณ์ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยมาแล้วทำงานอย่างราบรื่น แก้ข้อขัดแย้งในสังคมไทยเพื่อให้เกิดความสามัคคีปรองดอง และถือเป็นพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ไม่การที่ไทยจะนายกฯหญิง และเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรีสามารถบริหารประเทศชาติได้

ทางด้านนายเชาว์ กล่าวว่า พรรคพลังชลถือโอกาสนี้ขอบคุณน.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยที่ให้เกียรติให้โอกาสพรรคพลังชลเข้าร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ตลอดระยะเวลาที่เราเริ่มการเมือง มีหลายประการนโยบายของพรรคสอดคล้องต้องกัน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ และการเมืองซึ่งต้องแก้ไขปรับต่อไป และเรื่องของสังคมโดยเฉพาะเยาวชนที่จะเติบโตเป็นพลังของชาติ ที่สำคัญเรื่องการปรองดองสมานฉันท์ถือเป็นหัวใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติ พรรคพลังชลมองว่าการสร้างความสามัคคีในชาติเป็นเรื่องใหญ่ และปีนี้เป็นปีมหามงคล

ขณะที่นายยงยุทธ กล่าวว่า ประเด็นแรกพรรคเพื่อไทยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูง รู้สึกอบอุ่นมั่นใจทำงานให้ประเทศชาติต่อไป และขอบคุณเพื่อนทั้ง 4 พรรคที่มาร่วมทำงาน และจะได้นำเรื่องราวต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้คณะกรรมการบริหารของพรรคพิจารณาอนุมัติเห็นชอบตามระเบียบของพรรคต่อไป

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรื่องของนโยบายปรองดองคณะกรรมการชุดของดร.คณิตก็ต้องให้ทำงานต่อไป และท่านก็ตอบรับแล้ว คงต้องทำเร่งรัดให้เร็วที่สุดจะหารือกับอาจารย์คณิต และพล.ต.สนั่นเป็นผู้เริ่มต้นเรื่องนี้อยู่แล้ว คงต้องหารือในรายละเอียด เบื้องต้นอย่างให้คณะกรรมการนี้ทำงานอย่างอิสระและเป็นธรรมที่สุด ซึ่งเราเองก็เชื่อมั่น หากคุยกันฉันท์พี่ฉันท์น้องเชื่อว่า จะทำให้การปรองดองเกิดขึ้นได้ คณะกรรมการชุด ดร.คณิตต้องให้ทำงานต่อไปเพื่อให้ท่านเร่งรัดหาความจริง นโยบายปรองดองทุกพรรคเห็นตรงกันว่า คณะกรรมการต้องทำงานอย่างชัดเจนเพื่อให้ชาติเดินไปข้างหน้า ภาคการเมืองไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอยากให้เป็นเรื่องการทำงานโดยอิสระ ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรมเพื่อไทยแถลงจุดยืนแล้วไม่มีนโยบายนิรโทษกรรให้คนๆ เดียวจะทิ้งเรื่องนี้ให้คณะกรรมการชุดดร.คณิตดำเนินการ โดยยึดหลักที่ว่า กติกาทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรมหลักนิติธรรมกับทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ภายใต้กติกาว่า ทุกคนต้องได้รับหลักนิติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามถึงสัตยาบันที่พรรคชาติไทยพัฒนาทำกับพรรคภูมิใจไทย พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถึงเวลานี้ต้องชัดเจนการที่จะพูดกับพรรคภูมิใจไทยคงจะมีคณะกรรมการชุดหนึ่งที่ได้พูดจากันไว้ไปทำความเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงนโยบายที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ได้ทำไว้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อะไรที่เป็นประโยชน์พี่น้องประชาชนดีอยู่แล้ว พรรเพื่อไทยคงไม่ไปยกเลิก แต่จะเป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้นและหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับเสถียรภาพรัฐบาลกับเสียง 299 เสียงนั้นจริงๆ วันนี้เสียงของพรรคเพื่อไทยเกินกรึ่งหนึ่งอยู่แล้ว เชื่อว่ามีเสถียรภาพ และพรรคร่วม เห็นว่า 299 เสียงมีเสถียรภาพเพียงพอในการที่บริหารรัฐบาล ส่วนเรื่องของโควต้ารัฐมนตรีของไปทีละขั้น และขอหารือกับแกนนำทุกพรรคก่อน และเรื่องของหลักการพิจารณาผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถตรงแต่ละกระทรวง ดูผลงานเป็นหลัก เพราะถือว่าเป็นผลงานที่ต้องทำร่วมกัน ซึ่งเรื่องของตำแหน่งรัฐมนตรีต้องขอให้ไปทีละขั้นก่อน ส่วนบทบาทของกองทัพวันนี้ที่มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงก็เชื่อว่า กองทัพคงจะต้องทำบทบาทภาระนี้อย่างเต็มที่ และนโยบายภาพรวมในการบริหารประเทศก็จะเป็นเรื่องที่จะมีการมอบหมายให้กับกองทัพอีกครั้งหนึ่ง